สร้างกระแสเรื่องข้าว เพื่อบิ้วอารมณ์กองเชียร์ปูทางไปสู่ให้ปปช. ชี้มูลความผิดนายก
ซึ่งคงเป็นเรื่องเดียวที่ฝ่ายต่อต้านรัฐ เหลือประเด็นเดียวที่จะใช้โจมตีรัฐบาล เพื่อจุดกระแส
ต้องยอมรับจริงๆแล้วโครงการนี้มีความผิดพลาด ตอนที่บุญทรงเป็นรัฐมนตรีที่เก็บข้าวไว้ในสต๊อคมากเกินไป อาจจะเป็นเพราะความขาายของไม่เป็นหรือมีวาระซ่อนเร้นที่ไม่ยอมขาย แล้วรัฐยังมีการบริหารด้านการจัดการที่มีช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตได้ง่าย แต่หลังจากการเปลี่ยนรัฐมนตรีพาณิย์ก้อพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ตอนแรกสงสัยว่ารัฐไม่ได้เตรียมตัวรองรับจัดหาเงินไว้จ่ายให้ชาวนาเลยหรอก่อนจะยุบสภา ทำให้เกิดเป็นปัญหาให้ชาวนาออกมาเรียกร้อง
ถ้ามองผิวเผินเป็นเช่นกัน แต่จริงๆเป็นเรื่องที่รัฐได้วางแผนไว้หมดแล้วนั่นคือ หากเกิดปํญหาเกิดการรเปลี่ยนแปลงที่ทำให้รัฐบาลจะหลุดออกอำนาจ โดยวิธีที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
จะทำให็รัฐมีมวลชนที่เป็นชาวนา เป็นฐานเสียงที่พร้อมจะออกมาเรียกร้องเงินค่าข้าวจากรัฐบาลชุใหม่ทันที โดยที่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาด้วยวิธีการพิเศษซึ่งมีคงทีนโยบายที่ตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทยในเรื่องข้าวอยู่แล้ว ทำให้ต้องรีบหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาที่ถือใบประทวนอยู่ซึ่งเป็นจำนวนเงินไม่น้อย รวมถึงนโยบายเกี่ยวกับชาวนาจะทำอย่างไรต่อไป
ถ้าสังเกตุเกี่ยวกับม๊อบชาวนาที่ปรากฎข่าวอยู่ในขนาดนี้ บอกตามตรงไม่ได้สร้างความกดดันให้กับรัฐมากมายเลย ชาวนาตัวจริงส่วนใหญ่เข้าใจถึงปัยหาที่เกิดขึ้น และยินยอมที่จะยอมรอแะรอได้ นั่นเพราะความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลชุดนี้ รัฐก้อพยายามเลี้ยงกระแสอยู่ด้วยการทยอยขายข้าวค่อยๆทยอยเอาเงินให้ชาวนา แต่สร้างภาพให้ชาวนาเห็นว่า ทางรัฐโดนขัดขวางเกี่ยวกับการหาเงินกู้มาจ่ายให้ชาวนา พูดง่ายๆรัฐแอบสร้างมวลชนชาวนาไว้กลายๆ
สังเกตุจากผลจากคนออกมาใช้สิทธิ์จะเห็นว่า 14 ล้านเสียงเป็นบัตรดี เพราะฉนั้นคะแนนเสียงเพื่อไทยจะอยู่ประมาณ 11-12 ล้านเสียง นั่นย่อมบ่งบอกว่าฐานเสียงของเพื่อไทยยังแน่นหนา แม้จะโดนโจมตีหลายๆด้าน เสียงที่ได้ครั้งนี้เป็นเสียงที่จากความนิยมของเพื่อไทยเต็มๆ ถ้ามีคนมาใช้สิทธิมากกว่านี้ย่อมมีเสียงมากขึ้น และครั้งนี้ไม่มีการหาเสียงเลย
ทุกอย่างจะเข้าทางรัฐ เพราะปัญหาเรื่องข้าว จะทำให้รัฐสามารถมีข้ออ้างในการปรับราคาจำนำข้าวลงได้ และปรับปรุงและแก้ไขปัญหาช่องโหว่ที่เกิดขึ้น
ส่วน ปปช. จะบอกว่ายิ่งสอบยิ่งไม่มีไรสาวหรือโยงมาถึงยิ่งลักษณ์ได้ จะเห็นว่าประเด็นที่สอยนายกยิ่งลักษณ์มีสองกรณีคือ
ทุจริต - พูดง่ายๆจะกล่าวหาว่านายกโกงนั่นแหละ แต่ประเด็นนี้คงลำบากที่หาหลักฐานมาบ่งบอได้ว่านายกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพราะหาไม่เจอ ไม่อย่างนั้นป่านนี้ต้องชี้มูล บุญทรงได้แล้ว ผ่านมาเดือนนึงแล้วหลังจากที่บุญทรง ให้มารับทราบข้อกล่าวหา
ละเว้นในการปฎิบัติหน้าที่- เกี่ยวกับทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการ ซึ่งจริงๆแล้วมีการสอบกำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตข้าวไปเกือบ 300 คดีอยู่แล้ว ซึ่งอยู่ในชั้นสอบสวนไปแล้ว ส่วนเรื่อง จีทูจีที่ทาง ปปช.จะใช้เป็นประเด็นหลักในการชี้มูลความผิดนายกว่า ไม่มีการซื้อขายแบบจีทูจีจริง เมื่อวานจะเห็นว่ามีข่าวเรื่องจีนยกเลิกการสั่งซื้อข้าว 1.2 ล้านตันกับรัฐบาล นี่แหละคือตัวช่วยของรัฐบาลและเป็นหลักฐานอย่างดีที่บอกว่า มีการทำสัญญาซื้อขายข้าวจริง แต่ตอนนี้มีการโจมตีว่า การซื้อขายดังกล่าวไม่ใช่การซื้อขายแบบจีทูจี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเด๊ยวทางตัวช่วยของรัฐจะบอกว่าเพราะทางรัฐมนตรีเข้าใจว่าการซื้อขายดังกล่าว เข้าใจว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี เพราะบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทในมณฑลนึงของรัฐบาลจีน จึงเข้าใจว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี
ส่วนถ้าทาง ปปช.ต้องการหลักฐานคงไม่ใช่เรื่องยากที่รัฐจะหามายืนยันได้ เพราะอีกฝ่ายออกตัวมาช่วยแล้ว เมื่อมีหลัฐานบ่งบอกว่ามีการขายข้าวจริงกับจีน การที่ชี้มูลนายกก้อไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดก้อได้ครับ ผมจินตนาการเอา
แกนนำทั้งสองฝ่ายรู้ดีครับ สังเกตุง่ายๆถ้าสามารถชี้มูลนายกได้จริงๆ ป่านนี้ทำไปนานแล้ว ไม่รอเวลาหรอก ที่รอเวลารอสร้างกระแสมวลชนจากชาวนาให้มาเพิ่มความชอบธรรมให้ทาง กปปส. ครับ แล้วทให้เกิดรัฐล้มเหลวเท่านั้นเอง
ขอบคุณครับ
ช่วงนี้โหมข่าวประเด็นเรื่องข้าวกันเต็มที่ ถ้าจะบอกว่าเกมส์นี้ทั้งสองฝ่ายกำลังใช้ชาวนาเป็นตัวประกัน
ซึ่งคงเป็นเรื่องเดียวที่ฝ่ายต่อต้านรัฐ เหลือประเด็นเดียวที่จะใช้โจมตีรัฐบาล เพื่อจุดกระแส
ต้องยอมรับจริงๆแล้วโครงการนี้มีความผิดพลาด ตอนที่บุญทรงเป็นรัฐมนตรีที่เก็บข้าวไว้ในสต๊อคมากเกินไป อาจจะเป็นเพราะความขาายของไม่เป็นหรือมีวาระซ่อนเร้นที่ไม่ยอมขาย แล้วรัฐยังมีการบริหารด้านการจัดการที่มีช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตได้ง่าย แต่หลังจากการเปลี่ยนรัฐมนตรีพาณิย์ก้อพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ตอนแรกสงสัยว่ารัฐไม่ได้เตรียมตัวรองรับจัดหาเงินไว้จ่ายให้ชาวนาเลยหรอก่อนจะยุบสภา ทำให้เกิดเป็นปัญหาให้ชาวนาออกมาเรียกร้อง
ถ้ามองผิวเผินเป็นเช่นกัน แต่จริงๆเป็นเรื่องที่รัฐได้วางแผนไว้หมดแล้วนั่นคือ หากเกิดปํญหาเกิดการรเปลี่ยนแปลงที่ทำให้รัฐบาลจะหลุดออกอำนาจ โดยวิธีที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
จะทำให็รัฐมีมวลชนที่เป็นชาวนา เป็นฐานเสียงที่พร้อมจะออกมาเรียกร้องเงินค่าข้าวจากรัฐบาลชุใหม่ทันที โดยที่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาด้วยวิธีการพิเศษซึ่งมีคงทีนโยบายที่ตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทยในเรื่องข้าวอยู่แล้ว ทำให้ต้องรีบหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาที่ถือใบประทวนอยู่ซึ่งเป็นจำนวนเงินไม่น้อย รวมถึงนโยบายเกี่ยวกับชาวนาจะทำอย่างไรต่อไป
ถ้าสังเกตุเกี่ยวกับม๊อบชาวนาที่ปรากฎข่าวอยู่ในขนาดนี้ บอกตามตรงไม่ได้สร้างความกดดันให้กับรัฐมากมายเลย ชาวนาตัวจริงส่วนใหญ่เข้าใจถึงปัยหาที่เกิดขึ้น และยินยอมที่จะยอมรอแะรอได้ นั่นเพราะความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลชุดนี้ รัฐก้อพยายามเลี้ยงกระแสอยู่ด้วยการทยอยขายข้าวค่อยๆทยอยเอาเงินให้ชาวนา แต่สร้างภาพให้ชาวนาเห็นว่า ทางรัฐโดนขัดขวางเกี่ยวกับการหาเงินกู้มาจ่ายให้ชาวนา พูดง่ายๆรัฐแอบสร้างมวลชนชาวนาไว้กลายๆ
สังเกตุจากผลจากคนออกมาใช้สิทธิ์จะเห็นว่า 14 ล้านเสียงเป็นบัตรดี เพราะฉนั้นคะแนนเสียงเพื่อไทยจะอยู่ประมาณ 11-12 ล้านเสียง นั่นย่อมบ่งบอกว่าฐานเสียงของเพื่อไทยยังแน่นหนา แม้จะโดนโจมตีหลายๆด้าน เสียงที่ได้ครั้งนี้เป็นเสียงที่จากความนิยมของเพื่อไทยเต็มๆ ถ้ามีคนมาใช้สิทธิมากกว่านี้ย่อมมีเสียงมากขึ้น และครั้งนี้ไม่มีการหาเสียงเลย
ทุกอย่างจะเข้าทางรัฐ เพราะปัญหาเรื่องข้าว จะทำให้รัฐสามารถมีข้ออ้างในการปรับราคาจำนำข้าวลงได้ และปรับปรุงและแก้ไขปัญหาช่องโหว่ที่เกิดขึ้น
ส่วน ปปช. จะบอกว่ายิ่งสอบยิ่งไม่มีไรสาวหรือโยงมาถึงยิ่งลักษณ์ได้ จะเห็นว่าประเด็นที่สอยนายกยิ่งลักษณ์มีสองกรณีคือ
ทุจริต - พูดง่ายๆจะกล่าวหาว่านายกโกงนั่นแหละ แต่ประเด็นนี้คงลำบากที่หาหลักฐานมาบ่งบอได้ว่านายกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เพราะหาไม่เจอ ไม่อย่างนั้นป่านนี้ต้องชี้มูล บุญทรงได้แล้ว ผ่านมาเดือนนึงแล้วหลังจากที่บุญทรง ให้มารับทราบข้อกล่าวหา
ละเว้นในการปฎิบัติหน้าที่- เกี่ยวกับทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการ ซึ่งจริงๆแล้วมีการสอบกำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตข้าวไปเกือบ 300 คดีอยู่แล้ว ซึ่งอยู่ในชั้นสอบสวนไปแล้ว ส่วนเรื่อง จีทูจีที่ทาง ปปช.จะใช้เป็นประเด็นหลักในการชี้มูลความผิดนายกว่า ไม่มีการซื้อขายแบบจีทูจีจริง เมื่อวานจะเห็นว่ามีข่าวเรื่องจีนยกเลิกการสั่งซื้อข้าว 1.2 ล้านตันกับรัฐบาล นี่แหละคือตัวช่วยของรัฐบาลและเป็นหลักฐานอย่างดีที่บอกว่า มีการทำสัญญาซื้อขายข้าวจริง แต่ตอนนี้มีการโจมตีว่า การซื้อขายดังกล่าวไม่ใช่การซื้อขายแบบจีทูจี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเด๊ยวทางตัวช่วยของรัฐจะบอกว่าเพราะทางรัฐมนตรีเข้าใจว่าการซื้อขายดังกล่าว เข้าใจว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี เพราะบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทในมณฑลนึงของรัฐบาลจีน จึงเข้าใจว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี
ส่วนถ้าทาง ปปช.ต้องการหลักฐานคงไม่ใช่เรื่องยากที่รัฐจะหามายืนยันได้ เพราะอีกฝ่ายออกตัวมาช่วยแล้ว เมื่อมีหลัฐานบ่งบอกว่ามีการขายข้าวจริงกับจีน การที่ชี้มูลนายกก้อไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดก้อได้ครับ ผมจินตนาการเอา
แกนนำทั้งสองฝ่ายรู้ดีครับ สังเกตุง่ายๆถ้าสามารถชี้มูลนายกได้จริงๆ ป่านนี้ทำไปนานแล้ว ไม่รอเวลาหรอก ที่รอเวลารอสร้างกระแสมวลชนจากชาวนาให้มาเพิ่มความชอบธรรมให้ทาง กปปส. ครับ แล้วทให้เกิดรัฐล้มเหลวเท่านั้นเอง
ขอบคุณครับ