เวลาตัดสินใจซื้อบ้านของท่าน(ตอนที่เอาแน่แล้ว) ตัดสินใจอย่างไรครับ ตอนซื้อมีหลักคิดอย่างไร ผมอยากได้บ้าน แต่ไม่กล้าซักที

  อันดับแรกดูรายได้-รายจ่ายครับว่าเหลือเท่าไร  แล้วจะพอผ่อนไหวไหม เงินเดือนขนาดนี้จะกู้ได้เท่าไร
  2 ทำเลครับ ใกล้ที่ทำงานไหม ใกล้ตลาดไหม ใกล้แหล่งของกิน รพ หรือเปล่า  ต่อมาดูว่าเราชอบแบบไหน บ้านเงียบสงบแต่เข้าซอยลึกมาก  หรือ ใกล้ถนนใหญ่บางทีก็มีเสียงดังจากพื้นที่บริเวณรอบข้าง  บางที หมู่บ้านในละแวกเดียวกัน แต่ กว่าจะออกซอยได้ใช้เวลาต่างกัน10-15นาที   จำนวนบ้านในหมู่บ้านเช่น 50หลัง หรือ 180-250หลัง ถ้ามากกว่านี้คงไม่ไหวแระ หมู่บ้านขนาดเล็กแน่นอนว่า ปริมาณรถที่ผ่าน จะไม่มาก ค่อนข้างจะสงบกว่า แต่ค่าส่วนกลางหลังจากที่ตั้งนิติบุคคลแล้วน่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้น(ค่าส่วนกลางจะแพงเนื่องจากตัวหารจะน้อยกว่า) ส่วนจำนวนบ้านในเฟส หรือ โครงการมาก ก็จะทำให้ยามดูแลควบคุมกันลำบาก(แต่ก็ไม่แน่เสมอไป)  
  ตำแหน่งทิศของบ้าน ชอบลม ชอบแดดเช้า หรือแดดบ่าย พกเข็มทิศไปด้วย ไม่งั้นดูในไอโฟนเอาครับ บ้านบอกหันทิศเหนือ พอดูเข้าจริงเป็น ทิศเหนือแต่หันไปทางตะวันออกมากกว่า(บางคนถ้าถือเรื่องฮวงจุ้ยพาซินแสไปด้วยนะครับ บางทีบ้านที่จะเป็นของเรา เข้าไปจะรู้สึกได้เลย แต่บางหลังจากประสบการณ์ส่วนตัว ก่อนเข้าไปดูชอบมาก แต่ตอนกลับออกมา มองเข้าไปรู้สึกไม่อยากได้แล้ว  ถ้าอยากได้ความสงบเงียบ อย่าเลือกบ้านในถนนเมนของโครงการ(ในกรณีจำนวนบ้าน100หลังup) แต่จะได้ขนาดของถนนที่กว้างกว่า ลองชั่งนน ดูเอาครับ
   ขนาดของถนนในโครงการ ถ้าเลือกได้ให้เลือกมากกว่า 9 เมตร แบบที่ว่า รถจอดหน้าบ้านกัน2ฝั่ง แล้วยังสามารถขับรถกันได้  บ้านริมรั้ว ถ้าติดพื้นที่ว่างเปล่า ก็ไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไร  เสี่ยงต่อขโมย แล้วในอนาคตเราไม่สามารถล่วงรุ้ได้ ว่าจะมีอะไรมาตั้งในพื้นว่างดังกล่าว แต่บางคนบอกได้ลมดี อันนี้แล้วแต่ความชอบ ถ้าบ้านเป็นตำแหน่งทางสามแพร่ง ให้ลองคิดดูว่าถือไหม ถ้าไม่ถือ ให้ต่อรองส่วนลดกับโครงการให้มากๆครับ  
   ลานจอดรถ ถ้าเป็นไปได้ลองถามโครงการว่าลงเสาเข็มให้ด้วยหรือเปล่า หรือแค่เทปูนไว้เฉยๆ โอกาศที่ดินทรุดมี อาจจะให้โครงการลงเสาเข็มให้โดยทางเราออกค่าใช้จ่าย แต่ให้ตรวจสอบให้ดี ระวังโดนโครงการลักไก่
     ส่วนกลางของหมู่บ้าน ฟิตเนส สวน สระน้ำ ห้องอบซาวน่า ค่าส่วนกลางรายเดือน  (บางโครงการมันอลังการมากถ้าเราไม่คิดจะใช้ หรือไม่มีเวลาใช้ ซึ่งแน่นอนว่า ค่าส่วนกลางน่าจะต้องเสียมากกว่า   เวลาไปดูบ้านถ้าเป็นไปได้ให้ดูหน้าฝน น้ำขังไหม หลังคารั่วไหม   เวลาดูให้ไปดูทั้งช่วงเช้า เย็น กลางคืน เราจะได้รับรู้สภาพแวดล้อมต่างๆๆ ตามโครงการถ้ามีเฟสอื่น หรือ บ้านที่เข้ามาอยู่แล้ว ให้ไปดูวันอาทิตย์ด้วยนะครับ ลองพูดคุยกับผู้ที่ได้ซื้อมาก่อน เค้าจะบอกรายละเอียดข้อดี ข้อเสียของโครงการได้มาก  อย่าลืมไปดูช่วงเช้าก่อนออกไปทำงาน เยนหลังเลิกงานว่า สภาพการจราจร จะเข้าบ้านเป็นยังไงบ้าง
    เลือกหมู่บ้านที่มีทางเข้าออกทางเดียว จะดีกว่า มีทางเข้าออกทาง ข้อดีคือจะทำให้ รถไม่เยอะ คนนอกเข้าออกลำบาก ความปลอดภัยดีกว่า แต่ บางคนบอก เข้าออกได้หลายทางก็สะดวกในทางเดินทาง แบบนี้ต้องเลือกดูครับ
    น้ำท่วมหรือเปล่า(รวมน้ำขังด้วยนะครับว่าหลังจากฝนหยุดใช้เวลากี่นาที ถ้าเลือกได้อย่าให้ขังดีกว่า)  อันนี้ต้องลองไปถามลูกค้าในโครงการถ้ามีการเข้าอยู่แล้ว ถ้ายังไม่มี ต้องอาศัย ถามผู้คนแถวนั้นดูครับแวะกินข้ามตามร้านอาหารข้างทาง ให้แฟนเข้าร้านสระผม แล้วถามข้อมูลเอาครับ (คนที่จะรู้ดี แล้วรู้เรื่องมากที่สุด คือแม่บ้านกับยามในหมู่บ้านครับ เราสามารถพูดคุยตีสนิท สอบถามข้อมูลได้มาก)
    ทางเข้าหมู่บ้าน สูงกว่า ถนนหรือไม่ ถ้าต่ำกว่า หรือเท่ากัน อันนี้ให้คิดให้ดีครับ เพราะยังไง ถนนก็มีโอกาศถูกถมสูงขึ้นเรื่อยๆ  ถ้าเป็นบ้านมือ2 น้ำท่วม หรือขังป่าว ให้สังเกตจากรอยคราบน้ำตามฟุตบาท  ลานจอดรถของแต่ละบ้าน ว่ามีคราบน้ำหรือเปล่า  
    ใกล้โรงงาน หรือแหล่งอุตสาหกรรมหนักที่ส่งเสียงหรือกลิ่นไหม ใกล้บ่อพักขยะ ที่เผาขยะหรือเปล่า ใช้กูเกิ้ลให้เป็นประโยชน์ครับ ดูแผนที่ จะมีบอกตำแหน่งสิ่งก่อสร้างบริเวณใกล้เคียงได้  หรือ ลองหาคำว่า กลิ่นขยะบริเวณที่เราต้องการซื้อดูครับ   สุดท้ายเหมือนเดิมขับรถสำรวจด้วยตัวเอง พร้อมกับ หาข้อมูลจากชาวบ้านในละแวกนั้น  
    วัสดุในการก่อสร้าง ว่าชอบ การก่อสร้างแบบไหน อิฐมอญ อิฐมวลเบา precast (แต่บางทีมันก็เลือกไม่ได้แระ โครงการเป็นคนกำหนด)  คิดว่าจะต่อเติมหรือเปล่า คุณภาพวัสดุแต่ละโครงการแตกต่างกันขนาดไหน  แบบแปลนการจัดสัดส่วนของตัวบ้าน อย่าให้โครงการมาบอกว่า บ้านหลังนี้พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าอีกโครงการที่ใกล้กัน บางครั้งพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านเยอะ แต่ถ้าโครงการออกแบบมาไม่ดี กลายเป็นว่า บ้านที่เล็กกว่า กลับใช้ประโยชน์ได้เต็มที่กว่าบ้านพื้นที่ใช้สอยมากกว่า  ถ้าชอบใช้ชีวิตแต่ในบ้านให้เลือกบ้านพื้นที่ใช้สอยมากๆ ถ้าชอบปลูกสวนด้วย ควรจะเลือกบ้านที่มีพื้นเยอะหน่อยนะครับ แบบบ้านถ้าเป็นครอบครัวใหญ่มีผู้สูงอายุอาศัยด้วย ควรมีห้องนอนล่างด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องมาต่อเติมปรับปรุงเพิ่มภายหลัง ขนาดห้องนอนดูเอาตามชอบว่า วางเตียง 6 ฟุตได้ไหมสำหรับห้องนอนใหญ่ แล้วห้องเล็กวางเตียงขนาดไหนได้ แล้วเหลือ พื้นที่บ้างหรือเปล่า(ในกรณีครอบครัวใหญ่)
  ปัญหาเรื่องขโมย ถ้าได้เลือกบ้านในตำแหน่งที่เหมาะสม ปัญหาขโมยก็จะน้อยลง  หมู่บ้านที่เข้าออกทางเดียว  ยามที่เอาใจใส่ในหน้าที่ ส่วนที่เหลือ ก็อยู่ที่ตัวเราป้องกันตัวเองครับ ไม่ว่าจะติดเหล็กดัด กันขโมย เลี้ยงหมา และอื่นๆ
  เรื่องเพื่อนบ้าน อันนี้พอเลือกได้ แต่ มันขึ้นกับดวงมากกว่าครับ ถ้าซื้อมือ1 ลองถามเซลล์ว่าบ้านหลังข้างๆทำอาชีพอะไร นิสัยเป็นยังไงบ้าง มือ2 ก็วันไปดู ลองพูดคุยกันครับ  เรื่องซื้อบ้าน ถ้าพร้อมในเรื่องเงินค่าใช้จ่ายในการผ่อน  ปัญหาอื่นๆ ก็ไม่ต้องไปกังวลมากครับ
  บ้านใหม่ถ้ายังไม่เสร็จก็ห้ามโอนครับท่องไว้ แล้วให้ทางโครงการแก้ไขให้เรียบร้อยจนกว่าจะพอใจ(ยกเว้นมีปัญหาเรื่องโครงสร้าง อันนั้นขอย้ายหลัง หรือ ขอคืนเงินจองดีกว่านะครับ)  ถ้าประเภทงานแก้ไขเล็กๆน้อย ในประกันก็ตามโครงการกันไป ถ้าไม่ไหวก็จ้างช่างข้างนอกมาซ่อมครับ จะได้ไม่ต้องกังวลใจไปมากนะครับ
  ประสบการณ์ของผมเข้าไปดูบ้านทั้งโครงการใหม่ บ้านมือ2 มาพอสมควร เจ้าของกระทู้ไม่ต้องใจร้อนมากครับ สำคัญ คือ ความพร้อมทางการเงิน กับ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ผมใช้เวลาตะเวนดูบ้านมาจริงๆจังประมาณ 4 ปี ต้องขอบคุณเพื่อนในเวบประกาศ พันทิพได้ด้วยนะครับที่แนะนำการเลือกซื้อบ้าน แลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ