▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพยนตร์ต่างประเทศ
ภาพยนตร์แฟนตาซี
___ [ กระทู้สุดจินตนาการ ] _ไปเที่ยวชม "..ปราสาทราชวัง ในโลกเทพนิยาย.." กันเถอะ ___
.... เดินทางข้ามขอบฟ้าสู่ดินแดนที่ห่างไกล ณ สุดปลายสายรุ้ง ในดินแดนแห่งออซ
ดำดิ่งสู่อันเดอร์แลนด์ ดินแดนพิศวงที่อยู่ใต้พื้นพิภพ
เปิดตู้โบราณเดินทางสู่ดินแดนที่ถูกสาป นาร์เนีย กับตำนานยิ่งใหญ่สุดอภินิหาร
ผจญภัยในดินแดนแห่งเรื่องราวขับขาน ตำนานแห่งวีรบุรุษ มิดเดิลเอิร์ธ
และพุ่งทะยานเหนือน่านฟ้าแหวกเมฆาฝ่าดวงดาวสู่อาณาจักรแห่งเทพเจ้า แอสการ์ด ....
เดินทางไปเที่ยวชมปราสาทราชวังทั้ง 10 อันวิจิตรตระการตา จาก 5 อาณาจักรเทพนิยาย
สถาปัตยกรรมที่ก่อกำเนิดจากตำนานเล่าขาน นิทานพื้นบ้าน ปกรณัม ปรัมปรา หรือวรรณกรรม
ทอดผ่านยุคสมัยมาเป็นเวลานาน สู่การสรรรสร้างเกิดเป็นภาพอันปรากฏ "บนจอภาพยนตร์"
ขับกล่อมเรื่องราวด้วยบทเพลงแห่งหุบเขาเดียวดาย
แอสการ์ด คือที่อยู่ของเทพปกรณัมนอร์ส ตั้งอยู่ในจุดหนึ่งของห้วงเอกภพ สถาปัตยกรรมต่างๆจะเน้นสีทอง แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเหล่าเทพ
บริเวณทางเดินสุดโอ่อ่า ด้านข้างเป็นรูปปั้นนักรบยืนเรียงรายเป็นแถวยาว
ภาพจากมุมสูง จะเห็นว่าด้านล่างเป็นมหาสมุทร
ใกล้เข้ามาอีกหน่อย จะเห็นประตูทางเข้า ที่มีสะพานทอดผ่านเข้าไป
ใกล้เข้ามาอีก เห็นทางเข้าชัดเจนขึ้น สังเกตจุดเล็กๆเต็มไปหมดที่อยู่ด้านใน นั่นคือเหล่าเทพจำนวนมหาศาล ดังนั้นจะเห็นว่าปราสาทหลังนี้ใหญ่มากๆ
บรรยากาศด้านใน ยิ่งใหญ่มากจริงๆ
นี่คือบัลลังก์ของพระราชา จะเน้นสีทอง และดูยิ่งใหญ่ ที่แท่นทั้ง 2 ข้าง จะมีอีกามาเกาะ เพราะถือเป็นสัตว์ประจำตัวของราชา
สะพานสายรุ้งน้ำแข็ง สะพานที่เชื่อมต่อจากตัวปราสาทใหญ่ไปสู่ห้องประตูมิติ ตามตำนานนอร์สกล่าวว่าสะพานนี้เกิดจากสายรุ้งที่แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง เพราะชาวนอร์ส หรือชาวสแกนดิเนเวียอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งตลอดเวลา เรื่องราวเทพของพวกเขาจึงเกี่ยวข้องกับน้ำแข็ง
ราชาโอดิน บิดาแห่งเทพเจ้านอร์ส ผู้ครองแอสการ์ด
เมืองมรกต ตั้งอยู่ใจกลางดินแดนลับแลที่ชื่อว่าออซ มีลักษณะเป็นสีเขียวแซมสีทองสะท้อนกับแสงตะวันเป็นประกายเหมือนอัญมณีมรกต และมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร บริเวณรอบๆเป็นภูเขา ป่าไม้ ทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ และแปลงเกษตร น่าจะสะท้อนถึงประเทศอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นยุคก้าวข้ามศตวรรษ ยุคที่อุตสาหกรรมเริ่มเข้ามามีบทบาทในวิถีคนอเมริกันมากขึ้น สังคมเกษตรกรรมก็เริ่มแคบลงเรื่อยๆ
บริเวณด้านหน้า ประตูทางเข้าสู่เมืองมรกต จะเห็นเป็นถนนอิฐสีเหลืองทอดผ่านเข้าไปในประตูเมือง และบริเวณด้านซ้ายจะเป็นทุ่งดอกไม้สีแดงฉาน นั่นคือทุ่งดอกป๊อปปี้
เมื่อมองจากหน้าวัง จะเห็นทุ่งดอกป๊อปปี้ชัดเจนขึ้น ทุ่งนี้ไม่ใช่ดอกป๊อปปี้ธรรมดา แต่เป็นดอกปีอปปี้มรณะ มันจะส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา หากใครสูดดมกลิ่นเข้าไปจะหลับไหล และหากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จะตายในที่สุด
ประตูทางเข้าด้านหลัง ดูเหมือนจะเป็นประตูลับ หรือเป็นประตูสำหรับผ่านเข้าออกสำหรับการขนส่งเล็กๆน้อยๆ
ห้องบัลลังก์พระราชา ที่เก้าอี้ประทับจะมีรูปสลักสิงโต เพราะสิงโตถือเป็นสัตว์ประจำชาติดินแดนนี้ ที่ผืนธงก็เป็นรูปสิงโต
ภาพมุมสูง เห็นเป็นลานตรงกลางขนาดใหญ่ ที่ที่ประชาชนจะมาประชุม ประท้วง หรือจัดงานรื่นเริง ที่บริเวณลานกว้างแห่งนี้
โฉมหน้าของพ่อมดออซ ราชาแห่งดินแดนออซ ผู้ปกครองเมืองมรกต
ปราสาทกลินดา ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของดินแดนออซ บนหน้าผาสูงเฉียดฟ้า มีหมู่บ้านของประชาชนหลังเล็กปลูกอยู่รายล้อมแนบชิดกัน ประกอบด้วยเผ่าทิงเกอร์ เผ่ามันช์กินส์ และเผ่าควอดลิงส์ สิ่งแวดล้อมโดยรอบเป็นสภาพภูมิทัศน์ที่สวยสดงดงาม มีกำแพงมนตราล้อมรอบ คนที่จะผ่านกำแพงนั้นมาได้ ต้องเป็นคนที่มีจิตใจดีงามบริสุทธิ์เท่านั้น
บริเวณลานตรงกลางพระราชวัง เป็นลักษณะทรงกลมเล็ก ไม่กว้างมาก มีถนนอิฐสีเหลืองทอดผ่านเข้ามา แล้วม้วนเป็นรูปก้นหอย ดูเล็กและอบอุ่น
ประตูทางเข้าไปสู่ภายในวัง บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยการตกแต่งจากต้นไม้ ดอกไม้ หลากสีสัน และมีรูปปั้นสไตล์กรีก เป็นการตกแต่งแบบเทพนิยายมากๆ
นี่คือบริเวณด้านใน เป็นห้องนอน ตกแต่งแบบเรียบง่าย โทนสีอุ่นๆ มืดๆ เหมาะกับการพักผ่อนนอนฝัน
เมื่อมองลงมาจากบนปราสาทก็จะเห็นสภาพภูมิทัศน์ที่ชัดเจนมากขึ้น มองไปไกลๆเป็นภูเขาหิมะ และทุ่งหญ้าป่าไม้หลากสีสันเต็มไปหมด
เป็นภาพภายในหมู่บ้านควอดลิงส์ ที่ปลูกอยู่ใกล้ๆตัวปราสาท จะเป็นพวกที่ทำอาชีพเกษตรกร
แม่มดกลินดา แม่มดแดนใต้ แห่งดินแดนออซ ผู้ครองนคร
ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเขาสูงริมทะเล แห่งดินแดนนาร์เนีย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่ยุคอัสลานสร้างโลก และถือเป็นเมืองหลวงของนาร์เนีย รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นสไตล์อังกฤษโบราณ ดูยิ่งใหญ่ แต่เรียบง่าย ที่ผืนธงเป็นสัญลักษณ์สิงโต สื่อถึงสิงโตอัสลาน พระยาราชสีห์แห่งนาร์เนีย ซึ่งเปรียบเสมือนเทพผู้คอยปกป้องคุ้มครองนาร์เนีย เสมือนตัวแทนพระเยซูคริสต์ในคริสต์ศาสนา
อีกมุมหนึ่ง เป็นบริเวณด้านข้าง เห็นชัดขึ้นว่าเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาบนภูเขาสูงริมทะเล
ที่ด้านใน จะดูหรูหราเรียบง่าย ประดับดาด้วยดอกไม้สีอ่อน ดูละมุน อ่อนโยน
ที่ประทับของกษัตริย์ ที่เก้าอี้ประทับจะมีรูปสลักอาวุธหรือสิ่งของประจำกายของกษัตริย์และน้องๆทั้งสามของพระองค์ ได้แก่ดาบ ธนู และยาวิเศษ
ห้องบัลลังก์ ยิ่งใหญ่ คล้ายพระราชวังสไตล์อังกฤษ เน้นสีขาวกับสีทอง ดูเรียบง่าย
มองจากระยะไกล จะเห็นว่าสะท้อนกับแสงแดดส่องแสงประกายวับวาว ราวอัญมณีริมทะเล
ราชาปีเตอร์ กษัตริย์แห่งนาร์เนีย ผู้ครองอาณาจักร