ทำไมประชาธิปไตย ต้องมีเสียงเท่ากันทุกคน?

ในเมื่อ ประชาชน ก็ไม่ได้มีคุณภาพ มีศักยภาพเท่าเทียมกันแท้จริง ประเทศยังมีความเหลื่อมล้ำชัดเจน (มองแบบโลกไม่สวย)
แถมเด็กรุ่นใหม่ก็โดนหลอกง่าย ใช้เป็นเครื่องมือได้ง่าย
แทนที่จะ มีสภาสูงจัดตั้ง มีองค์กรอิสระจัดตั้ง โดยใครก็ไม่รู้มากรองเสียง

เราก็ให้ประชาชนมีคะแนนเสียงไม่เท่ากันไปเลย
กำหนดว่า อายุน้อย เสียงมีน้ำหนักน้อยกว่าคนอายุมาก คนสูงอายุ มีประสบการณ์มาก หลอกยาก ก็มีน้ำหนักเสียงมากกว่า

จัดให้มีการนำระดับการศึกษามาคิดน้ำหนักคะแนนเลือกตั้งด้วย เป็นหน้าที่ของประชาชนต้องขวนขาย ยกระดับการศึกษา เพราะ คนรากหญ้า การศึกษาน้อย โดนหลอกด้วยการซื้อสเียงผ่านนโยบาย ประชานิยม จนกลายเป็นรากอำนาจให้ตระกูลนักการเมือง

ท้ายที่สุด ประชาชนต้องมีประวัติด้านจริยธรรม โทษคดีอาญาสำคัญ ต้องถูกนำมาลดน้ำหนักคะแนนโหวตของตัวเอง เพราะเราเชื่อว่า คนที่ประกอบกิจการอาชีพพัวพันสิ่งผิดกฎหมายก็มีแนวโน้มเอาเสียงตัวเองไปให้นักการเมืองเลวๆ เป็นบันไดอำนาจของนักการเมืองชั่วๆได้อีก เช่น ติดยา โดนตัดสินก็มีประวัติ ให้นับต่อไปอีกแม้จะพ้นโทษแล้ว มีผลกับคะแนนเสียงโหวตของพวกนั้น ถ้าประชาชนอยากมีคะแนนโหวตดีๆ ก็อย่าทำผิดกฎหมายสำคัญ
พวกคดีหมวดความมั่นคง ก็ลบเวทน้ำหนักเยอะๆไปเลย



เพื่อป้องกันปัญฆาพวกเด็กรุ่นใหม่ ไม่เรียนแต่ออกมาแว๊น ออกมาป่วนเมือง สร้างปัญหาสังคม ถึงเวลาก็ออกมาร่วมประท้วง สร้างความไม่สงบ จะมาออกสเียงเลือกผู้แทนกาวๆ  สุดท้ายก็ได้พวกพรรค้มล้างมามีอำนาจ
พวกชาวไร่ชาวนา ติดหนี้วังวน เลือกแต่ปากท้องตัวเองไม่สนใจว่าคนที่เลือกจะดีจะชั่วจะขายชาติขายแผ่นดิน รู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมนักการเมืองมากอบโกยผลประโยชน์
ให้ประชาชนชั้นเลิศ มีคุณภาพ ได้มีโอกาสส่งนักการเมืองที่ดี เข้าไปทำงานในสภา ไม่ต้องมานั่งเรียกร้องคนนอก ไม่ต้องมาหวังรอนายกพระราชทาน ไม่ต้องมานั่งดูเกมส์การเมืองของพรรคต่างๆ ที่จะใหม่จะเก่า ก็เล่นเพื่ออำนาจ เพื่อเป้าหมายของตัวเองทั้งนั้น
สุดท้าย ถ้าพรรคไหนจะชนะใจคน เข้าไปมีอำนาจบริหารในระบบน้ำหนักคะแนนโหวตได้ ก็ต้อง ขายนโยบายกับคนมีการศึกษาได้จริงๆ

คนมีอายุมาก ที่การศึกษาสูง และไม่มีประวัติอาชญากรรม มีจริยธรรมอันดี คือคนที่ควรมีอำนาจคัดสรรคนที่ดีเข้าสภาได้มากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่