ตามความเห็นของผม หมดรูจะไปแล้ว ตอนนี้ก็แค่ พยายามยึดติดเอาไว้เป็นเกราะไม่ให้ แกนนำต้องเดินเข้าสู่กระบวนการตามกฏหมาย
ทั้งยุทธศาสตร์ และจำนวน คน(ที่เหลือ) ดูจะไร้สาระขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็ได้แต่เขียนบท ทองเนื้อเก้า ตอนวันเฉลิม โดนลำยองตบ แต่ไม่โดน เพราะส่วนมากจะเป็นรุ่นพิเศษ คือ ไม่ด้าน ก็ห่างเป้าหมาย ไกลมาก สุดแต่ว่าจะเลือก แพกเกจ ไหน
แต่ด้วยความที่ไม่เนียน...ประชาชนส่วนใหญ๋ยังไม่เชื่อ ขนาดช่อง ๗ สีที่วีเพื่อม๊อบ ยังกระมิดกระเมี้ยนรายงานว่า เหตุระเบิดในเต๊นท์ ใกล้เวทีปราศรัย มีลักษณะ ระเบิดจากในออกนอก ก็คือ ระเบิดจากการพยายามทำระเบิดนั่นแหละ แต่มวลที่เหลือ คงไม่ต้องถาม ยังคงอยู่กับมโนว่า ทักษิณ ดำดินไปโผล่กลางเต๊นท์ พอดีการ์ดเห้น เลยเกิดการต่อสู้กันในเต๊นท์ การด์เลยโดนทักษิณปาระเบิด
ซึ่งผมก็ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด บอกกันตามตรงว่าหมดหวังไปนานแล้ว กับคนเหล่านี้ หากจะยกมาถกกันด้วยเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์
เหลียวมองมาที่ องค์กรอิสระ ความจริง เอียงมาแต่ต้นเนี่ย
ถ้าถามวิณญูชนทั่วไป ที่คิดเป็น พิจารณาเป็น ไม่อคติ ทุกคนจะตอบได้หมดว่า ความอียงมันชัดมากขนาดไหน
เพียงแต่ เขาจะออกมาพูดหรือไม่นั่นเป็นอีกอย่างหนึ่ง หรือพูดแล้ว ก็คงไม่ฟัง ไม่สำนึก ไม่สำเหนียกว่า
ความเสื่อมที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ได้มีใครทำ มันไม่ได้มีใครปราศรัย ชักจูง แต่มันเห็นกันจะ ๆ มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ซุบเปอร์ตัวช่วยนี้ น่าจะเป็นไม้สุดท้ายว่า จะล้มรัฐบาลอย่างไร ให้มันไปแบบสลึมสลือ ไปแบบมึน ๆ ไปแบบครอบจักรวาล
แต่มันก็ไม่ใช่ว่า ประชาชนจะแพ้ เพราะเมื่อประชาชนแสดงออก เขาก็จะชี้ชัดด้วยมือในคูหาเลือกตั้ง สวนกลับไปให้หน้าแหกเสียทุกครั้ง
แทนที่จะสำนึกว่า ประชาชนรู้ทัน ดันทะลึ่งบอก ประชาชนโง่ ประชาชนซื้อได้
งั้น ประชาชน ก็ไม่ควรมีสิทธิ ในการเลือกตั้ง
ควรลากตั้งไปซักระยะหนึ่ง
อันนี้แหละ คือ คอนเซปที่เขาคิด และพยายามจะทำแบบนั้นจริง ๆ
ติดอยู่ที่ว่า โลกมันเจริญแล้ว ติดอยู่ที่ว่า ทั่วโลกจับตามอง ติดอยู่ที่ว่า ประชาชนไม่ยอม
เขาก็เลยยึกยัก ๆ ๆ หลังจากโยนหินถามทาง กันมาเป็นเข่ง ผ่าน เวที กปปส.
ถามว่าผมห่วงมั้ย ผมไม่ห่วง ผมเฉย ๆ เพราะผมชิน จะเล่นบทถ่วง ไม่ต้องให้ประเทศไปไหน มันก็รับกรรม พร้อม ๆ กันนี่แหละ
ชกกลับมา ประชาชน ก็ยกเท้าสวนกลับไปมา ตั้ง ๒๐ ปีแล้ว และยังคงตั้งใจจะยันกลับไปทุกครั้ง
ต่อให้นายวิชาออกมาลอยหน้าลอยตา ว่า ไม่เลือกปฏิบัติ แค่เอกสารหายหาไม่เจออย่างไร ผมก็แค่ยิ้มมุมปาก ดูแกพยายามแถ
มองไปที่ กกต. สมชัย ผมก็จะดูสิว่า จะมึนไปได้นานแค่ไหน
มองไปที่ อมรา ก็เห็นใจแกนะ ไม่รู้ถอนทุนคืนคุ้มหรือยัง หลังจากพยายามรับใช้อย่างสุดลิ่ม จนได้บำเหน็จรางวัลมาแล้ว ก็คงจะทนไปเรื่อย ๆ ตามประสา ศรีทนด้ายต่อไป
องค์กรเหล่านี้ ยิ่งทำก็ยิ่ง พิสูจน์ ว่าความเชื่อของประชาชนส่วนมากนั้น มันไม่ใช่ มโน มันไม่ใช่คิดไปเอง แต่มันเป็นเรื่องจริง
อย่าไปคาดหวังอะไรเลยครับ สำหรับกระบวนการเหล่านี้ เปิดหน้าเล่นกันแบบนี้แล้ว เอาทุกอย่างแหละ สุดแต่ว่า จะให้มันเนี่ยนที่สุดตรงคดีไหน
แต่ผมเชื่อครับว่า ...เมื่อถึงที่สุด ประชาชนก็จะปฏิเสธความยุติธรรมเหล่านี้กลับไปทำงาน เพื่อตบหน้า คนเหล่านี้เหมือนเดิม
แค่อยากบอกว่า อย่าทะลึ่งไป โฒฆะ ๒๐ ล้านเสียง ที่เสี่ยงชีวิต เข้าไปเลือกตั้งเป็นอันขาดนะครับ
ผมพอเข้าใจว่า นี่คือ คีย์สำคัญ ที่จะดันก้น ประชาธิปัตย์ อย่างสุดฤทธิ
อย่านะครับ อย่าเป็นอันขาด เพราะมันเป็นฟางเส้นสุดท้ายโดยตรงจากประชาชนทั่วประเทศ
จะเอียงถล่มรัฐบาลก็ทำไป ถ้าหันมาตบกบาลประชาชนโดยตรงหละก็ ผมเกรงว่า..ความอิบอ๋าย แบบของจริงจะตามมาชนิดคาดไม่ถึง
เพราะประชาชนจะรู้สึกได้ทันทีว่า อดทนให้กระทำฝ่ายเดียวต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
แนวรบ กปปส. สรุปว่า พังราบคาบ ไม่มีอะไรแล้ว เหลือแต่ ซุบเปอร์ตัวช่วย...อย่างเดียวว่าจะหารูมึนไปอย่างไร
ทั้งยุทธศาสตร์ และจำนวน คน(ที่เหลือ) ดูจะไร้สาระขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็ได้แต่เขียนบท ทองเนื้อเก้า ตอนวันเฉลิม โดนลำยองตบ แต่ไม่โดน เพราะส่วนมากจะเป็นรุ่นพิเศษ คือ ไม่ด้าน ก็ห่างเป้าหมาย ไกลมาก สุดแต่ว่าจะเลือก แพกเกจ ไหน
แต่ด้วยความที่ไม่เนียน...ประชาชนส่วนใหญ๋ยังไม่เชื่อ ขนาดช่อง ๗ สีที่วีเพื่อม๊อบ ยังกระมิดกระเมี้ยนรายงานว่า เหตุระเบิดในเต๊นท์ ใกล้เวทีปราศรัย มีลักษณะ ระเบิดจากในออกนอก ก็คือ ระเบิดจากการพยายามทำระเบิดนั่นแหละ แต่มวลที่เหลือ คงไม่ต้องถาม ยังคงอยู่กับมโนว่า ทักษิณ ดำดินไปโผล่กลางเต๊นท์ พอดีการ์ดเห้น เลยเกิดการต่อสู้กันในเต๊นท์ การด์เลยโดนทักษิณปาระเบิด
ซึ่งผมก็ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด บอกกันตามตรงว่าหมดหวังไปนานแล้ว กับคนเหล่านี้ หากจะยกมาถกกันด้วยเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์
เหลียวมองมาที่ องค์กรอิสระ ความจริง เอียงมาแต่ต้นเนี่ย
ถ้าถามวิณญูชนทั่วไป ที่คิดเป็น พิจารณาเป็น ไม่อคติ ทุกคนจะตอบได้หมดว่า ความอียงมันชัดมากขนาดไหน
เพียงแต่ เขาจะออกมาพูดหรือไม่นั่นเป็นอีกอย่างหนึ่ง หรือพูดแล้ว ก็คงไม่ฟัง ไม่สำนึก ไม่สำเหนียกว่า
ความเสื่อมที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ได้มีใครทำ มันไม่ได้มีใครปราศรัย ชักจูง แต่มันเห็นกันจะ ๆ มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ซุบเปอร์ตัวช่วยนี้ น่าจะเป็นไม้สุดท้ายว่า จะล้มรัฐบาลอย่างไร ให้มันไปแบบสลึมสลือ ไปแบบมึน ๆ ไปแบบครอบจักรวาล
แต่มันก็ไม่ใช่ว่า ประชาชนจะแพ้ เพราะเมื่อประชาชนแสดงออก เขาก็จะชี้ชัดด้วยมือในคูหาเลือกตั้ง สวนกลับไปให้หน้าแหกเสียทุกครั้ง
แทนที่จะสำนึกว่า ประชาชนรู้ทัน ดันทะลึ่งบอก ประชาชนโง่ ประชาชนซื้อได้
งั้น ประชาชน ก็ไม่ควรมีสิทธิ ในการเลือกตั้ง
ควรลากตั้งไปซักระยะหนึ่ง
อันนี้แหละ คือ คอนเซปที่เขาคิด และพยายามจะทำแบบนั้นจริง ๆ
ติดอยู่ที่ว่า โลกมันเจริญแล้ว ติดอยู่ที่ว่า ทั่วโลกจับตามอง ติดอยู่ที่ว่า ประชาชนไม่ยอม
เขาก็เลยยึกยัก ๆ ๆ หลังจากโยนหินถามทาง กันมาเป็นเข่ง ผ่าน เวที กปปส.
ถามว่าผมห่วงมั้ย ผมไม่ห่วง ผมเฉย ๆ เพราะผมชิน จะเล่นบทถ่วง ไม่ต้องให้ประเทศไปไหน มันก็รับกรรม พร้อม ๆ กันนี่แหละ
ชกกลับมา ประชาชน ก็ยกเท้าสวนกลับไปมา ตั้ง ๒๐ ปีแล้ว และยังคงตั้งใจจะยันกลับไปทุกครั้ง
ต่อให้นายวิชาออกมาลอยหน้าลอยตา ว่า ไม่เลือกปฏิบัติ แค่เอกสารหายหาไม่เจออย่างไร ผมก็แค่ยิ้มมุมปาก ดูแกพยายามแถ
มองไปที่ กกต. สมชัย ผมก็จะดูสิว่า จะมึนไปได้นานแค่ไหน
มองไปที่ อมรา ก็เห็นใจแกนะ ไม่รู้ถอนทุนคืนคุ้มหรือยัง หลังจากพยายามรับใช้อย่างสุดลิ่ม จนได้บำเหน็จรางวัลมาแล้ว ก็คงจะทนไปเรื่อย ๆ ตามประสา ศรีทนด้ายต่อไป
องค์กรเหล่านี้ ยิ่งทำก็ยิ่ง พิสูจน์ ว่าความเชื่อของประชาชนส่วนมากนั้น มันไม่ใช่ มโน มันไม่ใช่คิดไปเอง แต่มันเป็นเรื่องจริง
อย่าไปคาดหวังอะไรเลยครับ สำหรับกระบวนการเหล่านี้ เปิดหน้าเล่นกันแบบนี้แล้ว เอาทุกอย่างแหละ สุดแต่ว่า จะให้มันเนี่ยนที่สุดตรงคดีไหน
แต่ผมเชื่อครับว่า ...เมื่อถึงที่สุด ประชาชนก็จะปฏิเสธความยุติธรรมเหล่านี้กลับไปทำงาน เพื่อตบหน้า คนเหล่านี้เหมือนเดิม
แค่อยากบอกว่า อย่าทะลึ่งไป โฒฆะ ๒๐ ล้านเสียง ที่เสี่ยงชีวิต เข้าไปเลือกตั้งเป็นอันขาดนะครับ
ผมพอเข้าใจว่า นี่คือ คีย์สำคัญ ที่จะดันก้น ประชาธิปัตย์ อย่างสุดฤทธิ
อย่านะครับ อย่าเป็นอันขาด เพราะมันเป็นฟางเส้นสุดท้ายโดยตรงจากประชาชนทั่วประเทศ
จะเอียงถล่มรัฐบาลก็ทำไป ถ้าหันมาตบกบาลประชาชนโดยตรงหละก็ ผมเกรงว่า..ความอิบอ๋าย แบบของจริงจะตามมาชนิดคาดไม่ถึง
เพราะประชาชนจะรู้สึกได้ทันทีว่า อดทนให้กระทำฝ่ายเดียวต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว