เสียงนาฬิกาปลุกบอกเวลาห้านาฬิกาของเช้าวันใหม่ ‘ปริม’ สั่งตัวเองให้ลุกจากที่นอน ด้วยความเมื่อยล้าจากการนอน เธอบิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะลุกไปอาบน้ำ
หญิงสาวใช้เวลาไม่นานก็ลงมาอยู่หน้าหอพักรวมใกล้มหาวิทยาลัยของเธอ ซึ่งวันนี้เป็นวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ของคณะ ‘วิศวกรรมศาสตร์’ เธอเดินตามทางเท้ามาจนถึงมหา’ลัยด้วยความไม่รีบร้อน เพราะกว่าจะถึงเวลานัดหมายก็อีกสองชั่วโมง
เธอสำรวจรอบๆตึกคณะอย่างตื่นเต้น กว่าจะเข้ามายืนที่ตรงนี้ได้เธอได้ใช้ทั้งความขยัน อดทนตั้งใจเรียนทั้งในห้องเรียนและเรียนเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้เข้ามาที่คณะแห่งนี้ มหาวิทยาลัยแห่งนี้...
‘โต๊ส’ ชายหนุ่มรูปหล่อ ยืนสูงสง่าอยู่หน้าตึกคณะวิศวะ เขากำลังเดินดูรอบๆตึกที่ใช้จัดกิจกรรมในวันนี้
“เฮ้ย! ไอ้โต๊ส” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำให้เขาหันไปมอง
“อ่าว ไอ้ก้อง ไอ้ภัทร กว่าจะมากันได้” โต๊สทักเพื่อนสนิทสองคนที่เดินเข้ามาหา ก่อนจะค้อนเบาๆใส่เพื่อนหนุ่ม เขาย้ำแล้วย้ำอีกว่าต้องให้มาก่อนรุ่นน้อง เพื่อนเตรียมงานให้มีความตื่นเต้น
“บ่นทำไมวะ ก็ยังไม่เห็นมีใครมา” ก้องพูด
“จะไม่มีได้ไง เห็นนั่งอยู่หลังต้นไทรหลังตึก” โต๊สว่า
เมื่อตอนที่เขาเลี้ยวไปจอดรถที่ข้างตึก เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ม้าหินใต้ต้นไทรหลังคณะ ซึ่งนั่นเป็นที่ประจำของเขา อันที่จริงแล้วเขาจะไปรอเพื่อนทั้งสองที่นั่น แต่เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ จึงเดินไปดูหน้าตึกที่เตรียมอุปกรณ์ไว้จัดกิจกรรมสำหรับรับน้องในวันนี้
“ไอ้เชี่ยโต๊ส! แน่ใจนะว่าคน” ภัทรสะดุ้ง เขาเป็นคนกลัวพลังงานที่ไม่มีตัวตนอย่างจับหัวใจ เมื่อเพื่อนพูดดังนั้นเขาก็ผวาไม่ใช่น้อย
“แจ้งโล่งขนาดนี้ ผีเผอที่ไหนจะอยู่ กลัวอยู่ได้ไอ้นี่ ไปที่ลานกันดีกว่าไป” ก้องพูดจบแล้วเดินนำเพื่อนเข้าไปด้านในตึก
ระหว่างที่นั่งรอเวลาปริมก็หยิบหนังสือที่เตรียมมาอ่านฆ่าเวลา หญิงสาวชอบบรรยาการตอนเช้าๆ เธอจึงตื่นเช้าเป็นประจำ เพื่อสูดอากาศยามเช้าของในเมืองก่อนที่รถจะติดและปล่อยควันเสียออกมา
ร่างบางฟุบหลับไปกับโต๊ะม้าหินอ่อนเนื่องจากเมื่อคืนเธอตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ จนกระทั่งได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นเรื่อยๆ ณ ตอนนี้บริเวณลานม้าหินกว้างหลังตึกคณะ ต่างมีคนจับจองเต็มไปหมด
เธอก้มมองนาฬิกาข้อมือของตนเอง ‘ใกล้ได้เวลาละสิ’ หญิงสาวคิดในใจ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินโซเซ คล้ายจะเป็นลมล้มไป เธอจึงรีบลุกจากโต๊ะไปพยุงหล่อน
“เธอ ไหวหรือเปล่า” เธอรีบถาม
“อื้ม เราโอเค.” หล่อนตอบ
“อ่าๆ มานั่งกับเราก่อนก็ได้” หญิงสาวเอ่ยอย่างใจดี “ชื่ออะไรหน่ะ” ปริมถาม
“เราชื่อน้ำ...เธอล่ะ”
“เราปริม...ว่าแต่ไหวจริงๆใช่มั้ย” ปริมว่าพร้อมกับส่งยาดมให้ น้ำเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนจะรับไปอังใต้จมูกช้าๆ “เราไปลานที่จัดกิจกรรมกันเถอะ ใกล้ได้เวลาแล้ว” ปริมพูด
ที่ลานกิจกรรมหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์...
ปรี๊ด~ เสียงแหลมของนกหวีดดังขึ้นก่อนจะได้ยินเสียงรุ่นพี่บอก “ปีหนึ่งรวม!”ดังตามมา
ปริมและน้ำเข้าแถวใกล้ๆกัน ปริมคอยเป็นห่วงเพื่อนที่อาการไม่ค่อยสู้ดีนัก เข้าแถวได้ไม่เท่าไรน้ำก็ยิ่งแสดงอาการของคนเป็นลมออกมามากทุกที
“พี่คะ เพื่อนจะเป็นลมค่ะ” ปริมตะโกนฝ่าเสียงรุ่นพี่ที่กำลังพูดอยู่ รุ่นพี่บางคนก็รู้สึกไม่พอใจ ในขณะที่บางคนก็กุลีกุจอมาพาร่างน้ำที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วฝ่าฝูงชนออกไป
“ปีหนึ่งที่ตะโกนเมื่อกี๊ออกมาพบผม” รุ่นพี่คนหนึ่งตะโกนผ่านโทรโข่ง ปริมหน้าเจือนไปนิดก่อนจะทำใจลุกขึ้นตามรุ่นพี่ที่เดินนำออกไปจากลานกิจกรรม
“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ..” ปริมยังกลัวจะโดนทำโทษเลยไม่กล้าเงยหน้ามองรุ่นพี่ แต่กลิ่นตัวแบบนี้ เสียงนุ่ม คุ้นหูแบบนี้เหมือนเคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน
“พี่โต๊ส..”
//ตามต่อ chapter : 2 กันด้วยน้าค้า

Wait for you | เธอคนเดียวที่หัวใจฉันรอ chapter : 1
หญิงสาวใช้เวลาไม่นานก็ลงมาอยู่หน้าหอพักรวมใกล้มหาวิทยาลัยของเธอ ซึ่งวันนี้เป็นวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ของคณะ ‘วิศวกรรมศาสตร์’ เธอเดินตามทางเท้ามาจนถึงมหา’ลัยด้วยความไม่รีบร้อน เพราะกว่าจะถึงเวลานัดหมายก็อีกสองชั่วโมง
เธอสำรวจรอบๆตึกคณะอย่างตื่นเต้น กว่าจะเข้ามายืนที่ตรงนี้ได้เธอได้ใช้ทั้งความขยัน อดทนตั้งใจเรียนทั้งในห้องเรียนและเรียนเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้เข้ามาที่คณะแห่งนี้ มหาวิทยาลัยแห่งนี้...
‘โต๊ส’ ชายหนุ่มรูปหล่อ ยืนสูงสง่าอยู่หน้าตึกคณะวิศวะ เขากำลังเดินดูรอบๆตึกที่ใช้จัดกิจกรรมในวันนี้
“เฮ้ย! ไอ้โต๊ส” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำให้เขาหันไปมอง
“อ่าว ไอ้ก้อง ไอ้ภัทร กว่าจะมากันได้” โต๊สทักเพื่อนสนิทสองคนที่เดินเข้ามาหา ก่อนจะค้อนเบาๆใส่เพื่อนหนุ่ม เขาย้ำแล้วย้ำอีกว่าต้องให้มาก่อนรุ่นน้อง เพื่อนเตรียมงานให้มีความตื่นเต้น
“บ่นทำไมวะ ก็ยังไม่เห็นมีใครมา” ก้องพูด
“จะไม่มีได้ไง เห็นนั่งอยู่หลังต้นไทรหลังตึก” โต๊สว่า
เมื่อตอนที่เขาเลี้ยวไปจอดรถที่ข้างตึก เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ม้าหินใต้ต้นไทรหลังคณะ ซึ่งนั่นเป็นที่ประจำของเขา อันที่จริงแล้วเขาจะไปรอเพื่อนทั้งสองที่นั่น แต่เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ จึงเดินไปดูหน้าตึกที่เตรียมอุปกรณ์ไว้จัดกิจกรรมสำหรับรับน้องในวันนี้
“ไอ้เชี่ยโต๊ส! แน่ใจนะว่าคน” ภัทรสะดุ้ง เขาเป็นคนกลัวพลังงานที่ไม่มีตัวตนอย่างจับหัวใจ เมื่อเพื่อนพูดดังนั้นเขาก็ผวาไม่ใช่น้อย
“แจ้งโล่งขนาดนี้ ผีเผอที่ไหนจะอยู่ กลัวอยู่ได้ไอ้นี่ ไปที่ลานกันดีกว่าไป” ก้องพูดจบแล้วเดินนำเพื่อนเข้าไปด้านในตึก
ระหว่างที่นั่งรอเวลาปริมก็หยิบหนังสือที่เตรียมมาอ่านฆ่าเวลา หญิงสาวชอบบรรยาการตอนเช้าๆ เธอจึงตื่นเช้าเป็นประจำ เพื่อสูดอากาศยามเช้าของในเมืองก่อนที่รถจะติดและปล่อยควันเสียออกมา
ร่างบางฟุบหลับไปกับโต๊ะม้าหินอ่อนเนื่องจากเมื่อคืนเธอตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ จนกระทั่งได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นเรื่อยๆ ณ ตอนนี้บริเวณลานม้าหินกว้างหลังตึกคณะ ต่างมีคนจับจองเต็มไปหมด
เธอก้มมองนาฬิกาข้อมือของตนเอง ‘ใกล้ได้เวลาละสิ’ หญิงสาวคิดในใจ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินโซเซ คล้ายจะเป็นลมล้มไป เธอจึงรีบลุกจากโต๊ะไปพยุงหล่อน
“เธอ ไหวหรือเปล่า” เธอรีบถาม
“อื้ม เราโอเค.” หล่อนตอบ
“อ่าๆ มานั่งกับเราก่อนก็ได้” หญิงสาวเอ่ยอย่างใจดี “ชื่ออะไรหน่ะ” ปริมถาม
“เราชื่อน้ำ...เธอล่ะ”
“เราปริม...ว่าแต่ไหวจริงๆใช่มั้ย” ปริมว่าพร้อมกับส่งยาดมให้ น้ำเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนจะรับไปอังใต้จมูกช้าๆ “เราไปลานที่จัดกิจกรรมกันเถอะ ใกล้ได้เวลาแล้ว” ปริมพูด
ที่ลานกิจกรรมหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์...
ปรี๊ด~ เสียงแหลมของนกหวีดดังขึ้นก่อนจะได้ยินเสียงรุ่นพี่บอก “ปีหนึ่งรวม!”ดังตามมา
ปริมและน้ำเข้าแถวใกล้ๆกัน ปริมคอยเป็นห่วงเพื่อนที่อาการไม่ค่อยสู้ดีนัก เข้าแถวได้ไม่เท่าไรน้ำก็ยิ่งแสดงอาการของคนเป็นลมออกมามากทุกที
“พี่คะ เพื่อนจะเป็นลมค่ะ” ปริมตะโกนฝ่าเสียงรุ่นพี่ที่กำลังพูดอยู่ รุ่นพี่บางคนก็รู้สึกไม่พอใจ ในขณะที่บางคนก็กุลีกุจอมาพาร่างน้ำที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วฝ่าฝูงชนออกไป
“ปีหนึ่งที่ตะโกนเมื่อกี๊ออกมาพบผม” รุ่นพี่คนหนึ่งตะโกนผ่านโทรโข่ง ปริมหน้าเจือนไปนิดก่อนจะทำใจลุกขึ้นตามรุ่นพี่ที่เดินนำออกไปจากลานกิจกรรม
“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ..” ปริมยังกลัวจะโดนทำโทษเลยไม่กล้าเงยหน้ามองรุ่นพี่ แต่กลิ่นตัวแบบนี้ เสียงนุ่ม คุ้นหูแบบนี้เหมือนเคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน
“พี่โต๊ส..”
//ตามต่อ chapter : 2 กันด้วยน้าค้า