สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ดิฉันตั้งใจจะแชร์ประสบการณ์ที่ดิฉันไม่เคยคาดคิดมา ก่อนเลยในชีวิตว่าจะได้ใช้ในแดนไกล แม้กระทั่งเมืองไทยก็เถอะ นั่นคือเจ้าปุ่ม SOS นี่เอง

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาเมื่อดิฉันบอกกับแม่ว่าจะไปตามหารักแร้....เย้ย รักแท้ที่ เจแปน ทริปนี้ไปคนเดียว เที่ยวคนเดียว เสียว...เย้ยย เสี่ยวคนเดียว (ดิฉันไปตามหารักแท้จริงๆนะคะ แต่มันเศร้าเค้าน้ำตา ไว้จะมาแชร์อีกนะคะ) ดิฉันไปโอซาก้าค่ะ พักแถวนัมบะ และแล้ววันที่ดิฉันไม่ได้รอคอยก็มาถึง ดิฉันเหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ใช้บริการรถไฟใต้ดิน ในวันที่เกิดเหตุมีแผนว่าจะไปเที่ยวนารา จึงนั่งรถไฟใต้ดินจะไปสถานีโอซาก้าเพื่อต่อรถไฟไปนารา ดิฉันสาบานได้ว่า นั่งถูกสาย ถูกเส้น ถูกสี พอเก้าขึ้นรถไฟได้ดิฉันก็พบว่าที่นั่งโล่งไม่แน่น มีสองสาวเจ๊ชาวอยู่ปุ่น นั่งอยู่ใกล้ดิฉัน จากนั้นดิฉันก้อเพ่งสมาธิไปอยู่ที่แผนที่และชื่อสถานีรถไฟ สองเจ๊ก็เม้ามอยกันไป ผ่านไปประมาณ 2 สถานีมีประกาศประกาศเกิดขี้นโดยที่ไม่ใช้เป็นการประกาศชื่อสถานีต่อไปแบบปกติ ดิฉันเหลือบชำเลืองมองสองเจ๊ เห็นเขาก็เม้ากันต่อโดยไม่ได้ตกอก ตกใจอะไร ดิฉันเลย(คิดเอง)ว่าไม่น่าจะมีอะไรม้างงงงง เลยดูแผนที่ต่อค่ะ แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อถึงสถานีต่อไป (แต่ยังไม่ถึงสถานีโอซาก้านะคะ) มีประกาศอีกครั้ง ทีนี้สองเจ๊กระเด้งลุกจากที่นั่ง เหมือนโดนไฟซ็อตวิ่งออกจากรถไฟไปค่ะ ดิฉันได้แต่มองตามแล้วนึกขำ แต่พอตาประสานตา ปิ๊งๆๆ กันสองเจ๊กวักมือเรียกให้ดิฉันลงจากมาจากรถไฟคร่าาา แต่มันสายไปเสียแล้วเมื่อประตูรถไฟปิดดัง ชึ้บ!!!! ชะนีน้อยไทยแลนด์มองตาปริบๆสองเจ๊ยกมือค้างท่าโบก (นึกตามนะคะ เหมือนในหนังเป๊ะ) เอาแล้วสิทีนี้ทำยังไงดีเหลือแต่เรา!!! แว่บแรกกลัวตายค่ะ กลัวหายใจไม่ออก (สติหนอ สติ ฮ่าๆๆ) มโนต่างๆนาๆยังสาวยังแซ่ รักแท้ก็ยังไม่เจอ...ทำไงดีๆ และแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นปุ่มช่วยชีวิตที่ไม่คิดจะใช้มาก่อน SOS ดิฉันปรี่เข้าไปกดโล้ดดด รัวเป็น M16 ไม่รู้ด้วยว่าให้กดค้างไว้แล้วพูด หรือ กดทีเดียวพอ แต่จำได้ว่าพูดออกไปเป็นภาษาพี่ยุ่นความว่า "เป็นต่างด้าว เฮ้ย...ต่างชาติสถานีต่อไปไปไหนไม่รู้ ช่วยฉ้านนด้วยยย" เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อนะคะไปอาบน้ำแป๊บ รับรองคุณจะทึ่งและตะลึงในความสามารถของดิฉัน ฮ่าๆๆๆ
ชะนีไทยกับปุ่ม SOS บนรถไฟในเจแปน
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาเมื่อดิฉันบอกกับแม่ว่าจะไปตามหารักแร้....เย้ย รักแท้ที่ เจแปน ทริปนี้ไปคนเดียว เที่ยวคนเดียว เสียว...เย้ยย เสี่ยวคนเดียว (ดิฉันไปตามหารักแท้จริงๆนะคะ แต่มันเศร้าเค้าน้ำตา ไว้จะมาแชร์อีกนะคะ) ดิฉันไปโอซาก้าค่ะ พักแถวนัมบะ และแล้ววันที่ดิฉันไม่ได้รอคอยก็มาถึง ดิฉันเหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ใช้บริการรถไฟใต้ดิน ในวันที่เกิดเหตุมีแผนว่าจะไปเที่ยวนารา จึงนั่งรถไฟใต้ดินจะไปสถานีโอซาก้าเพื่อต่อรถไฟไปนารา ดิฉันสาบานได้ว่า นั่งถูกสาย ถูกเส้น ถูกสี พอเก้าขึ้นรถไฟได้ดิฉันก็พบว่าที่นั่งโล่งไม่แน่น มีสองสาวเจ๊ชาวอยู่ปุ่น นั่งอยู่ใกล้ดิฉัน จากนั้นดิฉันก้อเพ่งสมาธิไปอยู่ที่แผนที่และชื่อสถานีรถไฟ สองเจ๊ก็เม้ามอยกันไป ผ่านไปประมาณ 2 สถานีมีประกาศประกาศเกิดขี้นโดยที่ไม่ใช้เป็นการประกาศชื่อสถานีต่อไปแบบปกติ ดิฉันเหลือบชำเลืองมองสองเจ๊ เห็นเขาก็เม้ากันต่อโดยไม่ได้ตกอก ตกใจอะไร ดิฉันเลย(คิดเอง)ว่าไม่น่าจะมีอะไรม้างงงงง เลยดูแผนที่ต่อค่ะ แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อถึงสถานีต่อไป (แต่ยังไม่ถึงสถานีโอซาก้านะคะ) มีประกาศอีกครั้ง ทีนี้สองเจ๊กระเด้งลุกจากที่นั่ง เหมือนโดนไฟซ็อตวิ่งออกจากรถไฟไปค่ะ ดิฉันได้แต่มองตามแล้วนึกขำ แต่พอตาประสานตา ปิ๊งๆๆ กันสองเจ๊กวักมือเรียกให้ดิฉันลงจากมาจากรถไฟคร่าาา แต่มันสายไปเสียแล้วเมื่อประตูรถไฟปิดดัง ชึ้บ!!!! ชะนีน้อยไทยแลนด์มองตาปริบๆสองเจ๊ยกมือค้างท่าโบก (นึกตามนะคะ เหมือนในหนังเป๊ะ) เอาแล้วสิทีนี้ทำยังไงดีเหลือแต่เรา!!! แว่บแรกกลัวตายค่ะ กลัวหายใจไม่ออก (สติหนอ สติ ฮ่าๆๆ) มโนต่างๆนาๆยังสาวยังแซ่ รักแท้ก็ยังไม่เจอ...ทำไงดีๆ และแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นปุ่มช่วยชีวิตที่ไม่คิดจะใช้มาก่อน SOS ดิฉันปรี่เข้าไปกดโล้ดดด รัวเป็น M16 ไม่รู้ด้วยว่าให้กดค้างไว้แล้วพูด หรือ กดทีเดียวพอ แต่จำได้ว่าพูดออกไปเป็นภาษาพี่ยุ่นความว่า "เป็นต่างด้าว เฮ้ย...ต่างชาติสถานีต่อไปไปไหนไม่รู้ ช่วยฉ้านนด้วยยย" เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อนะคะไปอาบน้ำแป๊บ รับรองคุณจะทึ่งและตะลึงในความสามารถของดิฉัน ฮ่าๆๆๆ