เมื่อคืน ถามมือ 5 ว่าพรุ่งนี้วันหยุดอยากกินอะไร มือ 5 ตอบ "อยากกินปลาทับทิมทอดกรอบ ๆ จิ้มมายองเนส"
ตื่นมาเตรียมตัวจะไปกาดเสาร์หาปลามาทอดตามสัญญา อยู่ในบ้านไม่รู้ร้อนรู้หนาว เวลา 8 โมงกว่าแล้ว แต่งตัวเสร็จ
แต่พอมองออกไปนอกหน้าต่าง ปาดโช๊ะ กลางเดือนกุมภาพันธ์ กลางวันร้อนเอา ๆ หมอกอะไรล้ำเหลือ
ถึงจะหมอกหนา ยังไงก็ต้องไป ไม่ได้ปลาทับทิมกลายเป็นปลานิลมาแทน 2 ตัว 85 บาท ปลานิลล้างดี ๆ ก็ไม่มีกลิ่นนะ
ผมล้างด้วยเกลือรอบแรก และตามด้วยน้ำมักชีวภาพทำเอง ใช้ได้เลยครับ กลิ่นหายหมด
บั้งทาเกลือผึ่งไว้ให้หมาด
จำเป็นต้องปรับแผน ปลา 2 ตัว ทำ 2 รูปแบบดีกว่า ปู่ 1 ตัว หลาน 1 ตัว
ของปู่ ผมจัดการเอา พริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง รากผักชี ตะไคร้ ข่า ขมิ้นสด กะปิ ใส่ครกโขลกให้แหลกเข้ากัน
ของหลาน ต้องจืด ๆ กินเผ็ดไม่ได้ กะเอากลิ่นหอมอย่างเดียว มีตะไคร้ทุบ รากผักชี โหรพา
ทั้ง 2 อย่างยัดเข้าในท้องปลา เตรียมเข้าเครื่องอบลมร้อน
ตั้งเวลา 30 นาที ที่ไฟ 200 แล้วไปทำงานอื่นก่อน ครบกำหนด หม้อทำงานอย่างซื่อสัตย์ นี่ขนาดว่าอายุ
น่าจะเกิน 15 ปี ไปแล้วนะเนี่ย แห้งนอก ฉ่ำใน กำลังเหมาะเลยทีเดียว
แยกไปเลย ของใครก็ของใคร โชว์แบบยัดไส้น้ำพริกโบราณก่อน ที่พูดว่าน้ำพริกโบราณเพราะปลาปิ้งแบบนี้
สมัยเป็นเด็ก ยายทำให้กินบ่อย ๆ ยังจำรสชาติตอนที่เอาข้าวเหนียวจิ้มลงไปในน้ำพริกแล้วใส่ปากตามด้วยเนื้อปลา
มันช่างสวรรค์โดยแท้ หอมมากมายน้ำพริกมีเท่าไหร่ก็แทบไม่พอ
ส่วนจานนี้ของหลาน ไม่เผ็ดมีแต่ความหอมกลิ่นสมุนไพร ที่ยัดเข้าไปในท้อง
แบ่งกันไปคนละตัว มื้อกลางวันอย่างอร่อยเลย ตอนที่รอปลากำลังอบอยู่ ผมทำแกงได้ 1 หม้อ
เป็นแกงแบบไทยผสมเมือง ไม่มีกะทิ เพราะคุณหมอขอร้องให้บ้านนี้งดอาหารประเภทมัน ๆ
1 เดือน
ลองทายซิครับ ว่าแกงในภาพคือแกงอะไร แล้วจะหาโอกาสมาแนะนำอีกที
สวัสดีครับ
ปลาปิ้ง 2 เวอร์ชั่น "หลาน - ปู่ เมนูวันหยุด"
ตื่นมาเตรียมตัวจะไปกาดเสาร์หาปลามาทอดตามสัญญา อยู่ในบ้านไม่รู้ร้อนรู้หนาว เวลา 8 โมงกว่าแล้ว แต่งตัวเสร็จ
แต่พอมองออกไปนอกหน้าต่าง ปาดโช๊ะ กลางเดือนกุมภาพันธ์ กลางวันร้อนเอา ๆ หมอกอะไรล้ำเหลือ
ถึงจะหมอกหนา ยังไงก็ต้องไป ไม่ได้ปลาทับทิมกลายเป็นปลานิลมาแทน 2 ตัว 85 บาท ปลานิลล้างดี ๆ ก็ไม่มีกลิ่นนะ
ผมล้างด้วยเกลือรอบแรก และตามด้วยน้ำมักชีวภาพทำเอง ใช้ได้เลยครับ กลิ่นหายหมด
บั้งทาเกลือผึ่งไว้ให้หมาด
จำเป็นต้องปรับแผน ปลา 2 ตัว ทำ 2 รูปแบบดีกว่า ปู่ 1 ตัว หลาน 1 ตัว
ของปู่ ผมจัดการเอา พริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง รากผักชี ตะไคร้ ข่า ขมิ้นสด กะปิ ใส่ครกโขลกให้แหลกเข้ากัน
ของหลาน ต้องจืด ๆ กินเผ็ดไม่ได้ กะเอากลิ่นหอมอย่างเดียว มีตะไคร้ทุบ รากผักชี โหรพา
ทั้ง 2 อย่างยัดเข้าในท้องปลา เตรียมเข้าเครื่องอบลมร้อน
ตั้งเวลา 30 นาที ที่ไฟ 200 แล้วไปทำงานอื่นก่อน ครบกำหนด หม้อทำงานอย่างซื่อสัตย์ นี่ขนาดว่าอายุ
น่าจะเกิน 15 ปี ไปแล้วนะเนี่ย แห้งนอก ฉ่ำใน กำลังเหมาะเลยทีเดียว
แยกไปเลย ของใครก็ของใคร โชว์แบบยัดไส้น้ำพริกโบราณก่อน ที่พูดว่าน้ำพริกโบราณเพราะปลาปิ้งแบบนี้
สมัยเป็นเด็ก ยายทำให้กินบ่อย ๆ ยังจำรสชาติตอนที่เอาข้าวเหนียวจิ้มลงไปในน้ำพริกแล้วใส่ปากตามด้วยเนื้อปลา
มันช่างสวรรค์โดยแท้ หอมมากมายน้ำพริกมีเท่าไหร่ก็แทบไม่พอ
ส่วนจานนี้ของหลาน ไม่เผ็ดมีแต่ความหอมกลิ่นสมุนไพร ที่ยัดเข้าไปในท้อง
แบ่งกันไปคนละตัว มื้อกลางวันอย่างอร่อยเลย ตอนที่รอปลากำลังอบอยู่ ผมทำแกงได้ 1 หม้อ
เป็นแกงแบบไทยผสมเมือง ไม่มีกะทิ เพราะคุณหมอขอร้องให้บ้านนี้งดอาหารประเภทมัน ๆ
1 เดือน
ลองทายซิครับ ว่าแกงในภาพคือแกงอะไร แล้วจะหาโอกาสมาแนะนำอีกที
สวัสดีครับ