สืบเนื่องจากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/31745165
------ ธรรมะ ------
เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
เพราะลำใส้ใหญ่มี โรคมะเร็งลำใส้ใหญ่ย่อมมี
>>> เป็นไปตาม อิตัปปัจยตา
เมื่อมีอวิชชา และตัณหา ความทุกข์จึงมี
เพราะมี อวิชชา และตัณหา การเวียนว่ายในวัฏสงสาร จึงหาเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้
>>> เป็นไปตามปฏิจสมุทปบาท
------ โรคภัย เกี่ยวกับมะเร็งในลำใส้ใหญ่ ------
เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ผมได้ตรวจลำใส้ใหญ่ด้วยการสวนแป้งแ้ล้วเอ็กชเรย์ปรากฏว่า มีติ่งเนื้อในลำใส้ใหญ่ขนาดประมาณ 1 เชนติเมตร ในอาทิตย์ต่อมาในวันจันทร์ที่ 10 จึงจะทำการส่องกล้องดูในลำใส้ใหญ่ แล้วตัดติ่งเนื้อนั้นมาตรวจ
และผมได้ทราบจากสิ่งไม่ใช่คนบอกหลังจากตรวจจากการสวนแป้งก่อนแล้วว่า ติ่งเนื้อนั้นยังไม่มีอาการผิดปกติ หรือผิดปกติอย่างใด ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าเป็นจริงหรือไม่? เพราะจะทราบผลจากห้องแล็ปอย่างแท้จริงก็ในวันที่ 19 ที่จะถึงนี้เอง
แต่ประมาณตี 4 ของวันที่ 10 นั้น ผมต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉิน เพราะเกิดอาการชามือ แขน หน้า ศรีษะ อย่างแรง เหงื่อตกหน้าชีด ถ้ามากกว่านี้ผมรู้ตัวว่า กำลังจะเกร็งแน่นอน ซึ่งความจริงแล้วผมมีอาการชามือและแขนทั้งแต่วันที่ 9 ตอนบ่ายและเย็นแล้วหลังจากกินยาระบายรอบที่ 2 จากรอบแรกเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่กินน้ำมันระหุ่งไปสองขวดเพื่อสวนแป้งเอ็กสเรย์รอบแรก และผมต้องงดยาแอสไปริน มาเป็นเวลา 15 วันแล้ว จากที่กินมาตลอดมา 3 ปีกว่า ก็ทำให้มีความกังวล ในเรื่องของเส้นเลือดในสมองตีบเหมือนกัน จากที่เคยเกิดลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดสมองอย่างเฉียบพลัดมาแล้วนั้นเอง
เมื่อเข้าห้องฉุกเฉินหมอทำการตรวจเลือดสรุปว่า ผมขาดเกลือแร่อย่างมาก จึงให้น้ำเกลือตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 10 และคิวการส่องกล้องลำใส้ใหญ่ก็ยังดำเนินไปตามปกติ โดยต้องนอนติดสายน้ำเกลือไปตลอดนั้นเอง.
เมื่อเข้าในห้องสองกล้องก็เห็นหมอคนหนึ่งกำลังเตรียมปริมาณยาที่จะทำให้ผมมีอาการชึมแล้วฉีดเข้าไปในท่อน้ำเกลือถึงสองหลอดเข้าไปในทางเส้นเลือด แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกงวงชึม มองดูจอมอนิเตอร์ ที่หมออีกท่านหนึ่งสอดเข้าไปในลำใส้ใหญ่ของผม แล้วก็เห็นภาพทุกอย่างโดยตลอดอย่างชัดเจนจนสุดลำใส้ใหญ่ แต่ก็มีอาการสะดุ้งเล็กน้อยเพียงครั้งเดียวเมื่อกล้องไปชนลำใส้ใหญ่ครั้งหนึ่ง
เืมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างส่องกล้องกับการสวนแป้งเอ็กชเรย์ การส่องกล้องผู้ป่วยจะรู้สึกทรมานน้อยกว่าสวนแป้งเยอะที่เดียว แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่ามาก
นับว่าผมยังโชคดีที่ไม่ผบติ่งเนื้ออื่นๆ อีกเลยพบเพียงติ่งเดียว แล้วหมอก็ทำการตัดติ่งเนื้อนั้นออก คาตาของผมที่เห็นในจอมอนิเตอร์นั้น แล้วพริ้นภาพติ่งเนื้อนั้นออกมา หลังจากนั้นผมก็โดนเข็นออกมา นอนข้างนอกบริเวณห้องส่องกล้องนั้น.
ตัวอย่างภาพติ่งเนื้อในลำใส้ใหญ่และตำแหน่งประมาณนี้(เป็นภาพประกอบจากที่ือื่น)
ลักษณะก้อนเป็นดังนี้ (เป็นภาพประกอบจากที่ือื่น)
และในขณะที่ผมนอนรออยู่นั้นหมอที่ให้ยาผม ได้นำภาพในเคสก่อนหน้าผม และบอกว่าเป็นผู้หญิงอายุ 45 ปี มาเปรียบเทียบให้ผมดู ผมก็พยายามหาติ่งเนื้อแต่ไม่เห็น ผมจึงถามไปว่าไม่เห็นติ่งเนื้อเลยครับ?
หมอก็บอกว่า ให้ดูบริเวณเนื้อผิวของลำใส้ใหญ่ ที่กระจายไปทั่วผิดปกติ ผมจึงถึงบา้งอ้อ. ว่ามันเลยไปจากระยะติ่งเนื้อไปมากแล้วกระจายไปประมาณ 2 ใน 3 ของรอบรู้ลำใส้ใหญ่ตรงส่วนนั้นไปแล้ว ดังภาพตัวอย่าง แต่ยังน้อยกว่านี้มาก
ถ้าประมาณดูในแนวขวาง ก็ได้ประมาณดังภาพตัวอย่างนี้
สรูป แล้วผมต้องนอนโรงพยาบาล 1 คืน คือ 2 วัน นั้นเอง ต้องรับน้ำเกลือที่เป็นเกลือแร่ หนึ่งขวด และน้ำเกลือธรรมดาอีก 1 ขวด
นี้และหนอตามธรรมที่กล่าวว่า....
สังขารไม่เที่ยงหนอ
สังขารเป็นทุกข์หนอ
สังขารยึดมั่นถือมั่นไม่ได้หนอ
เป็นไปตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วนั้นเอง.
โรคเกี่ยวกับลำใส้ใหญ่ และธรรมะ
------ ธรรมะ ------
เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
เพราะลำใส้ใหญ่มี โรคมะเร็งลำใส้ใหญ่ย่อมมี
>>> เป็นไปตาม อิตัปปัจยตา
เมื่อมีอวิชชา และตัณหา ความทุกข์จึงมี
เพราะมี อวิชชา และตัณหา การเวียนว่ายในวัฏสงสาร จึงหาเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้
>>> เป็นไปตามปฏิจสมุทปบาท
------ โรคภัย เกี่ยวกับมะเร็งในลำใส้ใหญ่ ------
เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ผมได้ตรวจลำใส้ใหญ่ด้วยการสวนแป้งแ้ล้วเอ็กชเรย์ปรากฏว่า มีติ่งเนื้อในลำใส้ใหญ่ขนาดประมาณ 1 เชนติเมตร ในอาทิตย์ต่อมาในวันจันทร์ที่ 10 จึงจะทำการส่องกล้องดูในลำใส้ใหญ่ แล้วตัดติ่งเนื้อนั้นมาตรวจ
และผมได้ทราบจากสิ่งไม่ใช่คนบอกหลังจากตรวจจากการสวนแป้งก่อนแล้วว่า ติ่งเนื้อนั้นยังไม่มีอาการผิดปกติ หรือผิดปกติอย่างใด ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าเป็นจริงหรือไม่? เพราะจะทราบผลจากห้องแล็ปอย่างแท้จริงก็ในวันที่ 19 ที่จะถึงนี้เอง
แต่ประมาณตี 4 ของวันที่ 10 นั้น ผมต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉิน เพราะเกิดอาการชามือ แขน หน้า ศรีษะ อย่างแรง เหงื่อตกหน้าชีด ถ้ามากกว่านี้ผมรู้ตัวว่า กำลังจะเกร็งแน่นอน ซึ่งความจริงแล้วผมมีอาการชามือและแขนทั้งแต่วันที่ 9 ตอนบ่ายและเย็นแล้วหลังจากกินยาระบายรอบที่ 2 จากรอบแรกเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่กินน้ำมันระหุ่งไปสองขวดเพื่อสวนแป้งเอ็กสเรย์รอบแรก และผมต้องงดยาแอสไปริน มาเป็นเวลา 15 วันแล้ว จากที่กินมาตลอดมา 3 ปีกว่า ก็ทำให้มีความกังวล ในเรื่องของเส้นเลือดในสมองตีบเหมือนกัน จากที่เคยเกิดลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดสมองอย่างเฉียบพลัดมาแล้วนั้นเอง
เมื่อเข้าห้องฉุกเฉินหมอทำการตรวจเลือดสรุปว่า ผมขาดเกลือแร่อย่างมาก จึงให้น้ำเกลือตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 10 และคิวการส่องกล้องลำใส้ใหญ่ก็ยังดำเนินไปตามปกติ โดยต้องนอนติดสายน้ำเกลือไปตลอดนั้นเอง.
เมื่อเข้าในห้องสองกล้องก็เห็นหมอคนหนึ่งกำลังเตรียมปริมาณยาที่จะทำให้ผมมีอาการชึมแล้วฉีดเข้าไปในท่อน้ำเกลือถึงสองหลอดเข้าไปในทางเส้นเลือด แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกงวงชึม มองดูจอมอนิเตอร์ ที่หมออีกท่านหนึ่งสอดเข้าไปในลำใส้ใหญ่ของผม แล้วก็เห็นภาพทุกอย่างโดยตลอดอย่างชัดเจนจนสุดลำใส้ใหญ่ แต่ก็มีอาการสะดุ้งเล็กน้อยเพียงครั้งเดียวเมื่อกล้องไปชนลำใส้ใหญ่ครั้งหนึ่ง
เืมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างส่องกล้องกับการสวนแป้งเอ็กชเรย์ การส่องกล้องผู้ป่วยจะรู้สึกทรมานน้อยกว่าสวนแป้งเยอะที่เดียว แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่ามาก
นับว่าผมยังโชคดีที่ไม่ผบติ่งเนื้ออื่นๆ อีกเลยพบเพียงติ่งเดียว แล้วหมอก็ทำการตัดติ่งเนื้อนั้นออก คาตาของผมที่เห็นในจอมอนิเตอร์นั้น แล้วพริ้นภาพติ่งเนื้อนั้นออกมา หลังจากนั้นผมก็โดนเข็นออกมา นอนข้างนอกบริเวณห้องส่องกล้องนั้น.
ตัวอย่างภาพติ่งเนื้อในลำใส้ใหญ่และตำแหน่งประมาณนี้(เป็นภาพประกอบจากที่ือื่น)
ลักษณะก้อนเป็นดังนี้ (เป็นภาพประกอบจากที่ือื่น)
และในขณะที่ผมนอนรออยู่นั้นหมอที่ให้ยาผม ได้นำภาพในเคสก่อนหน้าผม และบอกว่าเป็นผู้หญิงอายุ 45 ปี มาเปรียบเทียบให้ผมดู ผมก็พยายามหาติ่งเนื้อแต่ไม่เห็น ผมจึงถามไปว่าไม่เห็นติ่งเนื้อเลยครับ?
หมอก็บอกว่า ให้ดูบริเวณเนื้อผิวของลำใส้ใหญ่ ที่กระจายไปทั่วผิดปกติ ผมจึงถึงบา้งอ้อ. ว่ามันเลยไปจากระยะติ่งเนื้อไปมากแล้วกระจายไปประมาณ 2 ใน 3 ของรอบรู้ลำใส้ใหญ่ตรงส่วนนั้นไปแล้ว ดังภาพตัวอย่าง แต่ยังน้อยกว่านี้มาก
ถ้าประมาณดูในแนวขวาง ก็ได้ประมาณดังภาพตัวอย่างนี้
สรูป แล้วผมต้องนอนโรงพยาบาล 1 คืน คือ 2 วัน นั้นเอง ต้องรับน้ำเกลือที่เป็นเกลือแร่ หนึ่งขวด และน้ำเกลือธรรมดาอีก 1 ขวด
นี้และหนอตามธรรมที่กล่าวว่า....
สังขารไม่เที่ยงหนอ
สังขารเป็นทุกข์หนอ
สังขารยึดมั่นถือมั่นไม่ได้หนอ
เป็นไปตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วนั้นเอง.