เริ่มต้นเดิมที เจ้าของแมวบ้านนี้รักแมวมากค่ะ ชอบซื้อปลาทูมาให้แมวเราทุกวัน วันละตัว โดยที่เราเคยเตือนเป็น100รอบแล้วว่า แมวบ้านเราเเพ้ปลาทู แต่คุณป้าก็ยังซื้อมาให้ แมวบ้านเราพอเห็นจักรยานป้ามาแต่ไกล (บ้านติดถนน2เลนในซอยไม่มีฟุตบาท)แมวเราจะรีบวิ่งไปอ้อนคลอเคลีย นานปีเข้า พ่อเรารบกับอ้วกแมวไม่ไหว เลยขอให้ป้าหยุดให้ปลาทูเถอะ คุณป้าก็หยุดให้ แต่ยังแวะมาซื้อของบ้านเราประจำ แวะมาเล่นกับแมวเราค่ะ
เมื่อ2อาทิตย์ที่แล้ว เราคุยกันเรื่องแมว ป้าก็พูดขึ้นมาว่า แมวบ้านป้าป่วย คนแถวนั้นสงสาร เลยพาน้องแมวไปหาหมอ และแจ้งกลับมาว่า
น้องแมวเป็น "เชื้อรานกพิราบ แผลจะรักษาไม่หาย" แล้วเค้าก็นำแมวกลับมาคืนป้า โดยไม่ได้ทำแผลให้แต่อย่างใด
เราน่ะตกใจเรื่องเชื่อรานกพิราบมาก เนื่องจาก มันเป็นโรคติดต่อแบบแมวสู่แมว แมวสู่คน และแมวบ้านเราเป็นเอดส์แมว เรากลัวเรื่องพาหะติดมาจากเจ้าของแมว หรือแมวบ้านอื่นไปติดแมวป้า แล้วมาติดแมวเรา
เนื่องจากโรคนี้รักษายากมาก ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตเมื่อเชื้อรากินถึงปอด ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเจอแผลที่จมูก ใบหู หน้า และกระจายไปตามร่างกายส่วนต่างๆ แผลสภาพเหมือนซอมบี้เนื้อส่วนที่เป็นแผล จะนิ่มเละเฟะเหมือนหมูสับ(ป้อนยาที จะร้องไห้ เพราะเนื้อเละบุ่มลงไปตามเเรงกดนิ้วเราเลยค่ะ (เรากลัวซอมบี้มาก) มีเลือดไหลตลอด หรือเลือดหยุดก็จะมีคราบเลือกเกรอะกรัง ทุกครั้งที่ล้างแผลก็ต้องขับคราบเลือดออก ถ้าดูแลดี มียากิน(ยาจากเกษตร ยาเยอะมาก) หรือเนื้อบางส่วนสามารถผ่าตัดส่วนเสียทิ้งไปก็ยังพอควบคุมการลามใหญ่ได้ แต่สุดท้าย พอถึงจุดนึง ส่วนที่เคยผ่าตัดก็จะมีแผลผุดขึ้นมาอีก รักษากันเป็นปี 2ปี กินยาทุกวัน มื้อนึง5-6เม็ด ขนาดที่หักใส่เเคปซูลมาแล้ว ก็ยังจัดว่าเยอะ
...เราเลยตัดสินใจ เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองอย่างดี เอาอุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้กับแมวเรา แช่แอลกฮอล์ 20นาที
จากนั้นไปบ้านคุณป้า บ้านป้าเป็นบ้านไม้ สภาพแบบอืมเป็นเรา เราอยู่ไม่ได้ เรากลัวงูเป็นที่สุด ป้าเลี้ยงแมวระบบปิด ด้วยการล่ามเชือก กลางคืนเอาเข้ากรง2ชั้น แล้วคลุมผ้ามุ้งกันยุงให้น้องแมว...
เราเดินไปพร้อมคุณป้า บ้านห่างกัน5ซอย ไม่มีวินมอไซต์ ถึงแม้ว่าป้าจะขอให้เรารอรถ เราก็มองว่า เราอยากให้ป้าเก็บเงินส่วนค่าวินไปกลับ30บาท เก็บไว้เป็นทุนดูแลแมวป้า
ตอนไปวันแรก เราดูแมวกันข้างนอกบ้าน
เราเห็นครั้งแรกคิดว่าไม่ใช่เชื้อรานกพิราบหรอกค่ะ น่าจะเป็นแผลโดนกัดแล้วเป็นฝีหนองมากกว่า สีเหลืองๆที่เห็นคือกำมะถันค่ะ ป้าบอกว่า อยากให้แผลน้องแห้ง แห้งจริงค่ะ ตอนล้างแผล
ขั้นตอนทั่วไปค่ะ
1. น้ำเกลือ
2. ผ้าก็อต
3 น้ำเกลือผสมเบตาดีน1:10ก็ได้ เบตาดีน1
เห็นแผลแล้วก็แจ้งกับป้าเจ้าของแมวว่า ให้เลี้ยงในห้องนอนค่ะ ให้น้องอยู่ที่สะอาด บ้านป้าก็มีห้องเดียวน่ะเเหละ พูดง่ายๆ ระหว่างเป็นแผลห้ามออกจากห้อง ตัวอื่นเค้าผูกเชือกเลี้ยงหน้าบ้าน หลังล้างแผลพบว่ามีแผ่นตายติดกับผงกัมถันเป็นแผ่นแข็ง ติดเส้นเลือด เราเลยยังไม่ล้างเยอะค่ะ ส่วนนึงคือ เรากลัวแมวฝังใจ ว่าเจอเรา และเราทำนางเจ็บ ก็ล้างพอทำเนา แว่นตาก็ไม่ได้เอาไป (สายตายาว มองใกล้ไม่ชัด) วันแรกที่ไป เราใช้ผ้าก็อต น้ำเกลือ เบตาดีน เทปเหนียวของเรา เราซื้อเป็นขวดใหญ่ทุกอย่าง เทปเหนียวแบบฉีกได้ใช้มา10ปียังไม่หมด เป็นม้วนแบบ200บาท กับเทปอีกอย่างที่เราซื้อมาพันนิ้วตอนทำงานรีโนเวทบ้านเช่า ช่างตัดสังกะสีไม่ดี โดนบาดบ่อย และ เพราะแมวเราเป็นแผลบ่อย (โดนแมวข้างนอกเข้ามากัดในบ้าน)
ล้างไว้เท่านี้ แล้วปิดแผลให้ เจ้าของมีคลอล่าแต่ตัดคลอล่าให้เล็กลงเพื่อให้แมวกินข้าวได้ เป็นผลทำให้แมวดึงกัดผ้าปิดแผลออกได้
จากที่แผลนไว้ว่า ถ้าคลีนจนหนองหมด สามารถทำแผลแบบวันเว้นวันได้ หรือ3วันทำครั้งนึงได้ แผลจะหายเร็วกว่าเราล้างทุก เพราะเนื้อเยื่อส่วนดีจะสร้สงทุกวัน และอ่อนแอมากเเค่เราสะกิดเบาๆก็หลุดค่ะ
คุณป้าเจ้าของแมวไปซื้อผ้าก็อตน้ำเกลือเอง ซึ่งเป็นแบบสิ้นเปลืองค่ะ เเพงเกินกว่าเหตุ รอบสองเราเลยไปซื้อให้ก่อน เช่น ยากิน(น้องมีน้ำมูกเขียว) ไซริงค์ ผ้าก็อตแถว นาโนสเปรย์ ...ก็ใช้ได้ประมาณอาทิตย์นึง ทำแผล ล้างจมูก (ยาจ่ายโดยสัตวแพทย์ที่เรารู้จัก) ป้าก็จ่ายเงินส่วนนี้คืนเรามาค่ะ
ช่วงเเรกป้าอาจจะยังไม่ไว้ใจเรา ป้าจะนัดเราไปแค่วันที่ป้าหยุดคือทุกวันเสาร์ วันธรรมดาป้าจะทำแผลเอง เราสอนเค้าไป
[img]https://f.ptcdn.info/320/089/000/t36uyr1p2lnqyMy8dD4qQ-o
.jpg[/img]
ครบอาทิตย์มาดูแผล ล้างแผลให้ แอบยืนยันว่ามันไม่ใช่เชื้อรานกพิราบเเน่นอน
ป้าเริ่มไว้ใจ บอกว่าสามารถเข้าบ้านเค้าได้เลย เค้าออกจากบ้านไปทำงาน6โมงเช้า กลับ1-2ทุ่ม(เดินไกล และบ้านน่ากลัวจริง) เราก็จะไปล้างแผลให้ทุก3วันค่ะ แต่ป้าทำเองทุกวันเพราะน้องดึงเทปออก แล้วชอบเลียแผลมาก
ถ้าเราทำแผลเอง เราจะใช้เทปเรา ป้าบอกแทปเราติดดีมาก แล้วแมวก็ดื้อมาก ถีบ ดิ้น วิ่งหนี เอาคนมาช่วยจับก็ยังลำบาก ก็มักจะมีเทปที่ดึงไม่ออกติดไว้ให้เราเห็นทุกครั้ง ปกติเราทำแผลแมวคนเดียวค่ะ มือนึงจับหน้าคอ อีกมือก็ทำงานไป ป้าบอกว่าเวลาเราดึงเทป ทำไมน้องนิ่งมาก ปล่อยนอนเฉยๆไม่จับเลย น้องก็ไม่ขยับไปไหน ...ช่วงหลังๆเราเห็นแผลเี เราจะไป4-5วันครั้ง ไปโกนขนเพิ่ม เช็คแผล เพราะแมวแพ้เทปกาวง่าย มักจะมีผื่นแดง ถ้าเกาๆ เลียๆ ก็จะติดเชื้อเป็นแผลใหม่ขึ้นมา ก็ต้องสอนป้าไปว่าต้องทายาด้วยนะ
แผลสวยขึ้นค่ะ ขนาดเล็กลง แต่ยังมีโพรงใต้ผิวหนังบางส่วน ทำแผลด้วยวิธีเดิมๆ ล้างแผลพ่นยา น้ำมูกล้างไป2ครั้งหาย น้องนั่งนิ่งยอมให้ฉีดน้ำเกลือล้างโดยไม่ต้องบังคับ มีครั้งนึงป้าบอกว่า ไม่ค่อยเห็นน้ำมูกเเล้ว แต่เราปั่นกระดาษทิชชู่ให้ปลายแหลม จิ้มรูจมูกแมวเบาๆนิดเดียว...อืม เต็มหน้าค่ะ น้องจามน้ำมูกเขียวข้นออกมา2ข้างเลย (เต็มหน้าเราเลย) ล้างจมูกต่อ
ครั้งล่าสุดที่ไปมา
ขนาดของแผลที่ไปทำมา ไม่มีโพรงใต้หนังแล้ว แผลเล็กลงมาก ดจ้าของบอกว่าไม่ปิดแผลแล้ว เพราะน้องเอาออกตลอด แต่แผลก็ยังดูสวยค่ะ มาโกนขนล้างแผลให้
น้องให้ความร่วมมือดีเสมอค่ะ คือ ไม่ต้องจับค่ะ เเค่จัดท่าให้น้องนอนในท่าที่เราทำแผลสะดวก น้องก็นอนให้ทำแผลจนเสร็จ...พอบอกว่าเสร็จแล้ว น้องก็วิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
...ป้าเจ้าของแปลกใจว่า ทำไมนิ่งขนาดนี้ กับป้านี่ พอจะเปิดผ้าปิดแผลน้องวิ่งหนีหายไปเลย ได้แต่พูดกับน้องว่า "น้องเนยอย่าพึ่งไป พี่ยังไม่ทันได้แกะแผลเลย"
โดยปกติ เคสการกุศลของเรา หมาแมวจะให้ความร่วมมือดี คือ น้องจะนอนเฉยๆไม่ขยับค่ะ สามารถนอนรอเราเตรียมอุปกรณ์ระหว่างทำแผลได้โดยไม่ลุกไปไหน
.....ก็ต้องดูกันต่อไปว่าแผลจะหายเมื่อไหร่ ...น้องทำแผลอย่างเดียวไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อหรือฉีดยาฆ่าเชื้อค่ะ
เราจะไม่รับเคสเชื้อรานกพิราบ เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ หรือแมวที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง เช่น fip ลิวคีเมีย ...เน้นรับเคสทำแผลฝีหนอง แผลกดทับ ป้อนยาหมาแมวหูบวม ที่ไปกรีดรีดเลือดมาแล้ว ต้องทำแผล พันหูทุกวันอันนี้ก็ทำได้ค่ะ
กรณีดุกัดเจ้าของ และเป็นภัยคุกคามกับเรา เราจะเเนะนำเองว่าจข.ต้องเตรียมอะไรบ้างค่ะ ใช้งานระยะยาวได้ไม่เสียเงินเปล่าเเน่นอน (เรายังไม่เจอเคสดุกัดเรา เจอแต่ดุกัดเจ้าของ😂)เพื่อนบ้านเห็น ..เค้าบอกว่าเราแปลก แปลกที่สัตว์ไม่แสดงพฤติกรรมหวงตัว หวงบ้านใส่
ถ้าใครที่อยู่ในหมู่บ้านเศรษฐกิจ หรือใกล้สาย3 มีงบน้อย ต้องการความช่วยเหลือ มารับเราได้ หรือพิกัดไม่ไกลบ้านเราเกินไป เราสามารถปั่นจักรยานไปหาได้ เราก็รับช่วยเหลือนะคะ
(เราเน้นลงแรงไม่ลงเงิน แต่สามารถจัดหาอุปกรณ์หรือที่ซื้ออุปกรณ์สิ้นเปลืองราคาถูกได้ที่ไหนบ้าง)
เรามีเพื่อนร่วมงานเก่าเป็นสัตวแพทย์ ยาตัวไหนที่สามารถจัดหาได้เอง เค้าก็จะบอกว่าต้องกินยาอะไร ปริมาณเท่าไหร่ ถ้าเราสะดวกจะจัดซื้อให้ได้ก็ทำ ถ้าไม่สะดวกก็ให้จข.สัตว์ ไปซื้อเองค่ะ
จะช่วยจนกว่าเจ้าของจะยืนยันว่า สามารถทำคนเดียวได้แล้ว จนถึงทำจนแผลหายค่ะ
แมวบ้านเรา หรือแมวที่พี่ชายเราไปขับรถทับมามีแผลเปิดใหญ่ ปกติเราก็ทำแผลเองคนเดียวค่ะ คนที่บ้านแบบ เเค่ให้จับแมวก็กลัวแล้ว เห็นแผลเเล้วจะเป็นลม
ถ้าเชื่อใจเรา ก็ขอความช่วยเหลือได้ค่ะ อายุเราเยอะแล้ว สุขภาพไม่ดี เลยไม่ได้ทำงานด้านนี้แล้ว เน้นนานๆมีให้ทำ ให้ช่วยดีกว่าค่ะ
ปล.เราไม่ใช่สัตวแพทย์ แค่เคยทำงานกับสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรม ทำแผลทุกรูปแบบมา1ปีค่ะ ส่วนสกิลอื่นก็เป็นสกิลเบสิคที่คนทำอาชีพนี้น่าจะทำได้กันทุกคน ถ้าชม.บินสูง มันก็จะกลายเป็นสกิลติดตัวไปทั้งชีวิต
ไม่รับอาบน้ำตัดขนนะคะ แพ้ขนสัตว์ปริมาณเยอะๆ ยกเว้นแมวหมาขนเป็นสังกะตัวติดผิวหนัง อันนี้สามารถช่วยตัดขนออกให้ได้
เคสการกุศล อยากช่วยทุกคนเลยจริงๆ
เมื่อ2อาทิตย์ที่แล้ว เราคุยกันเรื่องแมว ป้าก็พูดขึ้นมาว่า แมวบ้านป้าป่วย คนแถวนั้นสงสาร เลยพาน้องแมวไปหาหมอ และแจ้งกลับมาว่า
น้องแมวเป็น "เชื้อรานกพิราบ แผลจะรักษาไม่หาย" แล้วเค้าก็นำแมวกลับมาคืนป้า โดยไม่ได้ทำแผลให้แต่อย่างใด
เราน่ะตกใจเรื่องเชื่อรานกพิราบมาก เนื่องจาก มันเป็นโรคติดต่อแบบแมวสู่แมว แมวสู่คน และแมวบ้านเราเป็นเอดส์แมว เรากลัวเรื่องพาหะติดมาจากเจ้าของแมว หรือแมวบ้านอื่นไปติดแมวป้า แล้วมาติดแมวเรา
เนื่องจากโรคนี้รักษายากมาก ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตเมื่อเชื้อรากินถึงปอด ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเจอแผลที่จมูก ใบหู หน้า และกระจายไปตามร่างกายส่วนต่างๆ แผลสภาพเหมือนซอมบี้เนื้อส่วนที่เป็นแผล จะนิ่มเละเฟะเหมือนหมูสับ(ป้อนยาที จะร้องไห้ เพราะเนื้อเละบุ่มลงไปตามเเรงกดนิ้วเราเลยค่ะ (เรากลัวซอมบี้มาก) มีเลือดไหลตลอด หรือเลือดหยุดก็จะมีคราบเลือกเกรอะกรัง ทุกครั้งที่ล้างแผลก็ต้องขับคราบเลือดออก ถ้าดูแลดี มียากิน(ยาจากเกษตร ยาเยอะมาก) หรือเนื้อบางส่วนสามารถผ่าตัดส่วนเสียทิ้งไปก็ยังพอควบคุมการลามใหญ่ได้ แต่สุดท้าย พอถึงจุดนึง ส่วนที่เคยผ่าตัดก็จะมีแผลผุดขึ้นมาอีก รักษากันเป็นปี 2ปี กินยาทุกวัน มื้อนึง5-6เม็ด ขนาดที่หักใส่เเคปซูลมาแล้ว ก็ยังจัดว่าเยอะ
...เราเลยตัดสินใจ เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองอย่างดี เอาอุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้กับแมวเรา แช่แอลกฮอล์ 20นาที
จากนั้นไปบ้านคุณป้า บ้านป้าเป็นบ้านไม้ สภาพแบบอืมเป็นเรา เราอยู่ไม่ได้ เรากลัวงูเป็นที่สุด ป้าเลี้ยงแมวระบบปิด ด้วยการล่ามเชือก กลางคืนเอาเข้ากรง2ชั้น แล้วคลุมผ้ามุ้งกันยุงให้น้องแมว...
เราเดินไปพร้อมคุณป้า บ้านห่างกัน5ซอย ไม่มีวินมอไซต์ ถึงแม้ว่าป้าจะขอให้เรารอรถ เราก็มองว่า เราอยากให้ป้าเก็บเงินส่วนค่าวินไปกลับ30บาท เก็บไว้เป็นทุนดูแลแมวป้า
ตอนไปวันแรก เราดูแมวกันข้างนอกบ้าน
เราเห็นครั้งแรกคิดว่าไม่ใช่เชื้อรานกพิราบหรอกค่ะ น่าจะเป็นแผลโดนกัดแล้วเป็นฝีหนองมากกว่า สีเหลืองๆที่เห็นคือกำมะถันค่ะ ป้าบอกว่า อยากให้แผลน้องแห้ง แห้งจริงค่ะ ตอนล้างแผล
ขั้นตอนทั่วไปค่ะ
1. น้ำเกลือ
2. ผ้าก็อต
3 น้ำเกลือผสมเบตาดีน1:10ก็ได้ เบตาดีน1
เห็นแผลแล้วก็แจ้งกับป้าเจ้าของแมวว่า ให้เลี้ยงในห้องนอนค่ะ ให้น้องอยู่ที่สะอาด บ้านป้าก็มีห้องเดียวน่ะเเหละ พูดง่ายๆ ระหว่างเป็นแผลห้ามออกจากห้อง ตัวอื่นเค้าผูกเชือกเลี้ยงหน้าบ้าน หลังล้างแผลพบว่ามีแผ่นตายติดกับผงกัมถันเป็นแผ่นแข็ง ติดเส้นเลือด เราเลยยังไม่ล้างเยอะค่ะ ส่วนนึงคือ เรากลัวแมวฝังใจ ว่าเจอเรา และเราทำนางเจ็บ ก็ล้างพอทำเนา แว่นตาก็ไม่ได้เอาไป (สายตายาว มองใกล้ไม่ชัด) วันแรกที่ไป เราใช้ผ้าก็อต น้ำเกลือ เบตาดีน เทปเหนียวของเรา เราซื้อเป็นขวดใหญ่ทุกอย่าง เทปเหนียวแบบฉีกได้ใช้มา10ปียังไม่หมด เป็นม้วนแบบ200บาท กับเทปอีกอย่างที่เราซื้อมาพันนิ้วตอนทำงานรีโนเวทบ้านเช่า ช่างตัดสังกะสีไม่ดี โดนบาดบ่อย และ เพราะแมวเราเป็นแผลบ่อย (โดนแมวข้างนอกเข้ามากัดในบ้าน)
ล้างไว้เท่านี้ แล้วปิดแผลให้ เจ้าของมีคลอล่าแต่ตัดคลอล่าให้เล็กลงเพื่อให้แมวกินข้าวได้ เป็นผลทำให้แมวดึงกัดผ้าปิดแผลออกได้
จากที่แผลนไว้ว่า ถ้าคลีนจนหนองหมด สามารถทำแผลแบบวันเว้นวันได้ หรือ3วันทำครั้งนึงได้ แผลจะหายเร็วกว่าเราล้างทุก เพราะเนื้อเยื่อส่วนดีจะสร้สงทุกวัน และอ่อนแอมากเเค่เราสะกิดเบาๆก็หลุดค่ะ
คุณป้าเจ้าของแมวไปซื้อผ้าก็อตน้ำเกลือเอง ซึ่งเป็นแบบสิ้นเปลืองค่ะ เเพงเกินกว่าเหตุ รอบสองเราเลยไปซื้อให้ก่อน เช่น ยากิน(น้องมีน้ำมูกเขียว) ไซริงค์ ผ้าก็อตแถว นาโนสเปรย์ ...ก็ใช้ได้ประมาณอาทิตย์นึง ทำแผล ล้างจมูก (ยาจ่ายโดยสัตวแพทย์ที่เรารู้จัก) ป้าก็จ่ายเงินส่วนนี้คืนเรามาค่ะ
ช่วงเเรกป้าอาจจะยังไม่ไว้ใจเรา ป้าจะนัดเราไปแค่วันที่ป้าหยุดคือทุกวันเสาร์ วันธรรมดาป้าจะทำแผลเอง เราสอนเค้าไป
[img]https://f.ptcdn.info/320/089/000/t36uyr1p2lnqyMy8dD4qQ-o .jpg[/img]
ครบอาทิตย์มาดูแผล ล้างแผลให้ แอบยืนยันว่ามันไม่ใช่เชื้อรานกพิราบเเน่นอน
ป้าเริ่มไว้ใจ บอกว่าสามารถเข้าบ้านเค้าได้เลย เค้าออกจากบ้านไปทำงาน6โมงเช้า กลับ1-2ทุ่ม(เดินไกล และบ้านน่ากลัวจริง) เราก็จะไปล้างแผลให้ทุก3วันค่ะ แต่ป้าทำเองทุกวันเพราะน้องดึงเทปออก แล้วชอบเลียแผลมาก
ถ้าเราทำแผลเอง เราจะใช้เทปเรา ป้าบอกแทปเราติดดีมาก แล้วแมวก็ดื้อมาก ถีบ ดิ้น วิ่งหนี เอาคนมาช่วยจับก็ยังลำบาก ก็มักจะมีเทปที่ดึงไม่ออกติดไว้ให้เราเห็นทุกครั้ง ปกติเราทำแผลแมวคนเดียวค่ะ มือนึงจับหน้าคอ อีกมือก็ทำงานไป ป้าบอกว่าเวลาเราดึงเทป ทำไมน้องนิ่งมาก ปล่อยนอนเฉยๆไม่จับเลย น้องก็ไม่ขยับไปไหน ...ช่วงหลังๆเราเห็นแผลเี เราจะไป4-5วันครั้ง ไปโกนขนเพิ่ม เช็คแผล เพราะแมวแพ้เทปกาวง่าย มักจะมีผื่นแดง ถ้าเกาๆ เลียๆ ก็จะติดเชื้อเป็นแผลใหม่ขึ้นมา ก็ต้องสอนป้าไปว่าต้องทายาด้วยนะ
แผลสวยขึ้นค่ะ ขนาดเล็กลง แต่ยังมีโพรงใต้ผิวหนังบางส่วน ทำแผลด้วยวิธีเดิมๆ ล้างแผลพ่นยา น้ำมูกล้างไป2ครั้งหาย น้องนั่งนิ่งยอมให้ฉีดน้ำเกลือล้างโดยไม่ต้องบังคับ มีครั้งนึงป้าบอกว่า ไม่ค่อยเห็นน้ำมูกเเล้ว แต่เราปั่นกระดาษทิชชู่ให้ปลายแหลม จิ้มรูจมูกแมวเบาๆนิดเดียว...อืม เต็มหน้าค่ะ น้องจามน้ำมูกเขียวข้นออกมา2ข้างเลย (เต็มหน้าเราเลย) ล้างจมูกต่อ
ครั้งล่าสุดที่ไปมา
ขนาดของแผลที่ไปทำมา ไม่มีโพรงใต้หนังแล้ว แผลเล็กลงมาก ดจ้าของบอกว่าไม่ปิดแผลแล้ว เพราะน้องเอาออกตลอด แต่แผลก็ยังดูสวยค่ะ มาโกนขนล้างแผลให้
น้องให้ความร่วมมือดีเสมอค่ะ คือ ไม่ต้องจับค่ะ เเค่จัดท่าให้น้องนอนในท่าที่เราทำแผลสะดวก น้องก็นอนให้ทำแผลจนเสร็จ...พอบอกว่าเสร็จแล้ว น้องก็วิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
...ป้าเจ้าของแปลกใจว่า ทำไมนิ่งขนาดนี้ กับป้านี่ พอจะเปิดผ้าปิดแผลน้องวิ่งหนีหายไปเลย ได้แต่พูดกับน้องว่า "น้องเนยอย่าพึ่งไป พี่ยังไม่ทันได้แกะแผลเลย"
โดยปกติ เคสการกุศลของเรา หมาแมวจะให้ความร่วมมือดี คือ น้องจะนอนเฉยๆไม่ขยับค่ะ สามารถนอนรอเราเตรียมอุปกรณ์ระหว่างทำแผลได้โดยไม่ลุกไปไหน
.....ก็ต้องดูกันต่อไปว่าแผลจะหายเมื่อไหร่ ...น้องทำแผลอย่างเดียวไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อหรือฉีดยาฆ่าเชื้อค่ะ
เราจะไม่รับเคสเชื้อรานกพิราบ เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ หรือแมวที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง เช่น fip ลิวคีเมีย ...เน้นรับเคสทำแผลฝีหนอง แผลกดทับ ป้อนยาหมาแมวหูบวม ที่ไปกรีดรีดเลือดมาแล้ว ต้องทำแผล พันหูทุกวันอันนี้ก็ทำได้ค่ะ
กรณีดุกัดเจ้าของ และเป็นภัยคุกคามกับเรา เราจะเเนะนำเองว่าจข.ต้องเตรียมอะไรบ้างค่ะ ใช้งานระยะยาวได้ไม่เสียเงินเปล่าเเน่นอน (เรายังไม่เจอเคสดุกัดเรา เจอแต่ดุกัดเจ้าของ😂)เพื่อนบ้านเห็น ..เค้าบอกว่าเราแปลก แปลกที่สัตว์ไม่แสดงพฤติกรรมหวงตัว หวงบ้านใส่
ถ้าใครที่อยู่ในหมู่บ้านเศรษฐกิจ หรือใกล้สาย3 มีงบน้อย ต้องการความช่วยเหลือ มารับเราได้ หรือพิกัดไม่ไกลบ้านเราเกินไป เราสามารถปั่นจักรยานไปหาได้ เราก็รับช่วยเหลือนะคะ
(เราเน้นลงแรงไม่ลงเงิน แต่สามารถจัดหาอุปกรณ์หรือที่ซื้ออุปกรณ์สิ้นเปลืองราคาถูกได้ที่ไหนบ้าง)
เรามีเพื่อนร่วมงานเก่าเป็นสัตวแพทย์ ยาตัวไหนที่สามารถจัดหาได้เอง เค้าก็จะบอกว่าต้องกินยาอะไร ปริมาณเท่าไหร่ ถ้าเราสะดวกจะจัดซื้อให้ได้ก็ทำ ถ้าไม่สะดวกก็ให้จข.สัตว์ ไปซื้อเองค่ะ
จะช่วยจนกว่าเจ้าของจะยืนยันว่า สามารถทำคนเดียวได้แล้ว จนถึงทำจนแผลหายค่ะ
แมวบ้านเรา หรือแมวที่พี่ชายเราไปขับรถทับมามีแผลเปิดใหญ่ ปกติเราก็ทำแผลเองคนเดียวค่ะ คนที่บ้านแบบ เเค่ให้จับแมวก็กลัวแล้ว เห็นแผลเเล้วจะเป็นลม
ถ้าเชื่อใจเรา ก็ขอความช่วยเหลือได้ค่ะ อายุเราเยอะแล้ว สุขภาพไม่ดี เลยไม่ได้ทำงานด้านนี้แล้ว เน้นนานๆมีให้ทำ ให้ช่วยดีกว่าค่ะ
ปล.เราไม่ใช่สัตวแพทย์ แค่เคยทำงานกับสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรม ทำแผลทุกรูปแบบมา1ปีค่ะ ส่วนสกิลอื่นก็เป็นสกิลเบสิคที่คนทำอาชีพนี้น่าจะทำได้กันทุกคน ถ้าชม.บินสูง มันก็จะกลายเป็นสกิลติดตัวไปทั้งชีวิต
ไม่รับอาบน้ำตัดขนนะคะ แพ้ขนสัตว์ปริมาณเยอะๆ ยกเว้นแมวหมาขนเป็นสังกะตัวติดผิวหนัง อันนี้สามารถช่วยตัดขนออกให้ได้