ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนกลัว รพ.มาก555 ไปหาหมอเนื่องจากมีอาการปวดท้องเหมือนมีลมเยอะผิดปกติ เพราะปวดเป็นๆหายๆมา3 วัน เนื่องจากก่อนหน้านี้แม่ มีอาการเดียวกันไปส่องกล้องตรวจกระเพาะกับลำไส้ ที่รพ. เมคปาร์ค ที่คลองเตยมาโดยใช้ประกันชีวิตของบริษัทเมืองไทย และผลจากการส่องกล้องคือมีการติดเชื้อจากการทานผักที่มีสารปนกับพวกดินมาที่เรามองไม่เห็น จึงทำให้มีจุดเล็กๆในท้องเป็นสีเลือดคะ เราเคยถามทางหมอ หมอบอกว่าถ้าทานอาหารร่วมกับแม่ก้ออาจจะมีการติดเหมือนกันได้ เนื่องจากอาหารที่ทานเป็นชนิดเดียวกัน แต่วันนั่นเรายังไม่มีอาการใดๆ ทันมาอีก1 เดือนมีอาการเหมือนกันเลย จึงไปตรวจที่รพ. เจ้าพระยากับคุณหมอ สุรีย์พร ปรากฏหมอให้นัดส่องกล้องตรวจในวัน จัน เราไปวันเสาร์ แต่ส่งให้ทำอัตราซาวน์ช่องท้องบนล่างก่อน พอตรวจเจอเลยจร้า ช็อกโกแลตชีส และเนื้องอกคะ ตอนนั่นเริ่มมโนละคะว่าจะเป็นไรไหมหนอ ถูกส่งต่อไปแผนกสูตินรีเวชต่อเลยคะ หมอแจ้งว่า ช็อกโกแลตชีสด้านซ้ายขนาด 4.3 ซม. ขวา 3.2 ซม เนื้องอก 3ซม ตอนนั่นหมอก้อให้คำปรึกษามาคะ แต่แจ้งไปว่าขอคิดดูก่อนคะ (เดียวเล่าภาค2 คะ) มาถึงตอนทราบหน้าเรานิซีดเลยคะ เดินออกมาเจอหมอที่ออกเวรแล้วคือหมอ สุรีย์พร แผนกลำไส้ ท่านให้นั่งและเล่าให้ฟังว่าเป็นไงบ้าง ท่านบอกว่าทุกอย่าง ยังเล็กอยู่ ค่อยๆคิดคะ แต่วันจันให้มาส่องกล้องก่อน ไม่น่าจะมีอะไรคะ คือในใจคุณหมอน่ารักมากให้กำลังใจและคำแนะนำดีมากคะ เนื่องจากอีก 1 สัปดาห์เรามีบินไปโตเกียว หมอบอกพอตรวจเสร็จบินไปเที่ยวได้เลย
พอจะกลับทางรพ. มียาให้เตรียมลำไส้คะ ห้ามทานผลไม้ ให้ทานอาหารอ่อน วันจันไปถึง 8 โมงคะ เราแจ้งที่พยาบาลว่าเราอยู่ๆก้อแพนิค พยาบาลก้อน่ารักอีกบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัว ปลอบใจสุดๆคะ ให้กำลังใจดีมาก ใช้น้ำเกลือเสร็จ จัดยาผสมน้ำที่ทำให้ถ่ายไป 2 ลิตรคะ เข้าห้องน้ำประมาณ 6-7 รอบคะ เพื่อล้างลำไส้ให้ไม่มีอาหารตกค้าง พอเวลา 11.30 น พยาบาลมาเข็นรถไปยังห้องที่จะทำการส่องกล้องคะ พอมาถึง ปวดเข้าห้องน้ำอีก2รอบคะ เนื่องจากจัดน้ำไปเยอะมาก
มาถึงตอนสำคัญ จำได้ว่าพยาบาลจัดท่าให้นอนและให้กัดอะไรที่ปาก และบอกพ่นยาแล้วนะ ไม่ถึง 1 นาทีคะหลับไปเลย ตื่นอีกที่เสร็จแล้วคะ มานอนพักฟื้นที่ห้องรอพักฟื้นประมาณ ครึ่งชม.คะ แล้วก้อเข็นขึ้นห้องพักคะ หายมึนหัวก้อทานอาาหารอ่อนๆได้ปกติคะ สักพักคุณหมอก้อมาแจ้งผลคะ ลืมบอกไปว่า ทางปากมีสายเข้าไปส่องคือกระเพาคะ และทางทวารคือส่องลำไส้เล็กและใหญ่คะ ผลคุณหมอเอารูปมาให้ชัดมากคะ มีติ่งเนื้อเล็กๆ ประมาณ 17 ชิ้น หมอคลิปออกมาทั้งหมดคะ แต่ไม่ใช่เนื้อร้ายคะ เป็นติ่งเนื้อที่ทำให้ท้องอืดคะ เพราะเยอะมาก หมอถามว่ากินยาแก้ท้องอืดบ่อยไหม แต่เราไม่ค่อยได้กินเลยคะ เลยไม่รู้ว่ามีขึ้นมาได้ยังไง อยากบอกทุกคนที่กลัวและกังวัลว่า การแพทย์สมัยนี้ลำหน้าไปไกลคะ และบางสิ่งเรามโนกลัวเองคะ สำหรับเราไม่เจ็บเลยคะ และโชคดีที่เจอคุณหมอสุรีย์พร ที่เป็นหมอเฉพาะทาง และพูดให้กำลังใจตลอดเลยคะ ซึ่งตรงนี้ต้องขอขอบคุณและชื่นชมมากจริงๆคะ ทำให้เรามีความมั่นใจและกล้าที่จะไม่กลัวกับการส่องกล้องคะ หลังจากนั่นหมอนัด 1 เดือน มาสอบถามอาหาร และอาจจะต้องตรวจอีกโดยการส่องกล้องที่กระเพาอย่างเดียวอีก6 เดือน เพื่อดูว่ามีติ่งเนื้ออีกไหม เนื่องจากคุณหมอบอกว่าเคยมีเคสแบบนี้เหมือนกัน ตามคลิปมา 3 รอบ ก้อจะไม่ขึ้นมาแล้วคะ (ลืมบอกว่าเราท้องผูกมากชอบทำดีท็อคเป็นประจำซึ่งหมอแจ้งว่าไม่ดีต่อระบบลำไส้ ปัจจุบันเลยหันมาทานผัก ผลไม้ โยเกิต์คะ)
สำหรับค่าใช้จ่าย ทางประกันเมืองไทยที่เราทำไว้เป็นผู้จ่ายทั้งหมดคะ ร่วมทั้งการจ่ายก่อนเข้ารักษา และมีนัดหลังทำการส่องกล้อง ไม่เกิน1เดือนก้อเบิกได้ทั้งหมดตามกรมธรรม์ที่ระบุไว้คะ การมีประกันมีข้อดี ถ้าเราเลือกทำประกันในความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย และศึกษาการทำประกันอย่างดีคะ เพราะปัจจุบันค่ารักษาใน รพ.สูงมากคะ ตอนต่อไปจะเล่าเรื่องช็อกโกแลตชีสคะ
[CR] ส่องกล้องกับหมอ สุรีย์พร ดูลำไส้ไม่น่ากลัว
พอจะกลับทางรพ. มียาให้เตรียมลำไส้คะ ห้ามทานผลไม้ ให้ทานอาหารอ่อน วันจันไปถึง 8 โมงคะ เราแจ้งที่พยาบาลว่าเราอยู่ๆก้อแพนิค พยาบาลก้อน่ารักอีกบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัว ปลอบใจสุดๆคะ ให้กำลังใจดีมาก ใช้น้ำเกลือเสร็จ จัดยาผสมน้ำที่ทำให้ถ่ายไป 2 ลิตรคะ เข้าห้องน้ำประมาณ 6-7 รอบคะ เพื่อล้างลำไส้ให้ไม่มีอาหารตกค้าง พอเวลา 11.30 น พยาบาลมาเข็นรถไปยังห้องที่จะทำการส่องกล้องคะ พอมาถึง ปวดเข้าห้องน้ำอีก2รอบคะ เนื่องจากจัดน้ำไปเยอะมาก
มาถึงตอนสำคัญ จำได้ว่าพยาบาลจัดท่าให้นอนและให้กัดอะไรที่ปาก และบอกพ่นยาแล้วนะ ไม่ถึง 1 นาทีคะหลับไปเลย ตื่นอีกที่เสร็จแล้วคะ มานอนพักฟื้นที่ห้องรอพักฟื้นประมาณ ครึ่งชม.คะ แล้วก้อเข็นขึ้นห้องพักคะ หายมึนหัวก้อทานอาาหารอ่อนๆได้ปกติคะ สักพักคุณหมอก้อมาแจ้งผลคะ ลืมบอกไปว่า ทางปากมีสายเข้าไปส่องคือกระเพาคะ และทางทวารคือส่องลำไส้เล็กและใหญ่คะ ผลคุณหมอเอารูปมาให้ชัดมากคะ มีติ่งเนื้อเล็กๆ ประมาณ 17 ชิ้น หมอคลิปออกมาทั้งหมดคะ แต่ไม่ใช่เนื้อร้ายคะ เป็นติ่งเนื้อที่ทำให้ท้องอืดคะ เพราะเยอะมาก หมอถามว่ากินยาแก้ท้องอืดบ่อยไหม แต่เราไม่ค่อยได้กินเลยคะ เลยไม่รู้ว่ามีขึ้นมาได้ยังไง อยากบอกทุกคนที่กลัวและกังวัลว่า การแพทย์สมัยนี้ลำหน้าไปไกลคะ และบางสิ่งเรามโนกลัวเองคะ สำหรับเราไม่เจ็บเลยคะ และโชคดีที่เจอคุณหมอสุรีย์พร ที่เป็นหมอเฉพาะทาง และพูดให้กำลังใจตลอดเลยคะ ซึ่งตรงนี้ต้องขอขอบคุณและชื่นชมมากจริงๆคะ ทำให้เรามีความมั่นใจและกล้าที่จะไม่กลัวกับการส่องกล้องคะ หลังจากนั่นหมอนัด 1 เดือน มาสอบถามอาหาร และอาจจะต้องตรวจอีกโดยการส่องกล้องที่กระเพาอย่างเดียวอีก6 เดือน เพื่อดูว่ามีติ่งเนื้ออีกไหม เนื่องจากคุณหมอบอกว่าเคยมีเคสแบบนี้เหมือนกัน ตามคลิปมา 3 รอบ ก้อจะไม่ขึ้นมาแล้วคะ (ลืมบอกว่าเราท้องผูกมากชอบทำดีท็อคเป็นประจำซึ่งหมอแจ้งว่าไม่ดีต่อระบบลำไส้ ปัจจุบันเลยหันมาทานผัก ผลไม้ โยเกิต์คะ)
สำหรับค่าใช้จ่าย ทางประกันเมืองไทยที่เราทำไว้เป็นผู้จ่ายทั้งหมดคะ ร่วมทั้งการจ่ายก่อนเข้ารักษา และมีนัดหลังทำการส่องกล้อง ไม่เกิน1เดือนก้อเบิกได้ทั้งหมดตามกรมธรรม์ที่ระบุไว้คะ การมีประกันมีข้อดี ถ้าเราเลือกทำประกันในความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย และศึกษาการทำประกันอย่างดีคะ เพราะปัจจุบันค่ารักษาใน รพ.สูงมากคะ ตอนต่อไปจะเล่าเรื่องช็อกโกแลตชีสคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้