ตอนนี้ผมอายุ 30 แล้ว ผมกำลังวางแผนอนาคตครับ
ผมเริ่มมองอนาคตตัวเองหลังเกษียณกับชีวิตที่ไร้คู่
ผมอยากเป็นคนแก่ที่ไม่เป็นภาระสังคมครับ ผมคงต้องเก็บตังค์ไว้มากๆหน่อย เผื่อไว้ดูแลตัวเองเวลาป่วยไข้
กะว่าอยากมีเงินสักก้อนทำอะไรที่ตัวเองรักก่อนตาย
ตอนนี้ผมไม่ค่อยนึกถึงวัด เพราะไม่มีทุกข์อะไร ถ้าวันนึงแก่ตัวไปผมก็คงหาที่พึ่งทางใจ เหมือนคนแก่ที่ชอบไปวัดตอนนี้
ผมนึกภาพตัวเองนั่งห่มขาวพนมมือเหี่ยวๆ ฟังพระสวดเหงาๆอยู่ในโบสถ์
ผมกำลังเตรียมตัว พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
วันที่ผมหงอกและหลุดร่วงทุกครั้งแค่เอามือลูบผม
วันที่ไม่ได้ยินเสียงเรียกของใครๆ แม้ในความเงียบ
วันนี้แขนขาไร้เรี่ยวแรง ขยับตัวไม่ได้
วันที่สายตาฝ้าฟาง ต้องใช้มือคลำ
วันที่ความทรงจำวัยเด็กค่อยๆจางหายไป...
เหลือเพียงแค่เศษความทรงจำจางของช่วงเวลาที่เคยมีความสุขกับใครสักคน
วันที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบแม้แต่จะลุกจากเตียงก็ทำไม่ได้ กินไม่ได้ ถ่ายไม่ได้...
เพียงได้คิดถึงวันนั้น ก็พลันอยากจะตายจากโลกนี้ไปเลย
แต่ความจริงคงไม่ง่ายขนาดนั้น...
เราควต้องนอนหายใจรวยริน แผ่วๆ รู้สึกเหมือนติดขัดในที...
หลับตาลง...ลืมตาขึ้นมาอีกที
ยังคงเจอเงาสลัวๆ พัดลมเพดาน แกว่งไกวเบาๆ แบบไร้เสียง...ขยับตัวไม่ได้อีกเช่นเคย
ราบกับว่ายมทูตตั้งใจจะทรมานผมให้ตายทั้งเป็นเสียอย่างนั้น
ผมคงต้องทุกข์ทรมานไปอีกไม่รู้นานแค่ไหน ราวกับว่าโลกของผมในตอนนั้นคงเป็นโลกที่ยาวนานไร้กาลเวลา จนกว่าใครสักคนจากที่ไหนสักแห่งจะเห็นใจ..
ที่จะพรากชีวิต วิญญาณ ความรู้สึก ความทรงจำ ของผมไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แค่ร่องรอยของความมีอยู่ของผม..จางๆ....
ผมพร้อมแล้วละครับ พร้อมที่จะรับเรื่องราวนี้ในวันหนึ่ง..เพราะผมมันคนไร้คู่
คุณว่าน่ากลัวไหมถ้าถึงวันนั้น คุณสงสารผมไหม?
ถ้าไม่อยากให้ผมเป็นดังข้างบน รบกวนเชิญสาวๆห้องสยามที่ยังโสด เชิญมาเกี่ยวก้อยปรองดองครองรักกับผมเถอะครับ
เพื่อที่เราจะครองคู่จนแก่เฒ่าเป็นสองตายายที่มีลูกหลาน วิ่งเล่นกันเต็มบ้านไงล่ะครับ
เท่านี้เรื่องข้างบนก็จะไม่เกิดแล้วล่ะครับ เชิญลงชื่อไว้ได้เลยนะครับ จุบุ
ถ้าแก่แล้วไม่มีเมีย ไม่มีลูกหลาน ผมจะต้องไปอยู่ไหนครับ
ผมเริ่มมองอนาคตตัวเองหลังเกษียณกับชีวิตที่ไร้คู่
ผมอยากเป็นคนแก่ที่ไม่เป็นภาระสังคมครับ ผมคงต้องเก็บตังค์ไว้มากๆหน่อย เผื่อไว้ดูแลตัวเองเวลาป่วยไข้
กะว่าอยากมีเงินสักก้อนทำอะไรที่ตัวเองรักก่อนตาย
ตอนนี้ผมไม่ค่อยนึกถึงวัด เพราะไม่มีทุกข์อะไร ถ้าวันนึงแก่ตัวไปผมก็คงหาที่พึ่งทางใจ เหมือนคนแก่ที่ชอบไปวัดตอนนี้
ผมนึกภาพตัวเองนั่งห่มขาวพนมมือเหี่ยวๆ ฟังพระสวดเหงาๆอยู่ในโบสถ์
ผมกำลังเตรียมตัว พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
วันที่ผมหงอกและหลุดร่วงทุกครั้งแค่เอามือลูบผม
วันที่ไม่ได้ยินเสียงเรียกของใครๆ แม้ในความเงียบ
วันนี้แขนขาไร้เรี่ยวแรง ขยับตัวไม่ได้
วันที่สายตาฝ้าฟาง ต้องใช้มือคลำ
วันที่ความทรงจำวัยเด็กค่อยๆจางหายไป...
เหลือเพียงแค่เศษความทรงจำจางของช่วงเวลาที่เคยมีความสุขกับใครสักคน
วันที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบแม้แต่จะลุกจากเตียงก็ทำไม่ได้ กินไม่ได้ ถ่ายไม่ได้...
เพียงได้คิดถึงวันนั้น ก็พลันอยากจะตายจากโลกนี้ไปเลย
แต่ความจริงคงไม่ง่ายขนาดนั้น...
เราควต้องนอนหายใจรวยริน แผ่วๆ รู้สึกเหมือนติดขัดในที...
หลับตาลง...ลืมตาขึ้นมาอีกที
ยังคงเจอเงาสลัวๆ พัดลมเพดาน แกว่งไกวเบาๆ แบบไร้เสียง...ขยับตัวไม่ได้อีกเช่นเคย
ราบกับว่ายมทูตตั้งใจจะทรมานผมให้ตายทั้งเป็นเสียอย่างนั้น
ผมคงต้องทุกข์ทรมานไปอีกไม่รู้นานแค่ไหน ราวกับว่าโลกของผมในตอนนั้นคงเป็นโลกที่ยาวนานไร้กาลเวลา จนกว่าใครสักคนจากที่ไหนสักแห่งจะเห็นใจ..
ที่จะพรากชีวิต วิญญาณ ความรู้สึก ความทรงจำ ของผมไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แค่ร่องรอยของความมีอยู่ของผม..จางๆ....
ผมพร้อมแล้วละครับ พร้อมที่จะรับเรื่องราวนี้ในวันหนึ่ง..เพราะผมมันคนไร้คู่
คุณว่าน่ากลัวไหมถ้าถึงวันนั้น คุณสงสารผมไหม?
ถ้าไม่อยากให้ผมเป็นดังข้างบน รบกวนเชิญสาวๆห้องสยามที่ยังโสด เชิญมาเกี่ยวก้อยปรองดองครองรักกับผมเถอะครับ
เพื่อที่เราจะครองคู่จนแก่เฒ่าเป็นสองตายายที่มีลูกหลาน วิ่งเล่นกันเต็มบ้านไงล่ะครับ
เท่านี้เรื่องข้างบนก็จะไม่เกิดแล้วล่ะครับ เชิญลงชื่อไว้ได้เลยนะครับ จุบุ