ความขี้เกียจถือเป็นอุปสรรค์อย่างหนึ่งของผู้คนส่วนใหญ่ที่คอยกัดกร่อนทักษะความสามารถให้มีประสิทธิภาพน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตวิทยาของเรา แต่เราก็สามารถเอาชนะความขี้เกียจของตัวเองได้ ลองมาดู 10 อันดับกันดีกว่า
10.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายของเรามีความกระฉับกระเฉงมากขึ้นกว่าเดิม หากเรามีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ การออกกำลังกายก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเราได้ เราจะต้องหมั่นหาเวลาในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
9.แก้ไขเรื่องเวลาเข้านอน
การนอนหลับเป็นเวลานานๆจะทำให้เราขี้เกียจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม การนอนหลับที่ดีนั้น เราจะต้องหันมาบริหารจัดการเรื่องชีวิตประจำวันของเราให้ดีๆ แล้วก็หาเวลานอนที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำให้เราไม่ขี้เกียจเวลาลุกขึ้นจากที่นอน
8.บริหารการกินให้ดีๆ
การกินมันก็ให้ทั้งความขี้เกียจและกระฉับกระเฉงพร้อมๆกัน หากเราไม่ได้กินอาหารเป็นเวลานาน ก็ทำให้ร่างกายจิตใจของเราอ่อนล้า คนส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยงการกินก็เพราะว่าพวกเขามัวแต่ยุ่งกับงานของตัวเองอยู่ การกินเยอะเกินไปก็ทำให้เราไม่อยากที่จะทำอะไรอย่างอื่นอีก ซึ่งวิธีที่ดีก็คือ รู้จักบริหารการกินของตัวเอง
7.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทคาเฟอีน
คาเฟอีนเป็นตัวช่วยเร่งพลังงานให้กับเรา แต่มันก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น และก็ทำให้เราสูญเสียพลังงานในระยะยาว หากเราดื่มคาเฟอีน ก็หมายความว่าเราทำลายพลังงานที่สะสมมาในระยะยาวให้หมดไป ก็ไม่แปลกที่ผู้คนเริ่มหันมาดื่มคาเฟอีนมากขึ้นเพราะขาดพลังงาน ทางที่ดีก็คือ ลดปริมาณการดื่มคาเฟอีนให้น้อยลงจนกว่าเราเลิกที่จะดื่ม
6.หายใจลึกๆเข้าไว้
ผู้คนส่วนใหญ่มองข้ามเรื่องนี้ไปโดยปริยาย เกี่ยวกับการหายใจ แน่นอนว่าคนเราก็ต้องหายใจอยู่แล้ว แต่ว่าหายใจอย่างไรนี่สิ เราจะต้องฝึกการหายใจเข้าออกให้ลึกที่สุดในโลก เพื่อเป็นการเติมเต็มพลังงานทั้งหมดมาเข้าสู่ร่างกายของเรา ทำให้เราสามารถทำอะไรก็ราบรื่นไปหมดในแต่ละวัน
5.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้ง
อาหารประเภทแป้งอย่างเช่น ขนมปัง ขนมขบเคี้ยวต่างๆ ที่เป็นตัวที่ทำให้เราเกิดความเหนื่อยล้าขึ้นมา ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นไปอีก ทำให้เราเกิดอาการขี้เกียจขึ้นมา ซึ่งก็คล้ายๆกับเครื่องดื่มประเภทคาเฟอีนที่อาหารที่มีแป้งมักจะให้พลังงานกับเราในระยะสั้นๆ ทางที่ดีก็คือ ลดปริมาณอาหารแป้งให้น้อยลง ปรับการกินให้เหมาะสม
4.ดื่มน้ำให้มากๆ
ร่างกายของเราก็มีน้ำอยู่ถึง 80 % ด้วยกัน เราจึงขาดน้ำไม่ได้เลย การที่เราไม่ค่อยดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายจิตใจของเราอ่อนแอลงทันทีจนไม่อยากทำอย่างอื่นอีก เราจะต้องดื่มน้ำให้มากๆเข้าไว้
3.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ถือเป็นศัตรูสำคัญในการลดทอนพลังงานทั้งร่างกายและจิตใจหดหายลงไป และหากเรายิ่งดื่มมาก ความขี้เกียจก็ยิ่งถามหาเรามากขึ้น จะเห็นได้จากอาการเมาค้างของแต่ละคนที่ดื่มเบียร์ เหล้าทั้งหลาย จะเห็นได้ชัดว่าทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเราด้อยลงเห็นได้ชัด
2.เรียนรู้ที่จะควบคุมความเครียดตัวเอง
ความเครียดถือเป็นอีกตัวหนึ่งที่บั่นทอนทักษะความสามารถของเรา หากเราทำอะไรมากๆและเกิดความเครียดขึ้นมา ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเราด้อยลงไปอีก เราจะต้องฝึกฝนการรับมือกับความเครียด เทคนิคก็คือจะต้องค่อยๆเรียนรู้อย่างช้าๆ และอย่าไปจริงจังกับการทำงานมากเกินไป ทำงานเท่าที่เราสามารถทำได้ และก็อย่าไปกลัวที่จะบอกว่าทำไม่ได้
1.ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง
แนวทางหนึ่งที่เราสามารถเอาชนะความขี้เกียจได้ก็คือ การออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ตามแหล่งสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น เดินห้าง เดินในสวน ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เราเอาชนะความขี้เกียจได้ หากเรามัวแต่อยู่บ้านอย่างเดียว ก็ไม่อาจที่จะเอาชนะความขี้เกียจได้หรอก
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับแนวทางที่จะเอาชนะความขี้เกียจ
การออกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายของเรามีความกระฉับกระเฉงมากขึ้นกว่าเดิม หากเรามีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ การออกกำลังกายก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเราได้ เราจะต้องหมั่นหาเวลาในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การนอนหลับเป็นเวลานานๆจะทำให้เราขี้เกียจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม การนอนหลับที่ดีนั้น เราจะต้องหันมาบริหารจัดการเรื่องชีวิตประจำวันของเราให้ดีๆ แล้วก็หาเวลานอนที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำให้เราไม่ขี้เกียจเวลาลุกขึ้นจากที่นอน
การกินมันก็ให้ทั้งความขี้เกียจและกระฉับกระเฉงพร้อมๆกัน หากเราไม่ได้กินอาหารเป็นเวลานาน ก็ทำให้ร่างกายจิตใจของเราอ่อนล้า คนส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยงการกินก็เพราะว่าพวกเขามัวแต่ยุ่งกับงานของตัวเองอยู่ การกินเยอะเกินไปก็ทำให้เราไม่อยากที่จะทำอะไรอย่างอื่นอีก ซึ่งวิธีที่ดีก็คือ รู้จักบริหารการกินของตัวเอง
คาเฟอีนเป็นตัวช่วยเร่งพลังงานให้กับเรา แต่มันก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น และก็ทำให้เราสูญเสียพลังงานในระยะยาว หากเราดื่มคาเฟอีน ก็หมายความว่าเราทำลายพลังงานที่สะสมมาในระยะยาวให้หมดไป ก็ไม่แปลกที่ผู้คนเริ่มหันมาดื่มคาเฟอีนมากขึ้นเพราะขาดพลังงาน ทางที่ดีก็คือ ลดปริมาณการดื่มคาเฟอีนให้น้อยลงจนกว่าเราเลิกที่จะดื่ม
ผู้คนส่วนใหญ่มองข้ามเรื่องนี้ไปโดยปริยาย เกี่ยวกับการหายใจ แน่นอนว่าคนเราก็ต้องหายใจอยู่แล้ว แต่ว่าหายใจอย่างไรนี่สิ เราจะต้องฝึกการหายใจเข้าออกให้ลึกที่สุดในโลก เพื่อเป็นการเติมเต็มพลังงานทั้งหมดมาเข้าสู่ร่างกายของเรา ทำให้เราสามารถทำอะไรก็ราบรื่นไปหมดในแต่ละวัน
อาหารประเภทแป้งอย่างเช่น ขนมปัง ขนมขบเคี้ยวต่างๆ ที่เป็นตัวที่ทำให้เราเกิดความเหนื่อยล้าขึ้นมา ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นไปอีก ทำให้เราเกิดอาการขี้เกียจขึ้นมา ซึ่งก็คล้ายๆกับเครื่องดื่มประเภทคาเฟอีนที่อาหารที่มีแป้งมักจะให้พลังงานกับเราในระยะสั้นๆ ทางที่ดีก็คือ ลดปริมาณอาหารแป้งให้น้อยลง ปรับการกินให้เหมาะสม
ร่างกายของเราก็มีน้ำอยู่ถึง 80 % ด้วยกัน เราจึงขาดน้ำไม่ได้เลย การที่เราไม่ค่อยดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายจิตใจของเราอ่อนแอลงทันทีจนไม่อยากทำอย่างอื่นอีก เราจะต้องดื่มน้ำให้มากๆเข้าไว้
แอลกอฮอล์ถือเป็นศัตรูสำคัญในการลดทอนพลังงานทั้งร่างกายและจิตใจหดหายลงไป และหากเรายิ่งดื่มมาก ความขี้เกียจก็ยิ่งถามหาเรามากขึ้น จะเห็นได้จากอาการเมาค้างของแต่ละคนที่ดื่มเบียร์ เหล้าทั้งหลาย จะเห็นได้ชัดว่าทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเราด้อยลงเห็นได้ชัด
ความเครียดถือเป็นอีกตัวหนึ่งที่บั่นทอนทักษะความสามารถของเรา หากเราทำอะไรมากๆและเกิดความเครียดขึ้นมา ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเราด้อยลงไปอีก เราจะต้องฝึกฝนการรับมือกับความเครียด เทคนิคก็คือจะต้องค่อยๆเรียนรู้อย่างช้าๆ และอย่าไปจริงจังกับการทำงานมากเกินไป ทำงานเท่าที่เราสามารถทำได้ และก็อย่าไปกลัวที่จะบอกว่าทำไม่ได้
แนวทางหนึ่งที่เราสามารถเอาชนะความขี้เกียจได้ก็คือ การออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ตามแหล่งสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น เดินห้าง เดินในสวน ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เราเอาชนะความขี้เกียจได้ หากเรามัวแต่อยู่บ้านอย่างเดียว ก็ไม่อาจที่จะเอาชนะความขี้เกียจได้หรอก
ผู้เขียน Mr.lawrence10