ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากหลังห้องที่ทำงาน มันคือเสียงอะไรกันแน่ หลอนอ่า

กระทู้คำถาม
เพิ่งย้ายตึกมาอยู่อาคารสร้างใหม่ ได้ยินเสียงแปลกๆมาร่วมๆ 2 อาทิตย์ หลังจากที่หน่วยงานที่อยู่ชั้น 1 ได้มีการทำบุญกันเพื่อเป็นศิริมงคลก่อนย้ายเข้าไปอยู่ (เค้าทำบุญกันก่อนวันพระ 1 วัน) หลังจากนั้นมา ก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากข้างหลังห้อง พอดี จขกท อยู่เวรนอกเวลาต้องอยู่ทำงานเลิกดึก บางทีก็อยู่คนเดียว บางทีก็อยู่กับพี่ที่ทำงานด้วยกันอีกคน

     ห้องทำงาน จขกท  อยู่อีกชั้นนึงค่ะ สภาพห้องที่ จขกท ย้ายเข้ามาอยู่ ถึงแม้จะเป็นตึกสร้างใหม่ แต่ มันวังเวงมากเหลือเกิน ห้อง จขกท นั้น อยู่หลังสุด นั่นก็คือหลังตึกเลยนั่นแหละ ข้างๆที่เยื้องไปเล็กน้อยเป็นห้องประชุม ซึ่งเมื่อใช้เสร็จเค้าก็จะปิดห้องปิดไฟกันตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง ห้องตรงข้ามซึ่งเป็นห้องทำงานของแพทย์เค้าก็กลับกันไปก่อนแล้ว ซึ่งก็จะเหลือห้อง จขกท ห้องเดียวที่อยู่หลังสุด

     ท้องฟ้าเริ่มมืดลง มืดลงเรื่อยๆ ชั้นที่ จขกท นั่งทำงานอยู่เค้ากลับไปกันหมดแล้ว แต่โชคดีวันนั้นนั่งทำงานกับพี่ที่ทำงานด้วยกัน เหลือเราแค่ 2 คน ก็นั่งๆทำงานไปเรื่อยๆ พอได้เวลาเลิกเวร ก็เตรียมตัวเก็บของกลับบ้าน จขกท  ปวดฉี่เลยไปเข้าห้องน้ำ เหลือพี่ที่นั่งอยู่ในห้องอีกคน พอเข้าห้องน้ำเสร็จเราก็กลับมาที่ห้องเพื่อเตรียมหิ้วกระเป๋ากลับบ้าน  พอลุกขึ้นจากเก้าอี้เท่านั้นแหละ ได้ยินเสียงเหมือนมีคนหยิบหนังสือจากชั้นหนังสือ พอมองไป (ไม่กล้าลุกไปดูด้วย) ก็ไม่มีอะไร เพราะหลังห้องมันจะมีพวกนวนิยายสยองขวัญอยู่ประมาณ ห้าสิบเล่มได้ วางเรียงกันอยู่ แล้วก็มีของวางรกนิดหน่อย เลยมองไม่ค่อยเห็นอะไรมากนัก แต่ตอนได้ยินได้ยินกันทั้งคู่

     หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้น พี่ที่ห้องเลยบอกว่าเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงก๊อกแก็กตรงคอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านข้างถัดไปประมาณ 5 เมตร แต่ จขกทไม่ได้ยิน จขกท เริ่มใจไม่ดี ด้วยความปากไว จึงพูดขึ้นมาว่า “พรุ่งนี้วันพระ รีบกลับเถอะ” พวกเราก็เลยรีบปิดไฟแล้วรีบออกจากห้องทันที ขาก็สั้น มือก็สั่น
พอวันรุ่งขึ้น ก็ยังไม่คิดอะไรมาก แต่ก็กลัวๆเหมือนกัน พอวันที่ 2 (มันเกิดขึ้นอีก) ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เหลือเราสองคนอีกแล้ว ก็นั่งทำงานกันปกติ ไม่ได้คิดอะไรแล้ว พอใกล้เลิกเวร เลยหันไปบอกพี่ที่ทำงานด้วยกันว่า “กลับบ้านกันเถอะ” เราก็เตรียมเก็บกระเป๋า แล้วเดินมาถึงประตูเพื่อที่จะออก  เตรียมเอื้อมมือปิดไฟในห้อง ยังไม่ทันปิดไฟ เสียงหนังสือที่คาดว่าน่าจะหนักราวๆ 1-2 กิโล (ตำราต่างประเทศ) ล้มลง เราทั้งคู่ตกใจมาก เพราะเสียงมันดังมาก แต่เราไม่เห็นหรอกว่าเล่มไหน เพราะจะกลับบ้านแย้วว รีบเผ่นดีก่า เลยรีบปิดไฟ ปิดประตู  (หน่วยงานอื่นกลับไปหมดแล้ว) ในขณะเดียวกันเราก็หันไปบอกพี่เค้าว่า “หนังสือหล่นค่ะ ไม่น่ามีอะไร(ปลอบใจตัวเอง)”  

    เช้ารุ่งขึ้นด้วยความอยากรู้ว่าเล่มไหนมันล้มลงกันแน่ เพราะมันล้มเสียงดังมาก เลยเดินไปดู พยายามหาว่าเล่มไหน ปรากฏว่าไม่มีเล่มไหนร่วงเลย  เอาแล้วไง โดนแล้ว 2 วันติด เลยเรียกพี่ที่อยู่เวรด้วยกันมาดูว่าเมื่อวานมีหนังสือเล่มไหนร่วงมั้ย พี่เค้าเดินดูเชคทุกซอกทุกมุมก็ไม่มีเล่มไหนร่วง พอรู้เท่านั้นแหละขนลุกเลย เกิดมาเพิ่งเจอจังๆ

    ถัดจากวันนั้น ประมาณ 1 อาทิตย์ พี่ที่อยู่เวรด้วยกัน เค้าได้กลิ่นเหมือนหนูตายแถวๆหน้าห้องประมาณ 5 นาทีได้มั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลิ่นเลย  เราเลยถามพี่เค้าว่ามีลมมั้ยตอนนั้นพี่เค้าบอกไม่มีลม เพราะจะได้สันนิฐานว่ากลิ่นน่าจะมาตามลม แต่มันไม่ใช่ เลยถามพี่เค้าว่ากลิ่นฟอมาลีนเหรอ พี่เค้าบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยได้กลิ่นเหมือนกัน (แต่ตอนนั้นเรากลับบ้านไปแล้วไม่ได้อยู่เวร) เราเลยไปถามคนเก่าแก่ที่ทำงานที่นี่มานาน เค้าบอกว่าตึกนี้แต่ก่อนสร้าง มันเคยเป็นตึกคนไข้มาก่อน ประมาณสร้างทับที่เก่าว่างั้น เราก็เลยเก็ท คงจะแบบนี้สินะ ไม่น่าล่ะ ตึกมันใหม่มากไม่น่าจะมีอะไร แต่ก็ไม่รู้อีกแหละว่าเบื้องลึกเบื้องหลังนั้นมันยังไง ทุกวันนี้ เลยได้แต่นั่งกลัวเวลาทำงานคนเดียว มีคนบอกว่า ถ้าได้ยินอีกให้สวดแผ่เมตตาไป ทุกวันนี้ก็ยังกลัวไม่หาย หรืออาจเพราะยังไม่ชินด้วยมั้งคะ
ประสบการณ์ตรงเกิดขึ้นเมื่อ 1-2 อาทิตย์ก่อนค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่