เมื่อพ่อ ไม่ได้เป็น Hero ของฉันอีกแล้ว

“พ่อดูแลฉันด้วยความรัก ความเอาใจใส่ และ ความห่วงใยเสมอมา พ่อจึงเป็น Hero เพียงคนเดียวของฉัน ตลอดมา “
นี่คือข้อความที่ทำให้ฉันชนะการประกวดเรียงความระดับเขตรางวัลที่ 3 ตอนประถม

    ฉันรักและเทิดทูนพ่อเสมอมา เพราะตระหนักว่า พ่อ คือบุคคลคนเดียวที่เลี้ยงดูและส่งเสียให้ฉันได้เรียนหนังสือ เพราะพ่อกับแม่แยกทางตั้งแต่ฉันยังเด็กโดยที่ไม่ทราบว่ามันเพราะเหตุผลอะไร ฉันพยายามทำทุกๆทางให้พ่อภูมิใจ และ ดูเหมือนทุกๆทางที่ฉันทำจะประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ไม่ว่าฉันจะประกวดอะไร จะสอบเข้าที่ไหน ดูจะง่ายดายไปเสียหมด ทุกๆสิ่งที่ฉันเฝ้าเพียรพยายามทำมันมาตลอด เพื่อ ... จะให้พ่อภูมิใจ

    พ่อยังเป็น Hero เพียงคนเดียวของฉันเสมอมาจนกระทั่งวันหนึ่งที่ฉันเริ่มโตขึ้นและเห็นภาพHeroของฉันบิดเบือนไปจากเดิม ...
    สภาพครอบครัวของฉันไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแค่พอมีชักหน้าให้ถึงหลังเท่านั้นเพราะพ่อเป็นเพียงลูกจ้างประจำในสำนักราชการแห่งหนึ่งเท่านั้น ณ. ตอนนั้น
    ฉันเติบโตมาภายใต้การดูแลของพ่อและผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่พ่อพาเข้ามาในฐานะ “แม่เลี้ยง” ฉันมีแม่เลี้ยงหลายคนจนนับไม่ถ้วนเพราะฉันไม่ได้ใส่ใจกับพวกเธอมากนัก...แม่เลี้ยงของฉันมีตั้งแต่สาวเสริฟ์ยันข้าราชการ...

    แต่แม่เลี้ยงที่พ่อพามาอยู่กินแบบจริงจังนั้นมีเพียง 3 คน และมีลูกด้วยกัน รวมฉันแล้วเป็น 4 คน ฉันเป็นพี่สาวคนโต
    ฉันได้รับการเลี้ยงดูจากพวกเธอ”แม่เลี้ยง”เป็นอย่างดี เธอๆเหล่านั้นปลูกฝังความเจ็บปวดไว้ในหัวใจของฉันมากมาย ทั้งการดูถูก เหยียดหยาม ดูหมิ่น รังแก แต่พวกเธอก็มีส่วนดีที่ไหนสักทีแหละ ... ฉันไม่สนใจคำดูถูกหรือเหยียดหยามอะไรเล่านั้นมากมายนักเพราะมันค่อนข้างเป็นกำลังให้ฉัน พวกเธอดูเหมือนจะไม่มีข้อดีใดๆสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งอย่างฉัน แต่พวกเธอเหล่านั้นคงมีส่วนสำคัญในชีวิตพ่อมากมาย
    พ่อมักพูดอยู่เสมอว่า”พ่อ เอาลูกๆเป็นฐานในการดำเนินชีวิต เป็นแกนที่ทำให้พ่อหมุนไป เป็นสิ่งที่ทำให้พ่ออยากมีชีวิต อยากทำทุกๆสิ่งให้ดีที่สุด” เมื่อฉันโตขึ้นฉันจึงรู้สึกว่าคำพูดเหล่านั้นคงมีความจริงเพียงแค่ 25 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นจาก 100

    ฉันนั่งถามตัวเองอยู่นานว่าฉันจะเขียนเรื่องนี้จริงๆหรอ เขียนไปแล้วจะได้อะไร ฉันได้คำตอบว่าฉันคงไม่ได้อะไรจากการเขียนครั้งนี้มากมายนักนอกจากฉันได้ระบายให้ใครสักคนบนโลกนี้ เนื่องจากเราจะไม่รู้จักกันไม่เห็นหน้ากัน ฉันจึงกล้าเล่าทุกอย่างให้ทุกคนได้อ่าน

    ฉันโดนพ่อไล่ออกจากบ้านตอน ป.6 เนื่องจากฉันชมว่ารองเท้าที่พ่อใส่ดูดีมากๆจนทำให้คนใส่ดูดีไปด้วย ฉันไม่คิดอะไรนอกเหนือจากนั้นฉันตั้งใจชมว่ามันเข้ากับพ่อมากเลย แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือการไล่ออกจากบ้าน ฉันเดินไปอย่างไม่รู้ทิศทางฉันมีเงินในกระเป๋าเพียง 5 บาท สิ่งที่ฉันคิดคือฉันอยากโทรไปหายายที่เลี้ยงฉัน ฉันเดินออกไปซุกซ่อนตัวนั่งร้องไห้ในซอกซอยๆหนึ่งฉันจำได้ว่าผู้ชายคนที่เห็นเหตุการณ์ ณ. ตอนนั้นเดินเข้ามาหาฉันและบอกว่า”ไม่เป็นไรนะ มีอะไรให้พี่ช่วยมั๊ย?” ฉันกลัวและทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้ จนผู้ชายคนนั้นไปตามแม่เลี้ยงของฉันมา เธอถามฉันว่าจะไปไหน ฉันได้แต่ร้องไห้พูดอะไรไม่ออก เธอพาฉันเดินมาขึ้นมอไซค์ของพ่อ เมื่อมาถึงบ้านพ่อบอกให้ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปใส่ชุดที่เค้าไม่ได้ซื้อให้ แล้วไปเอาขันหรือแก้วมาใบนึง ที่ไม่ใช่เงินของเค้าเป็นคนซื้อ ฉันทำตามที่พ่อบอก ฉันเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และแอบหยิบเงิน 500 บาทที่ฉันได้รับรางวัลจากทุนการศึกษามา และ แก้ว 1 ใบ ตามที่พ่อบอก พ่อบอกว่าจะเอาฉันไปปล่อยให้เป็นขอทาน ฉันพยายามร้องขอให้พ่ออย่าเอาฉันไปปล่อยเลย อย่าทำแบบนั้นเลยเพราะมันบาปนะ พ่อฉันดูโมโหมาก ... แค่จากการที่ฉันพูดคำๆนั้นออกมา แต่สุดท้ายฉันก็ยังได้อยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป ฉันจำไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงได้อยู่ต่อ เหตุการณ์นี้ฉันจำมันได้เลือนรางมาก ... แต่มันคือช่วงเวลาเลวร้ายช่วงหนึ่งในตอนที่ฉันอยู่ประถม

    ฉันสอบเข้าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงได้ พ่อฉันดูค่อนข้างภูมิใจมาก และ เที่ยวคุยกับเพื่อนๆที่ทำงานไปทั่ว ด้วยตอนที่ฉันเข้าม.1 นั้น ฉันมีอายุเพียง 11 ขวบ เท่านั้น ฉันมีความสุขที่เห็นพ่อภูมิใจกับสิ่งที่ฉันทำ แล้ววันนึงก็เกิดเหตุการณ์ที่ฉันไม่คาดฝันขึ้น ฉันโดนตี จริงๆก็ไม่น่าแปลกที่จะโดนตี แต่ฉันโดนตีด้วยเหตุผลที่ว่าฉันคุยโทรศัพท์ และ ฉันมีแฟน ช่วงเวลาในมัธยมต้นฉันว่ามันเป็นช่วงรักแรกของใครหลายๆคน เป็นรักเล็กๆครั้งแรกที่เราจะไปรักหรือแอบรักใคร คงไม่น่าแปลก เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหายเพียงแค่คุยโทรศัพท์เท่านั้น สำหรับคนอื่นคงโดนตีด้วยไม้เรียวที่มีลักษณะแตกต่างกันไปในวัยด้วยอายุเพียง 11 ขวบ ฉันกลับโดนตีด้วยไม้หน้า 3
    
ฉันโดนตีด้วยไม้หน้าสาม พ่อตีฉันโดยไม่นับจำนวนครั้ง พ่อบอกว่าฉันผิดที่คุยโทรศัพท์กับเพศตรงข้าม พ่อตีฉันจนแม่เลี้ยงต้องเข้ามาห้าม แต่ถ้าห้ามมากไปคงจะโดนด้วยเธอเลยเข้ามาห้ามเพื่อเป็นพิธีเท่านั้น พ่อจิกหัวฉันโขกลงกับโต๊ะเหล็ก ตีฉันซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเนื้อแตก มันเป็นความทรงจำที่เลวร้ายเกินไปของเด็กอายุ 11 ขวบเช่นฉัน ฉันไม่เข้าใจเหตุผลของพ่อ แต่ก็รับปากและสัญญาว่าจะไม่ทำอีก แม้ในใจยังสงสัยอยู่มากมายว่าเพียงแค่มีเพื่อนต่างเพศเท่านั้นพ่อถึงกับต้องตีฉันขนาดนี้เลยหรือ

---------------------------------ต่อจากเมื่อวานคะ ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆเลย แต่บอกตามตรงเก็บไว้คนเดียวมันไม่ไหว เล่าต่อละกันคะ

จบชั้นมัธยมด้วยความสะบักสะบอม จริงๆไม่ได้โดนแค่นั้นยังมีอีกมาก แต่ขอข้ามเพื่อไปยังเหตุการณ์สำคัญๆเลย ... ขึ้นชั้นมอ.ปลาย ชั้นเลือกเรียนสายอาชีพจึงเรียน ปวช. ฉันคิดว่าชีวิตชั้นคงได้เริ่มใหม่สักทีคงไม่มีเรื่องไม่ดีเข้ามาอีกแล้วนะ
ฉันอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยง พ่อ และ น้องๆอีก 2 คน ในท้องอีก 1 คน รวมแล้ว 6 คน วันนึงเป็นวันหยุด แม่พาน้องๆไปจ่ายตลาดช่วงสายๆของวันเพื่อทำกับข้าวเที่ยง ฉันไม่ได้ไป นั่งล้างจานอยู่ที่บ้าน และก็ไปอาบน้ำ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำเก่าที่ทรุดโทรมมาก มีรูใหญ่ๆ 1 รู เวลาอาบน้ำฉันมักเอาเสื้อผ้าที่ถอดตอนอาบน้ำไปอุดรูนั้นไว้เมื่ออาบเสร็จค่อยเอาไปใส่ตะกร้าผ้า...ฉันอาบน้ำไปสักพักรู้สึกเหมือนโดนแอบมอง คนเราจะรู้ตัวเมื่อมีคนแอบมองจากด้านหลัง ฉันกลัวผีมากนาทีนั้นฉันคิดว่าฉันคงหลอนไปเองจากการดูรายการผีเมื่อคือ ฉันอาบต่อไปจนใกล้จะเสร็จฉันยังรู้สึกอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลาฉันจึงตัดสินใจหันไปมอง...แต่สิ่งที่ฉันเห็นมันไม่ใช่ผี มันคือ "พ่อ" พ่อแอบดูฉันอาบน้ำ ฉันตกใจแทบช็อกยืนอึ้งตัวแข็งเป็นหิน พ่อพูดขึ้นมาว่า อาบน้ำเร็วๆเลย ฉันได้สติรีบนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาแล้วรีบแต่งตัว...บอกตรงๆฉันทำอะไรไม่ถูก อึ้ง นิ่ง ไม่พูด มือสั่น ฉันกับพ่อไม่มองหน้ากันเลย ประสบกับช่วงนั้นพ่อออกจากบ้านบ่อยไม่ค่อยอยู่บ้านฉันเลยโล่งใจไม่ต้องคอยเกร็งหน้า เกร็งตัวตลอดเวลา ...
วันนึงย่ามาหาฉันที่บ้านย่าเห็นว่าฉันใส่กางเกง เจเจ ขาสั้นเลยหัวเข่านิดหน่อย นั่งล้างจานอยู่ ย่าบอกว่าใส่กางเกงให้มันดีๆหน่อยขามันบานก็รวบให้เรียบร้อยเดี๋ยวมีใครมองเข้าไปข้างในทำไง ... ฉันงงแต่ก็เข้าใจในสิ่งที่ย่าพูดจึงระวังตัวมากขึ้น แต่ก็ยังเชิงสงสัยอยู่ดีว่าอะไรก็ไม่ได้ไปนั่งแบบนี้ที่อื่นสักหน่อยจึงไปเล่าให้แม่เลี้ยงฟังว่าย่ามาพูดจาประหลาดฉันพูดไปขำไป เห็นแม่เลี้ยงหน้าถอดสี ฉันถามเธอว่า แม่เป็นอะไร เธอบอกว่าจริงนั่งอะถึงอยู่ที่บ้านให้ระวังบ้าง เพราะแม่สังเกตุหลายครั้งแล้วพ่อชอบแอบมองเวลาที่ฉันลุก หรือ นั่ง แอบมองเข้าไปในขากางเกงเวลาที่ฉันไม่ค่อยระวัง ... ฉันตกใจมากไม่คิดว่าพ่อจะแอบมองแบบนั้น ฉันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าพ่อจะทำแบบนั้น แต่ประกอบกับการที่พ่อแอบดูฉันอาบน้ำมันทำให้ฉันกลัวที่นี่เหลือเกิน...ฉันเลือกที่จะเล่าเรื่องที่พ่อแอบดูฉันอาบน้ำให้แม่เลี้ยงฟัง เธอตกใจและว่าพ่อว่าโรคจิตไปแล้ว เธอตัดสินใจเอาแผ่นไม้มาตอกปิดรูในห้องน้ำและสัญญาจะไม่เอาสเรื่องนี้ไปบอกใคร...

ฉันขึ้นปวช.ปี2 หรือ ม.5 เรื่องที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นมันก็เกิด ฉันมีความรัก มันผิดที่ฉันเองที่ไม่ห้ามใจให้มันไม่มีซะ...แต่เหมือนมันลืมตัวเหตุการณ์ครั้งนี้มันฝังใจฉันจนมาถึงวันนี้...ฉันถ่ายรูปคู่กับผู้ชายคนนั้น และ พ่อฉันมาค้นเจอ พ่อด่าว่าฉันยกใหญ่และให้เรียกผู้ชายคนนั้นมาคุย ... ผู้ชายคนนั้นมาคุยแต่ดดยดี ฉันไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรกันเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ 1 อาทิตย์ต่อมาฉันนอนอยู่ในช่วงเช้า พ่อมากระชากตัวฉันแล้วตบหน้าจนเลือดกำเดาไหล ... ฉันงงว่าเกิดอะไรขึ้นจะหลบไปไหนก็หลบไม่พ้น พ่อไปตัดกิ่งมะขามกิ่งใหญ่เนื้อเหนียว แล้วไปหยิบโซ่มา ... พ่อล่ามโซ่ฉันไว้กับเสาบ้าน แล้วตีฉันโดยไม่นับจำนวนครั้ง ตีจนเนื้อแตก เลือดออก ซ้ำร้ายกว่านั้น พ่อยังตัดผมฉันทิ้ง พ่อถามฉันว่าพ่อขอฟันหน้าได้ไหม 2 ซี่นี้ ฉันตอบว่าไม่ได้ พ่อตีฉันอีก พ่อเลยถามว่างั้นกูกร่อนผมได้มั๊ย ฉันนิ่งเงียบไม่ตอบ พ่อฉันตะคอกใส่ฉันซ้ำๆ ว่าระหว่างฟันกับผม จะให้อะไรกู ตอบ ฉันกลัวฉันไม่กล้าพูดอะไร เมื่อฉันไม่พูดพ่อก็ตีฉันซ้ำอีก เนื้อที่แตกเลือดออกมันก็เจ็บมากพออยู่แล้ว ฉันตัดสินใจให้พ่อตัดผมฉัน จนสั้นเสมอติ่งหู วินาทีนั้น มีแต่เลือดกับเศษผมที่โดนตัด ฉันอยู่ในสภาพที่มีเศษผม เลือด และ โดนล่ามโซ่ ฉันร้องไห้ ร้องไห้ตลอดทั้งวัน พ่อออกจากบ้านไป พ่อบอกว่าอย่ามาคิดว่ากูไปแอบดูอาบน้ำอีก กูเห็นเป็นลูกกูไม่เคยคิดอะไรนอกเหนือจากนั้น เก็บกวาดบ้านให้เรียบร้อยด้วย พ่อโยนไม้กวาดใส่ฉันให้ฉันเก็บกวาดบ้าน แม่เลี้ยงที่ได้แต่ยืนดูรีบเข้ามาช่วยฉันเธอไม่สามารถห้ามพ่อได้จริงๆ ไม่งั้นเธอคงเจ็บตัวด้วยเธอบอกฉัน ฉันเข้าใจเธอ เธอพยายามทายาให้ฉัน ฉันบอกไม่ต้องหรอกเดี๋ยวแผลมันหายเป็นแบบนี้ดีแล้วมันเจ็บดี...เธอตกใจเธอบอกว่าตกลงพ่อตีฉันด้วยเรื่องอะไรกันแน่ เรื่องที่ฉันมีแฟน หรือ เรื่องที่พ่อแอบดูฉันอาบน้ำ ฉันถามว่าแล้วพ่อรู้ได้ไงเรื่องพ่อแอบดูฉันอาบน้ำ แม่เลี้ยงสารภาพวง่าเธอเอาเรื่องนี้ไปทะเลาะกับพ่อแต่ก็นานมาแล้ว ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอไปเพราะคิดว่าอยากให้เรื่องนี้มันจบไปซะไม่อยากคิดอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ...
ฉัน ทุกข์ทนทรมานเหลือเกิน กินไม่ได้ นอนไม่ได้เพราะตามตัวมีแต่แผลที่โดนตีต้องจัดท่าทางอยู่นานเพื่อไม่ให้ทับแผลที่โดนตีไม่งั้นมันจะเจ็บมาก...ฉันคิดทุกๆวันว่าฉันควรฆ่าตัวตายให้มันตายๆไปซะ ฉันเกลียดตัวเองเต็มทน ฉันโดนล่ามโซ่อยู่กับเสาบ้าน 3 วัน วันที่ 4 พ่อปล่อยฉันออกจากเสาบ้านแต่ก็ยังล่ามโซ่ฉันเหมือนนักโทษ ฉันไปไหนก็ต้องถือโซ่ไปด้วย ฉันออกไปล้างจานหน้าบ้านฉันก็ต้องถือโซ่ไป ฉันไปทิ้งขยะฉันก็ต้องถือโซ่ไป มันเลวร้ายมากสำหรับเด็กผู้หญิงคนนึง ฉันอายที่ตามตัวมีแต่แผล ฉันอายที่ต้องถือโซ่ออกไปไหนถึงแม้จะอยู่ในเขตรั้วบ้านแต่ฉันก็อายคนที่มองเข้ามาอยู่ดี ฉันอายที่ผมฉันเหลือสั้นแค่เพียงติ่งหู ฉันเจ็บใจ ฉันทุกข์ ฉันโกรธ ฉันเกลียด เกลียดตัวเอง ไม่อยากมีสภาพแบบนั้นเลย ...

เมื่อฉันเปิดเรียน เพื่อนๆต่างถามฉันว่าเป็นอะไร ดูโทรมนะ ฉันใส่เสื้อแขนยาวไปเรียนตลอดเพื่อนๆที่ไม่สนิทเลยไม่รู้ถึงรอยแผลที่มีตามแขน แต่เพื่อนที่สนิทจะรู้เพราะฉันเลือกที่จะระบายและเล่าให้เพื่อนฟังเพราะวินาทีนั้นฉันต้องการใครมาปลอบใจฉันบ้าง...เพื่อนๆเข้าใจถึงสถานะการณ์ของฉันดีแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ๆแต่สงสาร...

ต่อ http://pantip.com/topic/31803264
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่