เรื่องเล่าของคนไม่เคยตัดผมนอกประเทศมาก่อนในชีวิต

ชีวิตพลิกผลันจากการที่เป็นคนเหนือ ต้องระหกระเหินมาทำงานทางใต้เสียยิ่งกว่าปักษ์ใต้  ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ประเทศมาเลเซีย  ช่างทันสมัย AEC เสียกระไร ต้องบอกว่าประเทศเค้าพร้อมต่อการเข้าสู่ AEC มากมายกว่าเราเยอะ ธุรกิจทางด้านโทรคมนาคม แทบจะกลายเป็น Hub ของภูมิภาคนี้ไปเสียแล้ว  มีการสร้างเมืองใหม่ สร้างถนนใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองของธุรกิจต่าง ๆ มองไปทางไหนก็มีแต่การก่อสร้างขนาดใหญ่  ภาษาก็ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งมลายู  จีน  อังกฤษ ใช้กันคล่อง  อาม่า อากง ขายหมี่ ขายชา สื่อสารภาษาอังกฤษกันได้ทั้งนั้น  ชีวิตความเป็นอยู่ที่นี่ก็เรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ไม่มีอะไรหวือหวา จนมาพบเจอกับประสบการณ์ในการตัดผมนี่แหละ

เรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อประมาณ พฤศจิกายน ปีก่อน....

           หลังจากชั่งใจอยู่นานว่าจะรอกลับไปตัดผมที่บ้านเกิดเชียงใหม่ ช่วงที่ลากลับบ้านมกราคม ดีหรือไม่ แต่คิดว่ารอถึงตอนนั้นไม่ไหวแน่ คันหัวไปหมดแล้ว จึงได้เลือกที่จะลองใช้บริการร้านตัดผมใกล้ที่พัก ลักษณะร้านก็ดูโอ่อ่าได้มาตรฐานดี มองเข้าไปในร้านเห็นมีผู้ชายจีนนั่งตัดผมอยู่ 2 คน ดูทีท่าก็น่าจะโอเค หลังจากลังเลอยู่สักพักจึงตัดสินใจเดินเข้าไป

           ทันทีที่เดินเข้าไปช่างคนนึงที่กำลังตัดผมอยู่ก็ได้ส่งเสียงภาษาจีนที่ผมฟังไม่ออกประมาณว่า เรียก "คุณตี๋" (คุณตี๋เป็นชายเชื้อสายจีนรูปร่างท้วม ย้อมผมสีทอง มองดูแล้วเฟี้ยวเอาการ อายุอานามไม่น่าจะเกิน 22 ) ที่อยู่ในร้านออกมารับแขก แน่นอน..คุณตี๋บรรจงชงเช้งภาษาจีนใส่ผม ผมได้แต่ถามกลับไปว่า "ฮาวมัช ฟอร์ แฮร์คัท" เมื่อผมถามไปเช่นนั้น คุณตี๋ก็หยุดพูดจีนใส่ผมและปรายตามองด้วยสายตาที่ผมคุ้นชินจากคนจีนที่เจอมาตลอด 1 เดือน คุณตี๋คงกำลังคิดอยู่ในใจว่า "อ้ายนี่ กระแดะพูดอังกฤษ" ไม่เป็นไรผมชินเสียแล้ว   จากนั้นคุณตี๋ก็พาไปดูราคาค่าตัดผม ซึ่งทำให้ผมแปลกใจพอสมควร เพราะมีให้เลือกอยู่ถึง 3 ราคา 1.junior 16ริง  2.senior 26ริง 3.stylish 36ริง  ราคาตามประสบการณ์ของช่างเลยนะครับมาเลเซียแหม่   แน่นอนฮะผมเลือกเพลย์เซฟที่ซีเนียร์ จะให้จูเนียร์มาลองหัวผมก็กระไรอยู่  จากนั้น คุณตี๋ ก็พาผมไปนั่งที่เก้าอี้ตัดผม  แล้วก็จรจากหายเข้าไปที่หลังร้าน

          ผมก็คิดว่าคุณตี๋คงเดินไปตามช่างที่อาจพักผ่อนอยู่ด้านหลัง   แต่มันไม่เป็นดังเช่นที่ผมคิด  สักพักคุณตี๋เดินกลับมาพร้อมกับบัตตาเลี่ยนและชุดกรรไกร!!   ....เฮ่ย!! คุณตี๋เอาแล้วไง เอ็งอย่าบอกนะว่าเอ็งนี่ซีเนียร์แล้ว  ผมพยายามใจดีสู้เสือนึกเสียว่า ฝีมือมันอาจวัดกันที่รูปลักษณ์ภายนอกหรืออายุอานามไม่ได้  โอเค คุณตี๋ก็คุณตี๋ครับ  ผมก็จัดเลย "คุณตี๋ อันเดอร์คัท เซมสไตล์" คุณตี๋ตอบรับอย่างฉับพลัน "โอเค"  พร้อมกับบรรจงนำบัตตาเลี่ยนไถหัวผม (จริง ๆ ควรเรียกมันว่าขัดหัวมากกว่า) ผมนึกในใจ"นี่เอ็งกะขัดขี้กลากหัวกระผมออกด้วยเลยใช่มั้ย"  ผมได้แต่บ่นในใจนะครับ  ถิ่นเค้าเราเปรี้ยวไม่ได้  

          หลังจากคุณตี๋ขัดขี้กลากด้วยบัตตาเลี่ยนเสร็จ   คุณตี๋ก็บรรจงใช้กรรไกร แง้บ ๆ ทั่วทั้งหัว  ผมไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตอนนั้นว่าอย่างไร ผมจินตนาการถึงภาพนกแร้งที่กำลังรุมทึ้งซากศพ  ผมเชื่ออย่างแน่นอนว่า คุณตี๋ไม่เคยรู้จักคำว่า "ปราณีต"  ในหัวผม ณ ตอนนั้น มีแต่หน้าลุงฮอม(ช่างที่ผมตัดเป็นประจำแถว ๆ ถนนนิมมานฯ) ลอยไปลอยมาอยู่ในหัว  หัวละพันผมก็ยอมจ่ายหละฮะถ้าได้ลุงฮอมมาตัดให้ตอนนี้!!  ระหว่างที่คุณตี๋ทึ้ง ๆ หัวผมอยู่นั้น  ก็คอยถามตลอดเวลาว่า "โอเค?" "ดิสโอเค?" เอิ่ม..เอ็งไม่ยื่นกรรไกรให้กรูตัดเองเลยหละ เอ็งเป็นช่างนะเอ็งก็ดูเอาสิที่เอ็งตัดมันโอเคมั้ยแสสร ดด!!  ถึงตอนนั้นผมก็ได้แต่ยอมรับสภาพปล่อยให้คุณตี๋ตัดไปจนเสร็จสิ้นกระบวนการ

           เอาหละครับไคลแม็กซ์มันอยู่ตรงนี้ หลังตัดเสร็จคุณตี๋ก็บอกว่าเดี๋ยวจะสระผมให้ แล้วคุณแกก็เดินหายไปหลังร้านอีกครั้ง  ผมก็แปลกใจ "อ้าว..แล้วเอ็งไม่พากรูไปเตียงสระผมเหรอ"  สักพักคุณตี๋เดินกลับมาพร้อมกับขวดน้ำยาแชมพู แล้วก็เริ่มละเลงบีบน้ำยาลงบนหัวผม  "เฮ้ย..เช รี่ยยยย ละ เม-ริงง สระกันอย่างนี้เลยเหรอวะ!!  นั่งเก้าอี้อยู่เลยเนี่ยนะ!!"   โค-ตร อเมซิ่งมาเล!!!  พลันนั้นเองผมก็เกิดคำถามในใจ "แล้วตอนจะล้างแชมพูออกจากหัวก-รูเนี่ย เอ็งจะทำยังไงคุณตี๋"  ผมได้แต่เก็บความสงสัยไว้แล้วปล่อยคุณตี๋สระผมไปทั้งแบบนั้น ..แต่ต้องยอมรับว่าคุณตี๋มีฝีมือทางด้านการสระและการนวดหัวพอตัวทีเดียว

           จนในที่สุดเมื่อคุณตี๋เกาหัวนวดหัวผมอย่างเมามันเสร็จสิ้นแล้ว..  เอาหละ!! เวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง ผมจะได้เห็นเทคนิคการล้างผมขั้นสูงเสียที!! จากนั้นคุณตี๋บอกให้ผมลุกและเดินตามแกมา  ...ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏต่อสายตาผมทำให้ผมงุนงงสับสนเหมือนกับมีใครเอาไม้หน้าสามมาฟาดหัวก็ไม่ปาน  ภาพที่เห็นคือเตียงสระผมไร้คนใช้งาน เรียงกันอยู่ 3 เตียง  "ไอ้เชรี่ยยย แล้วคุณเม-ริง จะให้ผมนั่งสระหัวทำไมฟระ สาสสส"  นี่มาเลเค้าซื้อเตียงสระผมไว้ล้างหัวอย่างเดียวหรือวะคับเนี่ย...ผมไม่สามารถจะหาตรรกอะไรมาเข้าใจเรื่องนี้ได้!!!

            เอาครับถือว่าเป็นธรรมเนียมบ้านเค้า อย่าไปดัดจริตคิดมากให้มันปวดเศียรเวียนเกล้าเลย ผมก็พยายามคิดให้สบายใจไว้  พอกลับมาไดร์แห้งเสร็จเรียบร้อย  ก็ถึงเวลาลุกไปจ่ายเงิน  คุณตี๋เขียนบิลมา 36 ริงกิต!! "เฮ้ยก-รู ดูราคาซีเนียร์มัน 26 ไม่ใช่เหรอวะ" แต่ผมพอจะเดาได้ว่า คุณตี๋คงจะตอบกลับมาว่า "ค่านั่งสระหัวแบบที่ในประเทศลื้อไม่มีไง"  ผมเลยจำใจ ควักแบ็งค์ 50 ให้แกไป คุณตี๋รับเงินแล้วถามผมว่า "มีแบ็งค์เล็กกว่านี้มั้ย" ..... สลัดดด นี่คุณเม-ริง  จะกวนเบื้องล่างข้อเท้า ยันออกร้านเลยนะ  36 ริง ควัก 50 ริงจ่าย  ยังว่าแบ็งค์ใหญ่   โอเคผมควักหาแบ็งค์ 20 ริง 2 ใบให้แกแทน... รับเงินทอนแล้วเดินออกมาจากร้าน อารมณ์งง ๆ เหมือนถูกหลอกให้ไปฟังธุรกิจเครือข่ายมา...

           คุณตี๋ผมจะจดจำประสบการณ์ตัดผมครั้งนี้ ไว้ยันลูกยันหลานบวชเลยครับ สลัดดด  จบนะ!!!!

ปล.    ณ ตอนนี้ ร้านเจ๊งย้ายไปเปิดที่อื่นแล้ว
ปล.1  ล่าสุดผมได้เจอกับคุณตี๋ .. คุณตี๋ยืนแจกโบชัวร์ร้านตัดผมอื่น ใกล้ ๆ ร้านเดิมนั่นแหละ
ปล.2  อาจสงสัยกันว่าแล้วทรงผมออกมาเป็นยังไง .. ด้วยพื้นฐานหน้าตาค่อนไปทางดีจึงเอาตัวรอดมาได้ครับ 555+

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่