สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิตาสว่าง ร่วมกับเครือข่ายข้อมูล
การเมืองไทย และมูลนิธิฟรีคริช เนามัน จัดงานเสวนา "โฉมหน้าประเทศไทยเมื่อไร้รัฐสภา" มี
นายจรัส สุวรรณมาลา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้า
พรรคประชาธิปัตย์ และนายอำนวย คลังผา อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรค (วิป) รัฐบาล
ร่วมเสวนา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม มีสาระสำคัญดังนี้ ......
อลงกรณ์ พลบุตร
วิกฤตการณ์การเมืองครั้งนี้ใช่ว่าไทยไม่เคยเผชิญ รุนแรงกว่านี้ก็มี แต่ก็ก้าวผ่านมาได้
เราจะก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้อย่างไร ยังไม่มีคำตอบ คิดว่าสิ่งที่คนทั้งประเทศคาดหวังคือ ก้าวข้ามอย่างสันติวิธี
นำประชาธิปไตยกลับคืนมา
มีข้อเสนอที่คิดว่าเป็นทางออก 1.การเจรจาระหว่าง กปปส.และรัฐบาล 2.ตั้งคณะกรรมการร่วมปฏิรูปการเลือกตั้ง
และคณะกรรมการร่วมปฏิรูปประเทศไทย โดยสองฝ่ายเป็นผู้เสนอแนวทาง 3.พรรคการเมืองหลักต้องปฏิรูป
ตัวเองครั้งใหญ่ สร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองไม่ใช่สถาบันของนักการเมือง 4.องค์กรอิสระ ทหาร วางตัว
เป็นกลาง ไม่ทำให้สังคมเคลือบแคลงว่าเอนเอียง เข้าข้าง
ทางออกเหล่านี้เสนอเพื่อนำความเชื่อถือกลับมา ตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ เป็นทางออกของการแก้ไขปัญหา
ความซับซ้อนของปัญหามีมาก แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์คือเริ่มมีการพูดถึงการเจรจา ซึ่งการเกี่ยงงอน การตั้งแง่
เป็นเรื่องธรรมดา คิดว่าในส่วนของรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ควรผ่อนปรนพื่อให้การเจรจาจะเกิดขึ้นได้
ประเด็นที่ กปปส.เสนอ หัวใจคือการปฏิรูปประเทศ พรรคเพื่อไทยเคยเสนอเรื่องการปฏิรูปประเทศถึงกับตั้ง
คณะกรรมการชุดต่างๆ ขึ้นมา สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยมีคณะทำงานเรื่องนี้ เสมือนได้
พิมพ์เขียวออกมา การปฏิรูปของหลายฝ่ายเหมือนกันมาก 1.แก้ปัญหาคอร์รัปชั่น 2.แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
ทางเศรษฐกิจและสังคม แต่เมื่อไม่จับมือกันก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
การเจรจาไม่ควรมีเงื่อนไขเช่น ต้องยกเลิกการชุมนุมก่อนจึงจะเริ่มกระบวนการ เพราะการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
ไม่ว่าในภาวะสงครามหรือการชุมนุมทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องให้สงครามยุติก่อน เนื่องจากการเจรจาเป็น
เครื่องมือถอดชนวนความขัดแย้งหรือสงคราม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เสนอเจรจา สอดคล้องกับที่นายกฯบอกว่าหันหน้ามาคุยกัน ส่วนการ
ตั้งคณะกรรมการร่วมก็ทำงานไป อย่างน้อยเป็นการทอดสะพานให้แก่กัน ลดช่องว่างและคุยกันอย่างมีเหตุผล
ที่สุดแล้วมวลชนทั้งสองฝ่ายจะชนะ ไม่มีวันที่ฝ่ายเดียวจะชนะได้
การเจรจาคงเกิดขึ้นแน่นอน สถานการณ์ความยืดเยื้อของการชุมนุม ภาวะบีบคั้นจากผลกระทบต่อปากท้อง
เศรษฐกิจ การลงทุน การส่งออก การปิดตัวของเอสเอ็มอี เป็นส่วนหนึ่งทำให้ทุกฝ่ายได้สติ ถ้าต่อสู้ไม่สิ้นสุด
ไม่โอนอ่อนหันหน้าเจรจา จะทำให้ประเทศบอบช้ำ ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย
การเจรจารอบแรกควรถ่ายทอดสด แต่ละฝ่ายนำเสนอประเด็นข้อเรียกร้อง จุดยืนต่อคนไทยทั้งประเทศ ทำไม
ต้องให้ฃคนสองคนตกลงกันเอง พูดกับคนทั้งประเทศโดยไม่วิจารณ์ข้อเรียกร้องของกันและกัน เพราะจะมี
ประเด็นที่ตรงกัน แล้วสกัดเอาจุดร่วมออกมา
อย่างไรก็ตาม อยากสรุปว่าการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสำคัญของประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของ
โดยการเลือกผู้แทนมาเป็น ส.ส. ส.ว. ขณะเดียวกันแนวทางปฏิรูปก็ต้องเดินหน้า อย่าให้เป็นการเมืองแบบ
"กงเกวียนกำเกวียน"แบบบังกลาเทศ ที่ฝ่ายแพ้จัดการชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล จนกลายเป็นประเทศที่ยากจน
ที่สุดในโลก
ประเด็นรัฐบาลรักษาการในรัฐธรรมนูญต้องดูเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นเพียงการกำหนดกรอบเพื่อให้
ปฏิบัติ แต่ไม่มีผล ถ้าวิเคราะห์รัฐธรรมนูญอย่างตรงไปตรงมา หากน้ำท่วมใหญ่ยาว 2 เดือน 10 จังหวัด จัดการ
เลือกตั้งไม่ได้ทำให้เสร็จๆ ไป อย่าตีความรัฐธรรมนูญตามสีแว่น แต่ต้องตีความอย่างตรงไปตรงมา จะพบว่า
เงื่อนเวลาไม่ใช่ปัญหา จึงรักษาการได้จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่
เรื่องคนกลาง ในอดีตหนีไม่พ้นสถาบัน วันนี้เมื่อเห็นด้วยกับการเจรจา ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีมวลชนอยู่ข้างหลัง มันจึง
ต้องการการบ่ม ว่ามวลชนเห็นพ้อง ผู้นำเห็นพ้อง ที่สำคัญคือรูปแบบ ถ้าเรามองว่าการเจรจาคือหนทางสู่เป้าหมาย
ที่แท้จริง
วันนี้ต้องคิดใหญ่ อย่าคิดเล็กคิดน้อย รูปแบบอย่างที่บอกไป เพราะประเทศไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกล่มหนึ่ง
ถ่ายทอดสดไปเลย เห็นด้วยประเด็นใดก็ตั้งคณะกรรมการร่วม ใครเป็นรัฐบาลต้องปฏิบัติตาม
หากยังอยู่จุดยืนเดิมจะมีแต่ความรุนแรง ความร้าวฉาน
............
(ที่มา:มติชนรายวัน 7 มี.ค. 2557)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394192323&grpid=&catid=02&subcatid=0202
นักวิชาการอีก 2 ท่าน ตามไปอ่านเองจาก link ค่ะ แปะคคห.ของ คุณ อลงกรณ์ เพราะมันขัดแย้ง
กับท่าทีของพรรคปชป. ทีแสดงออกว่า ไม่สนับสนุน การเดินหน้าเลือกตั้ง ....
แสดงว่า วันนี้ ปชป. ก็ไม่เป็นเอกภาพ .... และแสดงออกแบบชัดเจน แฟนปชป.ในบอร์ดล่ะคะ
คิดเห็นยังไงกันบ้าง นายกฯคนกลาง ... เดินหน้าเลือกตั้ง แบบไหนดี
วงเสวนา อาจารย์-นักการเมือง หนุนเจรจา พาประเทศพ้นวิกฤต ข่าวมติชนออนไลน์
การเมืองไทย และมูลนิธิฟรีคริช เนามัน จัดงานเสวนา "โฉมหน้าประเทศไทยเมื่อไร้รัฐสภา" มี
นายจรัส สุวรรณมาลา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้า
พรรคประชาธิปัตย์ และนายอำนวย คลังผา อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรค (วิป) รัฐบาล
ร่วมเสวนา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม มีสาระสำคัญดังนี้ ......
อลงกรณ์ พลบุตร
วิกฤตการณ์การเมืองครั้งนี้ใช่ว่าไทยไม่เคยเผชิญ รุนแรงกว่านี้ก็มี แต่ก็ก้าวผ่านมาได้
เราจะก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้อย่างไร ยังไม่มีคำตอบ คิดว่าสิ่งที่คนทั้งประเทศคาดหวังคือ ก้าวข้ามอย่างสันติวิธี
นำประชาธิปไตยกลับคืนมา
มีข้อเสนอที่คิดว่าเป็นทางออก 1.การเจรจาระหว่าง กปปส.และรัฐบาล 2.ตั้งคณะกรรมการร่วมปฏิรูปการเลือกตั้ง
และคณะกรรมการร่วมปฏิรูปประเทศไทย โดยสองฝ่ายเป็นผู้เสนอแนวทาง 3.พรรคการเมืองหลักต้องปฏิรูป
ตัวเองครั้งใหญ่ สร้างความเป็นสถาบันทางการเมืองไม่ใช่สถาบันของนักการเมือง 4.องค์กรอิสระ ทหาร วางตัว
เป็นกลาง ไม่ทำให้สังคมเคลือบแคลงว่าเอนเอียง เข้าข้าง
ทางออกเหล่านี้เสนอเพื่อนำความเชื่อถือกลับมา ตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ เป็นทางออกของการแก้ไขปัญหา
ความซับซ้อนของปัญหามีมาก แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์คือเริ่มมีการพูดถึงการเจรจา ซึ่งการเกี่ยงงอน การตั้งแง่
เป็นเรื่องธรรมดา คิดว่าในส่วนของรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ควรผ่อนปรนพื่อให้การเจรจาจะเกิดขึ้นได้
ประเด็นที่ กปปส.เสนอ หัวใจคือการปฏิรูปประเทศ พรรคเพื่อไทยเคยเสนอเรื่องการปฏิรูปประเทศถึงกับตั้ง
คณะกรรมการชุดต่างๆ ขึ้นมา สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยมีคณะทำงานเรื่องนี้ เสมือนได้
พิมพ์เขียวออกมา การปฏิรูปของหลายฝ่ายเหมือนกันมาก 1.แก้ปัญหาคอร์รัปชั่น 2.แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
ทางเศรษฐกิจและสังคม แต่เมื่อไม่จับมือกันก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
การเจรจาไม่ควรมีเงื่อนไขเช่น ต้องยกเลิกการชุมนุมก่อนจึงจะเริ่มกระบวนการ เพราะการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
ไม่ว่าในภาวะสงครามหรือการชุมนุมทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องให้สงครามยุติก่อน เนื่องจากการเจรจาเป็น
เครื่องมือถอดชนวนความขัดแย้งหรือสงคราม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เสนอเจรจา สอดคล้องกับที่นายกฯบอกว่าหันหน้ามาคุยกัน ส่วนการ
ตั้งคณะกรรมการร่วมก็ทำงานไป อย่างน้อยเป็นการทอดสะพานให้แก่กัน ลดช่องว่างและคุยกันอย่างมีเหตุผล
ที่สุดแล้วมวลชนทั้งสองฝ่ายจะชนะ ไม่มีวันที่ฝ่ายเดียวจะชนะได้
การเจรจาคงเกิดขึ้นแน่นอน สถานการณ์ความยืดเยื้อของการชุมนุม ภาวะบีบคั้นจากผลกระทบต่อปากท้อง
เศรษฐกิจ การลงทุน การส่งออก การปิดตัวของเอสเอ็มอี เป็นส่วนหนึ่งทำให้ทุกฝ่ายได้สติ ถ้าต่อสู้ไม่สิ้นสุด
ไม่โอนอ่อนหันหน้าเจรจา จะทำให้ประเทศบอบช้ำ ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย
การเจรจารอบแรกควรถ่ายทอดสด แต่ละฝ่ายนำเสนอประเด็นข้อเรียกร้อง จุดยืนต่อคนไทยทั้งประเทศ ทำไม
ต้องให้ฃคนสองคนตกลงกันเอง พูดกับคนทั้งประเทศโดยไม่วิจารณ์ข้อเรียกร้องของกันและกัน เพราะจะมี
ประเด็นที่ตรงกัน แล้วสกัดเอาจุดร่วมออกมา
อย่างไรก็ตาม อยากสรุปว่าการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสำคัญของประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของ
โดยการเลือกผู้แทนมาเป็น ส.ส. ส.ว. ขณะเดียวกันแนวทางปฏิรูปก็ต้องเดินหน้า อย่าให้เป็นการเมืองแบบ
"กงเกวียนกำเกวียน"แบบบังกลาเทศ ที่ฝ่ายแพ้จัดการชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล จนกลายเป็นประเทศที่ยากจน
ที่สุดในโลก
ประเด็นรัฐบาลรักษาการในรัฐธรรมนูญต้องดูเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นเพียงการกำหนดกรอบเพื่อให้
ปฏิบัติ แต่ไม่มีผล ถ้าวิเคราะห์รัฐธรรมนูญอย่างตรงไปตรงมา หากน้ำท่วมใหญ่ยาว 2 เดือน 10 จังหวัด จัดการ
เลือกตั้งไม่ได้ทำให้เสร็จๆ ไป อย่าตีความรัฐธรรมนูญตามสีแว่น แต่ต้องตีความอย่างตรงไปตรงมา จะพบว่า
เงื่อนเวลาไม่ใช่ปัญหา จึงรักษาการได้จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่
เรื่องคนกลาง ในอดีตหนีไม่พ้นสถาบัน วันนี้เมื่อเห็นด้วยกับการเจรจา ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีมวลชนอยู่ข้างหลัง มันจึง
ต้องการการบ่ม ว่ามวลชนเห็นพ้อง ผู้นำเห็นพ้อง ที่สำคัญคือรูปแบบ ถ้าเรามองว่าการเจรจาคือหนทางสู่เป้าหมาย
ที่แท้จริง
วันนี้ต้องคิดใหญ่ อย่าคิดเล็กคิดน้อย รูปแบบอย่างที่บอกไป เพราะประเทศไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกล่มหนึ่ง
ถ่ายทอดสดไปเลย เห็นด้วยประเด็นใดก็ตั้งคณะกรรมการร่วม ใครเป็นรัฐบาลต้องปฏิบัติตาม
หากยังอยู่จุดยืนเดิมจะมีแต่ความรุนแรง ความร้าวฉาน
............
(ที่มา:มติชนรายวัน 7 มี.ค. 2557)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394192323&grpid=&catid=02&subcatid=0202
นักวิชาการอีก 2 ท่าน ตามไปอ่านเองจาก link ค่ะ แปะคคห.ของ คุณ อลงกรณ์ เพราะมันขัดแย้ง
กับท่าทีของพรรคปชป. ทีแสดงออกว่า ไม่สนับสนุน การเดินหน้าเลือกตั้ง ....
แสดงว่า วันนี้ ปชป. ก็ไม่เป็นเอกภาพ .... และแสดงออกแบบชัดเจน แฟนปชป.ในบอร์ดล่ะคะ
คิดเห็นยังไงกันบ้าง นายกฯคนกลาง ... เดินหน้าเลือกตั้ง แบบไหนดี