คู่มือสร้างชาติ ฉบับลูกอม

####คำนำ####

กระทู้นี้ไม่ได้เขียนขึ้นสำหรับทุกคน แต่เขียนขึ้นสำหรับคนที่มีอารมณ์สร้างชาติ ว่าแต่ใครล่ะ ที่เรียกว่าผู้สร้างชาติ?

คนที่สร้างชาติ คือคนที่มองเห็นผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสิ่งสำคัญ คนกลุ่มนี้มีลักษณะพิเศษคือรู้จักมองออกจากตัวเอง คือรู้จักมองว่าเราจะให้อะไรแก่สังคมได้บ้าง มีความพอใจในชีวิตอยู่พอประมาณ

แม้โดยธรรมชาติมนุษย์มีความรักตัวเอง มีความเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง แต่คนที่จะร่วมสร้างชาติจะรู้จักมองออกจากตัวเอง มองออกมาจากประโยชน์ของพวกพ้อง กล่าวคือ ไม่มองแค่ว่าทำอย่างไรฉันและพวกพ้องของฉันจะได้เปรียบ จะมีอำนาจ เมื่อได้ตรงนั้นก็มีแต่จะหวงแหนรักษาความได้เปรียบและอำนาจนั้นไว้ โดยลืมมองไปว่าภาพรวมของสังคมกำลังเป็นอย่างไร เด็กนักเรียนได้เรียนรู้อย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ คนยากจน ผู้ที่ทำอาชีพที่ยากลำบาก มีชีวิตที่ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด ลืมไปหมด มองเห็นแต่การช่วงชิง การเอาชนะกัน เท่านี้คงพอเห็นภาพของคนสองกลุ่มนี้ คือ

หนึ่ง คนมองแต่ตัวเอง พวกพ้อง เห็นแก่ตัวและพวกพ้อง
สอง คนที่มองตัวเองด้วย และสังคมด้วย พร้อมพร้อมกัน

มาถึงบรรทัดนี้อยากให้คนกลุ่มแรกที่เห็นแก่ตัวเองและพวกพ้องปิดกระทู้นี้แล้วไปพักผ่อน เพื่อที่จะได้ใช้เวลาคิดหาประโยชน์ใส่ตัวต่อไป สำหรับกลุ่มคนกลุ่มที่สอง อยากเชิญให้อยู่อ่านต่อครับ

####เนื้อหา วิธีการสร้างชาติ ฉบับลูกอม####

ถึงจะใช้ภาษาเป็นกันเองแต่ผมไม่ได้มาล้อเล่น การสร้างชาติเป็นเรื่องใหญ่ เราจึงจำเป็นต้องมีหลักการ มีด้วยกันสี่ข้อตาม methodology การแก้ปัญหาที่ผมร่ำเรียนมาอย่างยากลำบาก

(๑) ปัญหา
(๒) ที่มาของปัญหา
(๓) เป้าหมายที่เรา want
(๔) บอกมาเลยว่าชั้นต้องทำไรบ้าง!

(๑) ปัญหา
ต้องยอมรับร่วมกันก่อนว่าบ้านเราตอนนี้มีปัญหาหลายเรื่อง อาทิ
ความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ความเหลื่อมล้ำทางฐานะทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำทางโอกาส การเข้าถึงสาธารณูปโภค สาธารณสุข สวัสดิการ ฯลฯ ตรงนี้ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว เห็นกันอยู่ทุกวัน จึงขอยกตัวอย่างไว้เท่านี้


(๒) ที่มาของปัญหา มีสองข้อ

ข้อหนึ่ง เพราะระดับบุคคลไม่มีคุณภาพ ไม่ฉลาด ไม่รู้จักพอ ไม่ขยัน ขยันก็ขยันไม่ถูกเรื่อง เลยมีเงินไม่พอใช้ แล้วก็โทษรัฐ โทษทุกคน ยกเว้นตัวเอง โอเคกับการทุจริต จ่ายสินบนเพื่อแลกผลประโยชน์ ปัญหาสังคมที่เรามีทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งให้โทษตัวเอง (เป็นความจริงที่แทงใจดำ)

ข้อสอง เพราะผู้ดูแล (รัฐ) corrupt และไม่เวิร์ค ส่วนตัวไม่ชอบโทษระบบ มีคำกล่าวอยู่ว่า power tends to corrupt คืออำนาจมักเป็นไปในทางที่ไม่ชอบ ตรงนี้เป็นธรรมชาติของการมีอำนาจ เราจะไม่แก้ในจุดนี้ เพราะแก้ไม่ได้ จะแก้จุดไหนขอให้อ่านต่อไป

เพื่อให้เห็นภาพ ขอเปรียบเทียบประเทศเราเป็นธนาคารแห่งหนึ่ง ที่มีพนักงานมากมาย แต่หลายคนสนใจแต่เรื่องหาประโยชน์ใส่ตัว ยาม (ผู้ดูแล) ก็ไม่ทำหน้าที่ พอเป็นดังนั้นโจรก็มาปล้น ยิ่งแย่หนักตรงที่ยามก็ช่วยโจรปล้น พนักงานก็ช่วยยามปล้นอีก พอธนาคารไม่มีเงินหมุนเวียนขาดสภาพคล่อง ก็จะไปกู้ยืมเงินมา แล้วก็ปล้นกันต่ออีก แล้วจะไม่เจ๊งได้ยังไง? เรียกว่าขาดความยั่งยืน ทำให้เกิดปัญหาในข้อ (๑)


(๓) เป้าหมายที่เรา want

ก็คือชาติแบบไหน สังคมแบบไหน ชีวิตแบบไหนที่เราต้องการ?

ระดับบุคคล แต่ละคนดูแลตัวเองได้ ทุกคนมีพอตามความต้องการที่อยู่ในความพอดี รู้จุดที่พอดีของตัวเอง ตามความสามารถที่จะหามาได้ มีชีวิตสมดุล คอนเซปต์เรื่องสมดุลถ้าจะพูดให้ง่ายก็พูดเหมือนนักขายตรงคือ มีเวลา มีเงิน มีสุขภาพดี ซึ่งเราแต่ละคนสามารถมีสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยวิธีการในข้อ (๔) ที่จะพูดต่อไป

ระดับรัฐ รัฐมั่นคง เศรษฐกิจมั่นคง มีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อความกินดีอยู่ดีของพลเมือง

ทั้งสองระดับมีความยั่งยืน ทั้งระดับบุคคลและระดับรัฐ คือทรงตัวอยู่ได้ด้วยความสามรถของตัวเอง ขาดปัจจัยหนุนภายนอกก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ มีเสถียรภาพ ไม่ใช่ยืนอยู่บนขาหรือหายใจด้วยรูจมูกของคนอื่น กู้หนี้ยืมสินล้นพ้นตัว ทำธุรกิจที่เกินกำลังหรือทำรายได้จากการเอาเปรียบสังคม เหล่านี้ไม่ยั่งยืน วิธีการทำรายได้อย่างยั่งยืนให้ดูข้อถัดไป


(๔) บอกมาเลยว่าชั้นต้องทำไรบ้าง!

เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของกระทู้นี้ จะให้คำตอบว่า "เราจะสร้างชาติยังไง"
เรื่องดีคือเราไม่จำเป็นต้องสร้างระบบที่วิเศษอะไรมาปกครองพวกเรา เราไม่จำเป็นต้องเลือกนายเหมือนหมู่กบอ๊บอ๊บ การสร้างชาติมีข้อเดียวเท่านั้นคือ บ่มเพาะตัวเราให้มีคุณภาพสองด้านคือ

หนึ่ง ด้านปัญญา เป็นผู้ใฝ่รู้ ขยันหาความรู้ใหม่ใหม่ทั้งในด้านอาชีพและด้านยกระดับความเป็นมนุษย์ รู้จักแยกแยะ มีจิตใจเป็นกลางปราศจากอคติความชอบชัง มองให้ขาด เรียนรู้มาก ศึกษามาก ถึงวิธีการแนวคิด และมีสติในการใช้ความรู้ซึ่งจะคู่กับคุณธรรม

สอง ด้านคุณธรรม ข้อนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมเราขาด คุณธรรมคือการรู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ ทั้งนี้ต้องไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกี่ยงตัวบุคคลหรือพวกใคร ถ้าพวกเราทำผิด ก็ต้องว่าผิดและรับโทษเพื่อให้รู้โทษ ถ้าพวกเขาทำถูกก็ควรสรรเสริญ

อย่างที่โรงเรียนหลายแห่งมักมีคำขวัญว่า "ความรู้ คู่คุณธรรม" ถ้าทุกคนเข้าใจและทำตามนี้ สังคมแบบที่เราต้องการในข้อสามก็จะเกิดขึ้นได้ เพราะสังคมประกอบด้วยหน่วยที่เล็กที่สุดคือตัวตนบุคคลหนึ่งหนึ่งนั่นล่ะ



สุดท้าย

องค์ความรู้และเนื้อหาเหล่านี้มิอาจกล่าวตู่ได้ว่าคิดขึ้นเอง หากแต่มีอยู่แล้วและทุกคนก็ได้ยินกันบ่อยจากสื่อหลายรูปแบบ แต่ไม่บ่อยที่จะมีการนำเสนอในรูปแบบของลูกอมที่กินง่าย หวานหอม บ่อยครั้งทำให้แนวคิดดีดีนี้กลายเป็นเรื่องตลก หรือกลายเป็นของสูง กลายเป็นเรื่องที่ต้องปีนกระไดฟัง เชื่อหรือไม่องค์ความรู้นี้ตอนนี้อยู่บนผืนลิ้นในรูปของลูกอมแล้ว ลองให้เวลาพิจารณาความหวานดูสิครับ

ปล. เขียนบทความนี้จบภายในรวดเดียวโดยไม่ดื่มน้ำ เพื่อตอบกระทู้ปรัชญาจูเช่ ว่าแท้จริงแล้วแก่นสารสาระที่คุณครูที่ผมรักอยากบอกคืออะไร ถูกใจโปรดช่วยกันโหวตครับ

อ่านเพิ่มเติม
http://th.wikipedia.org/wiki/เศรษฐกิจพอเพียง
http://th.wikipedia.org/wiki/คุณธรรม
http://th.wikipedia.org/wiki/อริยสัจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่