นี่เป็นเรื่องที่เราอยากเล่าให้ทุกคนฟังเอง ตอนนี้เราอยู่ในสภาพไม่ดีเท่าไหร่ จากผลของการโดนหลอกไปข่มขืน
เราขอเล่าตั้งแต่แรกนะคะ พ่อแม่แท้ๆเราแยกทางกัน พ่อมีชู้ติดแอลกอฮอ แม่ก็ย้ายออกไปมีแฟนใหม่ แล้วพวกเขาก็เอาเราไปให้ญาติที่อยู่ซอยเดียวกันเลี้ยง ก็คือแม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงของเรา
เราเรียนจบแค่ป.6เพราะถูกเพื่อนกีดกันในโรงเรียน เราเลยตัดสินใจเลิกเรียนตอนม.1 แล้วก็เริ่มคบเพื่อนเกเร ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด
แต่ในระหว่างนั้น ทุกๆปีเราก็พยายามจะกลับไปเรียนตลอด พยายามหาโรงเรียน ขอแม่เลี้ยงให้ส่งเรากลับไปเรียน แต่แม่และครอบครัวไม่ยอม พวกเขามองว่า ถึงส่งเราไปเรียนเราก็คงหนีออกมาอีกเหมือนตอนแรกที่เราหนีออกมา
เราเสียใจมาก อยากเรียนมาก ตอนนั้นเราอายุ13 เราไม่มีเงินไปเรียน ไม่มีใครอยากส่งเราเรียน รวมถึงเราก็ทำงานหาเงินเองไม่ได้ด้วยเพราะอายุแค่13
เราเลยคิดวิธีหาเงินโดยการ ไปทำงานเป็นเด็กนั้งดริ้งในบาร์ฝรั่ง เราทำงานอยู่ได้2อาทิตย์ พยายามเก็บเงินเพื่อกลับไปเรียนต่อ (ตอนนั้นแม่เลี้ยงก็รู้ว่าเราไปทำงานแบบนั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังสนับสนุนและขอเงินเราด้วย)
แต่แม่แท้ๆของเรายังดีที่เขาไม่สนับสนุน
จุดเปลี่ยนก็คือ ในระหว่างที่เรากำลังทำงานบาร์อยู่นั้น ก็มีเพื่อนเก่าของแม่แท้ๆทักมา เขาใช้คำพูดหวาดล้อมเราว่า เขาเป็นคนมีของ(อารมณ์พ่อหมอ อาจารย์ทำพิธี) เขาสงสารเราที่ต้องมาดิ้นรนหาเงิน เขาเลยอยากให้เราไปทำพิธีกับเขา
เขามีการพูดหวาดล้อมว่า ถ้าเราไปทำพิธีกับเขา เราจะดวงดี มีลูกค้ามาเลี้ยง เราจะได้มีเงินเยอะๆกลับไปเรียนได้
ตอนนั้นด้วยความที่เราอายุแค่13 เราก็เชื่อ(สิ่งที่เราคิดคือ เป็นแค่การทำพิธีธรรมดาๆ อารมณ์แบบรับขัน มีธูป มีเทียน) นั่นคือเหตุผลที่เรายอมไปกับเขา
แต่พอไปถึงจริงๆเขากลับบังคับให้เรานอนลงและข่มขืนเรา ตอนนั้นเรากลัวมาก ไม่กล้าขัดขืนเพราะข้างเตียงมีปื/นอยู่ด้วย
หลังจากเหตุการณ์นี้ เราไม่ได้ไปแจ้งความเพราะกลัวมาก แล้วเราก็ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเงินไปตรวจร่างกายพิสูจย์หลักฐาน ไม่มีเงินไปสู้คดีแน่นอน
สภาพจิตใจเราแย่มาก เราเริ่มกลับไปติดสารเสพติดหนักกว่าเดิม เราไม่กล้าไปเจอหน้าเพื่อน แทบไม่ออกจากบ้านเลย แล้วก็ยอมรับตรงๆเลยว่า เราไม่อาบน้ำเป็นอาทิตย์เลย เพราะเราคิดว่า ร่างกายเรามันสกปรกไปแล้ว อาบไปมันก็ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
พอแม่เลี้ยงและทุกคนเห็นว่าเรามีสภาพแบบนี้ แม่ก็ด่าเรา เราเริ่มมีการทะเลาะกัน หนักมากๆ ไม่มีใครเคยถามว่าทำไมเราถึงมีสภาพแบบนี้ เราไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
บางครั้งเราก็ถูกแม่เลี้ยงพูดถากถางเรื่องที่เคยถูกล่วงละเมิดตอน3ขวบ (ตอน3ขวบเราเคยโดนลุงข้างบ้าน ล่วงละเมิดโดยการเอาอวัยวะของเขามาถูกับของเรา) แม่ก็รู้เรื่องนี้ แล้วบางครั้งก็พูดล้อเลียนเราว่า ไปโดนมันเอา ไปโดนมัน ตอนที่แม่เลี้ยงรู้ว่าเราถูกลุงข้างบ้านล่วงละเมิด แม่ก็แค่บอกว่า เงียบๆอย่าไปบอกใคร แม่ไม่คิดจะพาเราไปแจ้งความด้วยซ้ำ
(นั้นคือเหตุผลที่เราไม่บอกเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง เพราะรู้อยู่แล้วว่า บอกไปแม่เลี้ยงก็คงบอกให้เราเงียบๆไป)
แม่เลี้ยงของเรา มักจะพูดเสมอว่าเขารักและเป็นห่วงเรามาก เขาเลี้ยงเรามาแบบตามใจมากๆ ให้เงิน แต่ไม่เคยให้เวลา(เลี้ยงด้วยความคิดของคนยุคเก่า ยุคเก่าจริงๆ แม่เลี้ยงเคยพูดใส่เราตอนทะเลาะกันว่า ฉันเป็นแม่เธอ ฉันเลี้ยงเธอมา ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้ จะฆาเธอก็ยังได้เพราะฉันเลี้ยงเธอมา)
เราอยากได้ความรัก อยากให้แม่สอนหนังสือ อยากให้แม่รับฟัง แต่ไม่เคยมีเลย แม่ให้ได้แต่เงิน(เป็นวิธีแสดงความรักแบบของเขา)
ขอเล่าเพิ่มเติม แม่เลี้ยงคนนี้มีลูกสาวของตัวเองอยู่แล้ว1คน พี่คนนี้เกลียดเรามาก เพราะแม่เลี้ยงชอบตามใจเราตลอด ทุกครั้งที่แม่เลี้ยงกับพี่สาวคนนี้ทะเลาะกัน พี่สาวคนนี้ก็จะมาตบหัวเรา ด่าเรา เพราะทำอะไรแม่ตัวเองไม่ได้ เลยมาทำเราแทนให้แม่รู้สึกเจ็บ
ทุกครั้งที่เรากับพี่สาวคนนี้ทะเลาะกัน ก็ไม่มีใครช่วยเรา แม่เลี้ยงจะบอกตลอดว่า"ไปขอโทษเขาซะ เราเด็กกว่า"
แม่ไม่สนว่าใครถูกใครผิด เขาสนแค่ว่าเราเด็กกว่าเพราะฉะนั้นเราต้องเป็นฝ่ายขอโทษ
พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงไม่เคยตีเรา แต่พี่สาวคนนี้มักจะตีเราตลอด
เวลาไม่พอใจอะไร เขาจะเดินกระทืบเท้าปิดประตูเสียงดัง หนักขึ้นก็ตบหัวเรา ตบหน้าเรา
บางครั้งก็ตบเราในที่สาธารณะ เราอายมาก ครั้งนึงเราเคยไม่รับโทรศัพท์เขาเพราะแบตหมด เขาก็มาตามเราในโรงเรียน ตะโกนถามเสียงดังจนทุกคนหันมามอง เราตอบไปแค่คำเดียวเขาก็ตบหน้าเราตรงนั้นเลย
จริงๆตอนป.6ที่เรามีปัญหากับเพื่อน เราก็เคยขอพี่สาวคนนี้ให้พาเราย้ายโรงเรียน แต่เขาระแวงว่าเราจะหนีเรียนเลยไม่ส่ง ทั้งๆที่ก่อนหน้าเราไม่เคยมีประวัติหนีเรียน สุดท้ายเราทนไม่ไหวเลยหนีเรียนจริงๆ
ที่เรามาเล่าเรื่องนี้ เราไม่ได้บอกว่าเราเป็นเหยื่อหรืออะไรนะคะ เราแค่อยากระบายมันออกมาเพราะเราทนไม่ไหวแล้ว ไม่เคยมีใครฟังเราเลย เราอยากทำอะไรก็จะถูกทุกคนในครอบครัวนี้ระแวงและโดนพวกเขาดูถูกตลอด อยากย้ายโรงเรียนตอนป.6ก็โดนระแวงว่าจะหนีเรียนโดยไม่ฟังความคิดเราเลย ตอนป.5แค่อยากเดินไปเรียนเองยังโดนระแวงว่าจะหนีเรียน พ่อเลี้ยงต้องตามรับตามส่งเราตลอดเล่นกับเพื่อนหลังเลิกเรียนก็ไม่ได้
โตขึ้นเราอยากลงทุนขายของ ขอเงินพวกเขาก็ไม่มีใครสนับสนุน โดนดูถูกว่าไม่มีทางขายได้ แค่เราอยากปลูกต้นไม้ในห้องตัวเอง ยังทำไม่ได้เลยค่ะ พ่อเลี้ยงบอกว่า มันเละเทะ และไม่มีทางทำได้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาดที่จะทำอะไรก็ไม่ได้ มีความคิดอะไรใหม่ๆก็จะโดนพวกเขาขัดและดูถูกตลอด
เรารู้ว่าเราไม่ใช่คนดี เราติดยาเสพติด หนีเรียน คบเพื่อนเกเร แต่เราแค่อยากให้มีคนเข้าใจในสิ่งที่เราเจอ แล้วคนที่เข้าใจเราก็เป็นไอพวกเด็กติดยาที่มีปมเหมือนกัน มารวมตัวกัน
เราผิดมั้ยคะ ถ้าเราคิดว่าทั้งหมดที่ส่วนหนึ่งมันก็มาจากพ่อแม่ ครอบครัวที่ทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ เรารู้สึกเหมือนเราเป็นคนแย่ที่เอาแต่โทษคนอื่น และเราไม่รู้จริงๆว่าเราทำผิดอะไร ทำไมทุกคนถึงดูถูก ระแวงสิ่งที่เราทำตลอด
เราถูกหลอกไปข่มขืนตอนอายุ13 แต่เรากลับโทษพ่อแม่
เราขอเล่าตั้งแต่แรกนะคะ พ่อแม่แท้ๆเราแยกทางกัน พ่อมีชู้ติดแอลกอฮอ แม่ก็ย้ายออกไปมีแฟนใหม่ แล้วพวกเขาก็เอาเราไปให้ญาติที่อยู่ซอยเดียวกันเลี้ยง ก็คือแม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงของเรา
เราเรียนจบแค่ป.6เพราะถูกเพื่อนกีดกันในโรงเรียน เราเลยตัดสินใจเลิกเรียนตอนม.1 แล้วก็เริ่มคบเพื่อนเกเร ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด
แต่ในระหว่างนั้น ทุกๆปีเราก็พยายามจะกลับไปเรียนตลอด พยายามหาโรงเรียน ขอแม่เลี้ยงให้ส่งเรากลับไปเรียน แต่แม่และครอบครัวไม่ยอม พวกเขามองว่า ถึงส่งเราไปเรียนเราก็คงหนีออกมาอีกเหมือนตอนแรกที่เราหนีออกมา
เราเสียใจมาก อยากเรียนมาก ตอนนั้นเราอายุ13 เราไม่มีเงินไปเรียน ไม่มีใครอยากส่งเราเรียน รวมถึงเราก็ทำงานหาเงินเองไม่ได้ด้วยเพราะอายุแค่13
เราเลยคิดวิธีหาเงินโดยการ ไปทำงานเป็นเด็กนั้งดริ้งในบาร์ฝรั่ง เราทำงานอยู่ได้2อาทิตย์ พยายามเก็บเงินเพื่อกลับไปเรียนต่อ (ตอนนั้นแม่เลี้ยงก็รู้ว่าเราไปทำงานแบบนั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังสนับสนุนและขอเงินเราด้วย)
แต่แม่แท้ๆของเรายังดีที่เขาไม่สนับสนุน
จุดเปลี่ยนก็คือ ในระหว่างที่เรากำลังทำงานบาร์อยู่นั้น ก็มีเพื่อนเก่าของแม่แท้ๆทักมา เขาใช้คำพูดหวาดล้อมเราว่า เขาเป็นคนมีของ(อารมณ์พ่อหมอ อาจารย์ทำพิธี) เขาสงสารเราที่ต้องมาดิ้นรนหาเงิน เขาเลยอยากให้เราไปทำพิธีกับเขา
เขามีการพูดหวาดล้อมว่า ถ้าเราไปทำพิธีกับเขา เราจะดวงดี มีลูกค้ามาเลี้ยง เราจะได้มีเงินเยอะๆกลับไปเรียนได้
ตอนนั้นด้วยความที่เราอายุแค่13 เราก็เชื่อ(สิ่งที่เราคิดคือ เป็นแค่การทำพิธีธรรมดาๆ อารมณ์แบบรับขัน มีธูป มีเทียน) นั่นคือเหตุผลที่เรายอมไปกับเขา
แต่พอไปถึงจริงๆเขากลับบังคับให้เรานอนลงและข่มขืนเรา ตอนนั้นเรากลัวมาก ไม่กล้าขัดขืนเพราะข้างเตียงมีปื/นอยู่ด้วย
หลังจากเหตุการณ์นี้ เราไม่ได้ไปแจ้งความเพราะกลัวมาก แล้วเราก็ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเงินไปตรวจร่างกายพิสูจย์หลักฐาน ไม่มีเงินไปสู้คดีแน่นอน
สภาพจิตใจเราแย่มาก เราเริ่มกลับไปติดสารเสพติดหนักกว่าเดิม เราไม่กล้าไปเจอหน้าเพื่อน แทบไม่ออกจากบ้านเลย แล้วก็ยอมรับตรงๆเลยว่า เราไม่อาบน้ำเป็นอาทิตย์เลย เพราะเราคิดว่า ร่างกายเรามันสกปรกไปแล้ว อาบไปมันก็ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
พอแม่เลี้ยงและทุกคนเห็นว่าเรามีสภาพแบบนี้ แม่ก็ด่าเรา เราเริ่มมีการทะเลาะกัน หนักมากๆ ไม่มีใครเคยถามว่าทำไมเราถึงมีสภาพแบบนี้ เราไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
บางครั้งเราก็ถูกแม่เลี้ยงพูดถากถางเรื่องที่เคยถูกล่วงละเมิดตอน3ขวบ (ตอน3ขวบเราเคยโดนลุงข้างบ้าน ล่วงละเมิดโดยการเอาอวัยวะของเขามาถูกับของเรา) แม่ก็รู้เรื่องนี้ แล้วบางครั้งก็พูดล้อเลียนเราว่า ไปโดนมันเอา ไปโดนมัน ตอนที่แม่เลี้ยงรู้ว่าเราถูกลุงข้างบ้านล่วงละเมิด แม่ก็แค่บอกว่า เงียบๆอย่าไปบอกใคร แม่ไม่คิดจะพาเราไปแจ้งความด้วยซ้ำ
(นั้นคือเหตุผลที่เราไม่บอกเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง เพราะรู้อยู่แล้วว่า บอกไปแม่เลี้ยงก็คงบอกให้เราเงียบๆไป)
แม่เลี้ยงของเรา มักจะพูดเสมอว่าเขารักและเป็นห่วงเรามาก เขาเลี้ยงเรามาแบบตามใจมากๆ ให้เงิน แต่ไม่เคยให้เวลา(เลี้ยงด้วยความคิดของคนยุคเก่า ยุคเก่าจริงๆ แม่เลี้ยงเคยพูดใส่เราตอนทะเลาะกันว่า ฉันเป็นแม่เธอ ฉันเลี้ยงเธอมา ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้ จะฆาเธอก็ยังได้เพราะฉันเลี้ยงเธอมา)
เราอยากได้ความรัก อยากให้แม่สอนหนังสือ อยากให้แม่รับฟัง แต่ไม่เคยมีเลย แม่ให้ได้แต่เงิน(เป็นวิธีแสดงความรักแบบของเขา)
ขอเล่าเพิ่มเติม แม่เลี้ยงคนนี้มีลูกสาวของตัวเองอยู่แล้ว1คน พี่คนนี้เกลียดเรามาก เพราะแม่เลี้ยงชอบตามใจเราตลอด ทุกครั้งที่แม่เลี้ยงกับพี่สาวคนนี้ทะเลาะกัน พี่สาวคนนี้ก็จะมาตบหัวเรา ด่าเรา เพราะทำอะไรแม่ตัวเองไม่ได้ เลยมาทำเราแทนให้แม่รู้สึกเจ็บ
ทุกครั้งที่เรากับพี่สาวคนนี้ทะเลาะกัน ก็ไม่มีใครช่วยเรา แม่เลี้ยงจะบอกตลอดว่า"ไปขอโทษเขาซะ เราเด็กกว่า"
แม่ไม่สนว่าใครถูกใครผิด เขาสนแค่ว่าเราเด็กกว่าเพราะฉะนั้นเราต้องเป็นฝ่ายขอโทษ
พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงไม่เคยตีเรา แต่พี่สาวคนนี้มักจะตีเราตลอด
เวลาไม่พอใจอะไร เขาจะเดินกระทืบเท้าปิดประตูเสียงดัง หนักขึ้นก็ตบหัวเรา ตบหน้าเรา
บางครั้งก็ตบเราในที่สาธารณะ เราอายมาก ครั้งนึงเราเคยไม่รับโทรศัพท์เขาเพราะแบตหมด เขาก็มาตามเราในโรงเรียน ตะโกนถามเสียงดังจนทุกคนหันมามอง เราตอบไปแค่คำเดียวเขาก็ตบหน้าเราตรงนั้นเลย
จริงๆตอนป.6ที่เรามีปัญหากับเพื่อน เราก็เคยขอพี่สาวคนนี้ให้พาเราย้ายโรงเรียน แต่เขาระแวงว่าเราจะหนีเรียนเลยไม่ส่ง ทั้งๆที่ก่อนหน้าเราไม่เคยมีประวัติหนีเรียน สุดท้ายเราทนไม่ไหวเลยหนีเรียนจริงๆ
ที่เรามาเล่าเรื่องนี้ เราไม่ได้บอกว่าเราเป็นเหยื่อหรืออะไรนะคะ เราแค่อยากระบายมันออกมาเพราะเราทนไม่ไหวแล้ว ไม่เคยมีใครฟังเราเลย เราอยากทำอะไรก็จะถูกทุกคนในครอบครัวนี้ระแวงและโดนพวกเขาดูถูกตลอด อยากย้ายโรงเรียนตอนป.6ก็โดนระแวงว่าจะหนีเรียนโดยไม่ฟังความคิดเราเลย ตอนป.5แค่อยากเดินไปเรียนเองยังโดนระแวงว่าจะหนีเรียน พ่อเลี้ยงต้องตามรับตามส่งเราตลอดเล่นกับเพื่อนหลังเลิกเรียนก็ไม่ได้
โตขึ้นเราอยากลงทุนขายของ ขอเงินพวกเขาก็ไม่มีใครสนับสนุน โดนดูถูกว่าไม่มีทางขายได้ แค่เราอยากปลูกต้นไม้ในห้องตัวเอง ยังทำไม่ได้เลยค่ะ พ่อเลี้ยงบอกว่า มันเละเทะ และไม่มีทางทำได้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาดที่จะทำอะไรก็ไม่ได้ มีความคิดอะไรใหม่ๆก็จะโดนพวกเขาขัดและดูถูกตลอด
เรารู้ว่าเราไม่ใช่คนดี เราติดยาเสพติด หนีเรียน คบเพื่อนเกเร แต่เราแค่อยากให้มีคนเข้าใจในสิ่งที่เราเจอ แล้วคนที่เข้าใจเราก็เป็นไอพวกเด็กติดยาที่มีปมเหมือนกัน มารวมตัวกัน
เราผิดมั้ยคะ ถ้าเราคิดว่าทั้งหมดที่ส่วนหนึ่งมันก็มาจากพ่อแม่ ครอบครัวที่ทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ เรารู้สึกเหมือนเราเป็นคนแย่ที่เอาแต่โทษคนอื่น และเราไม่รู้จริงๆว่าเราทำผิดอะไร ทำไมทุกคนถึงดูถูก ระแวงสิ่งที่เราทำตลอด