แรงโน้มถ่วง หรือ แรงดึงดูด วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือ มาจากไหน
แต่มันก็มีอยู่ และดำรงอยู่ อย่างกระจายตัวไปทั่วจักรวาล โดยเฉพาะในบริเวณสนามของแรงที่มันครอบครองอยู่
บิ๊กแบง เป็น จุดเริ่มแรกของกำเนิดจักรวาล ซึ่งได้สร้างภาวะขยายตัว จนทำให้เกิดวิวัฒนาการของกาแล็คซี่ ดวงดาวและดาวเคราะห์มากมาย
ผมอยากจะคิดแบบดังๆว่า แรงโน้มถ่วงได้สถาปนาตัวมันเองให้ปรากฏเป็นสิ่งมีชีวิต
มีสัญชาตญาณเป็นแรงขับพื้นหลังของการดิ้นรน ประกอบสร้างเป็นแนวป้องกันตนเอง และการปรับตัว
ทำงานร่วมกับแรงขยายตัวเริ่มแรก ในรูปการเติบโต ขยายเผ่าพันธุ์ รวมถึง การผ่าเหล่า กลายพันธุ์ เป็น หลากหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไป
สำหรับในมนุษย์ ความเป็นตัวตน หรือ อัตตา นี่แหละคือ ภาพสะท้อนการดำรงอยู่ของแรงโน้มถ่วง ณ จิตสำนึก และใต้สำนึก
มันประกอบด้วยขนมชั้นของอัตตลักษณ์จากห้วงวัยวันที่ผ่านมา ของแต่ละบุคคล จนถึงปัจจับัน
คนเราจึงประกอบด้วย อดีตที่ทับซ้อนกันมาเรื่อย เหมือนชั้นวงของหัวหอม
ซึ่งเมื่อแกะออกไปเรื่อยๆ ก็จะไม่มีอะไร พบเพียงความว่าง เท่านั้น
ในเมื่อใจกลางอัตตา คือ ความว่าง
อันอัตตา ถูกสร้างจากพลังหดตัว ยุบตัว หรือดึงดูดเข้าหากันแบบแรงโน้มถ่วงแล้วไซ้ร
อัตตา หรือ ความเป็นตัวเรา จึงเป็นธรรมชาติที่มิอาจทัดทาน ถ้าปรารถนาต่อชีวิต
โดยที่สารัตถะภายในชีวิตนั้น ก็คือ ความว่าง หรือ ความไม่มีอะไรที่เป็นแก่นสารคงตัวให้ยึดเกาะ
แต่ที่ยึดเกาะกันได้เป็นอัตตา ก็เพราะ ความทรงจำผ่านไทม์ไลน์
เช่นเดียวกับ การขยายตัวอย่างมีวิวัฒนาการของจักรวาล นั่นเอง
แรงโน้มถ่วง&อัตตา
แต่มันก็มีอยู่ และดำรงอยู่ อย่างกระจายตัวไปทั่วจักรวาล โดยเฉพาะในบริเวณสนามของแรงที่มันครอบครองอยู่
บิ๊กแบง เป็น จุดเริ่มแรกของกำเนิดจักรวาล ซึ่งได้สร้างภาวะขยายตัว จนทำให้เกิดวิวัฒนาการของกาแล็คซี่ ดวงดาวและดาวเคราะห์มากมาย
ผมอยากจะคิดแบบดังๆว่า แรงโน้มถ่วงได้สถาปนาตัวมันเองให้ปรากฏเป็นสิ่งมีชีวิต
มีสัญชาตญาณเป็นแรงขับพื้นหลังของการดิ้นรน ประกอบสร้างเป็นแนวป้องกันตนเอง และการปรับตัว
ทำงานร่วมกับแรงขยายตัวเริ่มแรก ในรูปการเติบโต ขยายเผ่าพันธุ์ รวมถึง การผ่าเหล่า กลายพันธุ์ เป็น หลากหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไป
สำหรับในมนุษย์ ความเป็นตัวตน หรือ อัตตา นี่แหละคือ ภาพสะท้อนการดำรงอยู่ของแรงโน้มถ่วง ณ จิตสำนึก และใต้สำนึก
มันประกอบด้วยขนมชั้นของอัตตลักษณ์จากห้วงวัยวันที่ผ่านมา ของแต่ละบุคคล จนถึงปัจจับัน
คนเราจึงประกอบด้วย อดีตที่ทับซ้อนกันมาเรื่อย เหมือนชั้นวงของหัวหอม
ซึ่งเมื่อแกะออกไปเรื่อยๆ ก็จะไม่มีอะไร พบเพียงความว่าง เท่านั้น
ในเมื่อใจกลางอัตตา คือ ความว่าง
อันอัตตา ถูกสร้างจากพลังหดตัว ยุบตัว หรือดึงดูดเข้าหากันแบบแรงโน้มถ่วงแล้วไซ้ร
อัตตา หรือ ความเป็นตัวเรา จึงเป็นธรรมชาติที่มิอาจทัดทาน ถ้าปรารถนาต่อชีวิต
โดยที่สารัตถะภายในชีวิตนั้น ก็คือ ความว่าง หรือ ความไม่มีอะไรที่เป็นแก่นสารคงตัวให้ยึดเกาะ
แต่ที่ยึดเกาะกันได้เป็นอัตตา ก็เพราะ ความทรงจำผ่านไทม์ไลน์
เช่นเดียวกับ การขยายตัวอย่างมีวิวัฒนาการของจักรวาล นั่นเอง