เรากำลังจะแยกกันอยู่กับสามีค่ะ และกำลังอุ้มท้องอ่อนๆและพร้อมที่จะเป็นซิงเกิ้ลมัมแบบเต็มตัวค่ะ ปัญหาความรักๆเลิกๆของเรามันเป็นปัญหาที่ไม่จบสิ้นค่ะ สามีเราเป็นคนที่ไม่รับฟังความเห็นใคร นอกจากตัวเอง
เราเคยตั้งกระทู้จากประเด็นเพื่อนร่วมงานจะฉกสามี ซึ่งก็พอจะตัดไปได้ แต่ก็ยังมีให้ปวดใจเป็นระยะๆค่ะ ตอนนี้เกิดประเด็นใหม่ สามีเราต่อต้านเรา เพราะเราขอให้เค้าหักดิบตัวเองออกจากการสังสรรค์รายวัน หันมาสนใจเราที่กำลังเครียดทั้งงานทั้งสุขภาพ แต่สามีให้ไม่ได้ค่ะ สามีไม่ทำและแสดงออกชัดเจนถึงการที่เค้าเลือกเพื่อนร่วมงานที่เป็นญาติค่ะ
เราจะลำดับเหตุการณ์คร่าวๆนะคะ ที่เรารู้สึกทนไม่ได้ คือญาติสามีที่เป็นผจก.สาขาเรา นิสัยเค้าจะขี้งอน ติดเหล้าและเป็นกิ๊กกับเสมียนที่ชอบสามีเราค่ะ เค้าจะงอนถ้าลูกน้องไม่มาร่วมวงกินข้าวหรือซื้อเหล้ามาให้ในช่วงหลังเลิกงาน บ้านเค้าเป็นบ้านเช่าที่แยกจากย้านพักของโรงงานค่ะ เค้ามีรถกระบะส่วนตัวแต่เมียไม่ให้เอามาใช้ และเมียก็เป็นคนสั่งให้ออกมาเช่าบ้านข้างนอก เพื่อที่จะไม่ต้องดูแลรับผิดชอบบ้านพักโรงงาน เรื่องนี้เป็นที่รู้กันค่ะว่าเค้ากลัวเมีย คือประมาณว่าเงินเดือนเมียเก็บหมด เค้าจะได้ใช้แค่เงินเปอร์เซ็นต์กับเบี้ยเลี้ยงเท่านั้น เรื่องเห็นแก่ตัว อันนี้เราโดนบ้อยสุด คือจะชอบมาขอยืมรถสามีเราไปใช้ แต่เติมน้ำมันให้ค่ะ แต่เป็นน้ำมันของโรงงานนะคะ ไม่ใช่จากเงินส่วนตัว ผจก.จะชอบโทรสั่งให้ลูกน้องซื้อของมาให้หลังเลิกงาน แต่จะแจ็คพ็อตกับใครต้องลุ้นกันทุกเย็นค่ะ แล้วจะใช้มุขว่ากระเป๋าตังค์อยู่ในรถ เดี๋ยวค่อยไปหยิบให้แล่วก็เงียบไปในที่สุด รถที่ใช้ ผจก.เค้าใช้รถของโรงงานค่ะ แต่จริงๆรถคันนี้มีหน้าที่ที่โรงงานื่ที่สามีเราดูแลค่ะ ง่ายๆคือยืมมาใช้และสามีเราต้องใช้รถส่วนตัวในเรื่องงานแทน เราพยายามจะไม่อคตินะคะ แต่หลายๆเหตถการณ์มันบั่นทอนกีนมากๆ คือเค้าทำตัวเป็นศูนย์กลางของทุกคน แต่ก็ไม่มีใครต่อต้านค่ะ เพราะตำแหน่งและวุฒิภาวะเค้าถือว่าสูงสุดในทั้งสองโรงงาน
อีกประเด็นค่ะ คนขับรถ ซึ่งเป็นญาติสามีค่ะ นี่ก็นิสัยจะคล้ายๆผจก. ก็ญาติฝั่งนี้ดูแล้วจะนิสัยยังงี้หมด คนนี้มีถรรยาที่กำลังเรียนมหาลัยค่ะ เค้าจะต้องไปส่งภรรยาทุกเช้า แต่ช่วงบ่ายถึงเย็นจะเป็นหน้าที่สามีเราไปรับค่ะ ระยะทางจากโรงงานไปรับก็แค่ไปกลับ10กว่ากิโล แต่เราเคืองค่ะ มันไม่ใช่เรื่องงาน ไม่ใช่หน้าที่ บางครั้งสามีทำงานอยู่ พอญาติโทรมาก็ต้องรีบออกไปรับด้วยรถส่วนตัวค่ะ ย้ำว่าเบิกน้ำมันได้เดือนล่ะ50ลิตรเท่านั้นค่ะ และทุกเย็นญาติคนนี้จะต้องตั้งวงกินเบียร์ และคนที่ไปซื้อคือสามี่ค่ะ บางวันช่วงเย็นสามีไม่ได้กินด้วย เพราะต้องเคลียร์บิล พอเบียร์หมด จะเป็นหน้าที่ไปซื้ แม้เวลานั้นจะเกือบห้าทุ่มก็ต้องไปค่ะ สามีบอกกับเราว่า ตัวเค้าเพิ่งมาทำงาน เค้าจะยอมๆก่อนเพื่อให้คุ่นชินกีบคนและสังคม ต้องทำตามคนเก่าๆเพื่อซื้อใจ แต่เรามองว่ามันนานเกินไปแล้วหรือเปล่า จนพวกเค้าไม่เกรงใจกันเลย และเห็นรถของเราเป็นรถสาธารณะ อยากใช้ก็มายืม มาชวนให้พาไป คือทะเลาะเรื่องนี้กันหลายรอบและสามีตัดปัญหาด้วยการพาไปแทนการให้ยืมค่ะ ด้วยบอกเหมือนเดิมว่า เกรงใจ มีครั้งนึงช่วงเย็นญาติคนนี้มาชวนไปตลาด แต่เราไม่อยากไปเพราะมีกับข้าวแล้ว เราเลยบอกสามีว่าอย่าไป เราอยากพักผ่อน แต่คือรถโรงงานไม่ว่างค่ะ เพราะเอาไปถ่ายน้ำมันเครื่อง ญาติก็เลนจะให้สามีพาไป คือญาติเค้ามีหน้าที่ขับรถนะคะ เค้าจะใช้รถโรงงานไปไหนมาไหนเหมือนรถตัวเองได้จนถึง1ทุ่มค่ะ หลังจากนั้นจะเก็บกุญแจและล็อคส่วนที่ทำงานค่ะ วันนั้นล่ะเป็นเรื่อง คือเราเริ่มรับไม่ได้ตรงที่พอรถไม่มีถึงมาชวน แต่ที่มีรถใช้ ไปตลาด ไปไหนกันไม่เคยค่ะจะมาถามหรือโทรมาถาม เค้าจะมองเห็นสามีเราสำคัญก็ต่อเมื่อจำเป็น เราก็โมโหค่ะ บอกสามี คุยกันเรื่องนี้เลยหลังจากสามีไปส่งเค้าค่ะ กลับมาไม่ได้กับข้าวนะคะ แต่ได้เบียร์เป็นลัง และสามีก็ออกไปสังสรรค์
เราอดทนมาตลอดระยะเวลา3-4เดือนกับพฤติกรรมประหลาดๆที่ไม่เคยเจอตอนอยู่ที่บ้านเรา คือเราเพิ่งแยกออกมาจากบ้านค่ะ มาทำงานกับสามี เพราะบ้านเราอยู่อีกจังหวัดนึงและพ่อแม่เราก็อยากให้เราสร้างครอบครัวของตัวเอง เราเคยถามสามีว่า อนาคตจะทำยังไงกับชีวิตบ้าง คำตอบคือ ทำงาน แล้วก็ให้เหตุผลต่อ่ว่า ทำงานแล้วก็มีเงินกิน เที่ยว ใช้ ซึ่งเราผิดหวังค่ะ พ่อเราบอกว่า สามีเราตามเพื่อน เพราะคำพูดคำขอของเราไม่มีความหมายกีบเค้าเลย
เรากล้าพูดเลยค่ะว่าตลอดเวลาเราไม่มีความสุขเลยเหมือนขีวิตผ่านไปแค่วันต่อวัน ไม่มีอนาคตร่วมกัน ไม่ทีการวางแผนชีวิต แต่เราก็ไม่เสียใจนะคะ แต่เสียความรู้สึกและเสียดายเวลา เราถูกมองว่าโง่งี่เง่า เพราะเราเลือกมาอยู่ชนบท มาส่งคมที่ไม่ใช่เรา สามีเราเรียนจบม.6 เคยติดคุก อายุ33 เงินเก็บไม่มี ผ่อนรถ ไม่มีบ้านของตัวเอง บางเดือนพ่อสามียังต้องช่วยผ่อนรถให้ค่ะ ส่วนเรา จบโทจากออสเตเรีลีย ทำงานหน่วยงานที่ใครหลายคนอยากทำ เคยมีเงินเก็บ แต่ตอนนี้หมดไปกับหนี้ที่สามีสร้างไว้ค่ะ เราเอาเงินไปปิดให้หมด เพราะคิดว่าเค้าจะปรับปรุงตัวเอง รถขายไปแล้ว
เรามองว่าการก้าวพลาดของเราจะเป็นแรงให้เราทำวันต่อไปให้ดีด้วยความรอบคีรอบ ความรักอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ครอบครัวอยู่รอดได้ ครอบครัวคือจุดสำคัญของการเริ่มต้นสร้างชีวิตคู่ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึงทุ่มเทมากไป มันนอกจากจะเหนื่อยแล้วยังเป็นเหมือนหนังสือ พ่อแม่รังแกฉันค่ะ ต่อไปนี้เราพร้อมจะเดินต่อไป ดูแลชีวิตน้อยๆที่เกิดจากครั้งนึงเคยมีรัก และจะดูแลเค้าด้วยความใส่ใจ เข้าใจ ถึงวันนี้ พ่อเค้าจะไม่ใยดี ไม่มีความรับผิดชอบ
ปล.พิมพ์ผิดเยอะหน่อยนะคะ จากมือถือ
ชีวิตคู่กำลังจะพัง อยากฟังมุมมองการประคองชีวิตคู่ของเพื่อนๆบ้างอ่ะค่ะ
เราเคยตั้งกระทู้จากประเด็นเพื่อนร่วมงานจะฉกสามี ซึ่งก็พอจะตัดไปได้ แต่ก็ยังมีให้ปวดใจเป็นระยะๆค่ะ ตอนนี้เกิดประเด็นใหม่ สามีเราต่อต้านเรา เพราะเราขอให้เค้าหักดิบตัวเองออกจากการสังสรรค์รายวัน หันมาสนใจเราที่กำลังเครียดทั้งงานทั้งสุขภาพ แต่สามีให้ไม่ได้ค่ะ สามีไม่ทำและแสดงออกชัดเจนถึงการที่เค้าเลือกเพื่อนร่วมงานที่เป็นญาติค่ะ
เราจะลำดับเหตุการณ์คร่าวๆนะคะ ที่เรารู้สึกทนไม่ได้ คือญาติสามีที่เป็นผจก.สาขาเรา นิสัยเค้าจะขี้งอน ติดเหล้าและเป็นกิ๊กกับเสมียนที่ชอบสามีเราค่ะ เค้าจะงอนถ้าลูกน้องไม่มาร่วมวงกินข้าวหรือซื้อเหล้ามาให้ในช่วงหลังเลิกงาน บ้านเค้าเป็นบ้านเช่าที่แยกจากย้านพักของโรงงานค่ะ เค้ามีรถกระบะส่วนตัวแต่เมียไม่ให้เอามาใช้ และเมียก็เป็นคนสั่งให้ออกมาเช่าบ้านข้างนอก เพื่อที่จะไม่ต้องดูแลรับผิดชอบบ้านพักโรงงาน เรื่องนี้เป็นที่รู้กันค่ะว่าเค้ากลัวเมีย คือประมาณว่าเงินเดือนเมียเก็บหมด เค้าจะได้ใช้แค่เงินเปอร์เซ็นต์กับเบี้ยเลี้ยงเท่านั้น เรื่องเห็นแก่ตัว อันนี้เราโดนบ้อยสุด คือจะชอบมาขอยืมรถสามีเราไปใช้ แต่เติมน้ำมันให้ค่ะ แต่เป็นน้ำมันของโรงงานนะคะ ไม่ใช่จากเงินส่วนตัว ผจก.จะชอบโทรสั่งให้ลูกน้องซื้อของมาให้หลังเลิกงาน แต่จะแจ็คพ็อตกับใครต้องลุ้นกันทุกเย็นค่ะ แล้วจะใช้มุขว่ากระเป๋าตังค์อยู่ในรถ เดี๋ยวค่อยไปหยิบให้แล่วก็เงียบไปในที่สุด รถที่ใช้ ผจก.เค้าใช้รถของโรงงานค่ะ แต่จริงๆรถคันนี้มีหน้าที่ที่โรงงานื่ที่สามีเราดูแลค่ะ ง่ายๆคือยืมมาใช้และสามีเราต้องใช้รถส่วนตัวในเรื่องงานแทน เราพยายามจะไม่อคตินะคะ แต่หลายๆเหตถการณ์มันบั่นทอนกีนมากๆ คือเค้าทำตัวเป็นศูนย์กลางของทุกคน แต่ก็ไม่มีใครต่อต้านค่ะ เพราะตำแหน่งและวุฒิภาวะเค้าถือว่าสูงสุดในทั้งสองโรงงาน
อีกประเด็นค่ะ คนขับรถ ซึ่งเป็นญาติสามีค่ะ นี่ก็นิสัยจะคล้ายๆผจก. ก็ญาติฝั่งนี้ดูแล้วจะนิสัยยังงี้หมด คนนี้มีถรรยาที่กำลังเรียนมหาลัยค่ะ เค้าจะต้องไปส่งภรรยาทุกเช้า แต่ช่วงบ่ายถึงเย็นจะเป็นหน้าที่สามีเราไปรับค่ะ ระยะทางจากโรงงานไปรับก็แค่ไปกลับ10กว่ากิโล แต่เราเคืองค่ะ มันไม่ใช่เรื่องงาน ไม่ใช่หน้าที่ บางครั้งสามีทำงานอยู่ พอญาติโทรมาก็ต้องรีบออกไปรับด้วยรถส่วนตัวค่ะ ย้ำว่าเบิกน้ำมันได้เดือนล่ะ50ลิตรเท่านั้นค่ะ และทุกเย็นญาติคนนี้จะต้องตั้งวงกินเบียร์ และคนที่ไปซื้อคือสามี่ค่ะ บางวันช่วงเย็นสามีไม่ได้กินด้วย เพราะต้องเคลียร์บิล พอเบียร์หมด จะเป็นหน้าที่ไปซื้ แม้เวลานั้นจะเกือบห้าทุ่มก็ต้องไปค่ะ สามีบอกกับเราว่า ตัวเค้าเพิ่งมาทำงาน เค้าจะยอมๆก่อนเพื่อให้คุ่นชินกีบคนและสังคม ต้องทำตามคนเก่าๆเพื่อซื้อใจ แต่เรามองว่ามันนานเกินไปแล้วหรือเปล่า จนพวกเค้าไม่เกรงใจกันเลย และเห็นรถของเราเป็นรถสาธารณะ อยากใช้ก็มายืม มาชวนให้พาไป คือทะเลาะเรื่องนี้กันหลายรอบและสามีตัดปัญหาด้วยการพาไปแทนการให้ยืมค่ะ ด้วยบอกเหมือนเดิมว่า เกรงใจ มีครั้งนึงช่วงเย็นญาติคนนี้มาชวนไปตลาด แต่เราไม่อยากไปเพราะมีกับข้าวแล้ว เราเลยบอกสามีว่าอย่าไป เราอยากพักผ่อน แต่คือรถโรงงานไม่ว่างค่ะ เพราะเอาไปถ่ายน้ำมันเครื่อง ญาติก็เลนจะให้สามีพาไป คือญาติเค้ามีหน้าที่ขับรถนะคะ เค้าจะใช้รถโรงงานไปไหนมาไหนเหมือนรถตัวเองได้จนถึง1ทุ่มค่ะ หลังจากนั้นจะเก็บกุญแจและล็อคส่วนที่ทำงานค่ะ วันนั้นล่ะเป็นเรื่อง คือเราเริ่มรับไม่ได้ตรงที่พอรถไม่มีถึงมาชวน แต่ที่มีรถใช้ ไปตลาด ไปไหนกันไม่เคยค่ะจะมาถามหรือโทรมาถาม เค้าจะมองเห็นสามีเราสำคัญก็ต่อเมื่อจำเป็น เราก็โมโหค่ะ บอกสามี คุยกันเรื่องนี้เลยหลังจากสามีไปส่งเค้าค่ะ กลับมาไม่ได้กับข้าวนะคะ แต่ได้เบียร์เป็นลัง และสามีก็ออกไปสังสรรค์
เราอดทนมาตลอดระยะเวลา3-4เดือนกับพฤติกรรมประหลาดๆที่ไม่เคยเจอตอนอยู่ที่บ้านเรา คือเราเพิ่งแยกออกมาจากบ้านค่ะ มาทำงานกับสามี เพราะบ้านเราอยู่อีกจังหวัดนึงและพ่อแม่เราก็อยากให้เราสร้างครอบครัวของตัวเอง เราเคยถามสามีว่า อนาคตจะทำยังไงกับชีวิตบ้าง คำตอบคือ ทำงาน แล้วก็ให้เหตุผลต่อ่ว่า ทำงานแล้วก็มีเงินกิน เที่ยว ใช้ ซึ่งเราผิดหวังค่ะ พ่อเราบอกว่า สามีเราตามเพื่อน เพราะคำพูดคำขอของเราไม่มีความหมายกีบเค้าเลย
เรากล้าพูดเลยค่ะว่าตลอดเวลาเราไม่มีความสุขเลยเหมือนขีวิตผ่านไปแค่วันต่อวัน ไม่มีอนาคตร่วมกัน ไม่ทีการวางแผนชีวิต แต่เราก็ไม่เสียใจนะคะ แต่เสียความรู้สึกและเสียดายเวลา เราถูกมองว่าโง่งี่เง่า เพราะเราเลือกมาอยู่ชนบท มาส่งคมที่ไม่ใช่เรา สามีเราเรียนจบม.6 เคยติดคุก อายุ33 เงินเก็บไม่มี ผ่อนรถ ไม่มีบ้านของตัวเอง บางเดือนพ่อสามียังต้องช่วยผ่อนรถให้ค่ะ ส่วนเรา จบโทจากออสเตเรีลีย ทำงานหน่วยงานที่ใครหลายคนอยากทำ เคยมีเงินเก็บ แต่ตอนนี้หมดไปกับหนี้ที่สามีสร้างไว้ค่ะ เราเอาเงินไปปิดให้หมด เพราะคิดว่าเค้าจะปรับปรุงตัวเอง รถขายไปแล้ว
เรามองว่าการก้าวพลาดของเราจะเป็นแรงให้เราทำวันต่อไปให้ดีด้วยความรอบคีรอบ ความรักอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ครอบครัวอยู่รอดได้ ครอบครัวคือจุดสำคัญของการเริ่มต้นสร้างชีวิตคู่ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึงทุ่มเทมากไป มันนอกจากจะเหนื่อยแล้วยังเป็นเหมือนหนังสือ พ่อแม่รังแกฉันค่ะ ต่อไปนี้เราพร้อมจะเดินต่อไป ดูแลชีวิตน้อยๆที่เกิดจากครั้งนึงเคยมีรัก และจะดูแลเค้าด้วยความใส่ใจ เข้าใจ ถึงวันนี้ พ่อเค้าจะไม่ใยดี ไม่มีความรับผิดชอบ
ปล.พิมพ์ผิดเยอะหน่อยนะคะ จากมือถือ