มุมมองของ "หล่อขวัญ" คนหน้าตาดี ไม่มีแฟน ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว

กระทู้สนทนา
ถึงวันนี้   คำว่า "ล้มเหลว" ใช้ได้หรือไม่กับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อไทย
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับ อ.นิธิ  เอียวศรีวงศ์  ครับ  ว่ายังไม่ล้มเหลว
และผมก็เห็นเหมือน ๆ กับ อ.นิธิ และอีกหลาย ๆ ท่านครับ  ว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี
ดีตรงหลักที่ว่า (ก็ อ.นิธิแหละครับว่าอีก) ทำไมต้องปล่อยให้การขาดทุนตกเป็นภาระของชาวนาฝ่ายเดียว

ชาวนานั้น  ทำนา  ขายข้าวขายทุนมาชั่วนาตาปีครับ   โดยมีพ่อค้าเป็นเสือนอนกิน  ฟันกำไรเนื้อ ๆ ตลอดมา
เมื่อก่อน  รัฐบาลช่วยก็ช่วยโรงสีซะเป็นหลัก   มีโครงการให้เงินยืมโรงสีในการซื้อข้าวจากชาวนา  
ด้วยการอ้างว่าเป็นการให้โรงสีมีทุนในการซื้อข้าวจากชาวนา  เป็นการช่วยชาวนา
แต่ความจริงมันคือการอุ้มพ่อค้า  ช่วยพ่อค้า  แล้วนักการเมืองซีกรัฐก็รับใต้โต๊ะแบบเนียน ๆ
หรือนักการเมืองนั่นแหละเป็นเจ้าของโรงสี  เป็นพ่อค้าส่งออกข้าวซะเอง

เมื่อมีโครงการประกันราคา   มันก็คือการช่วยพ่อค้าอีกนั่นแหละ
เพราะโรงสีซื้อห้าบาท  ชาวนาอยากขาย 7 บาท  รัฐก็ต้องช่วยพ่อค้าสองบาท
แถมดีไม่ดี  ไม่มีนาไม่มีข้าว  มีแต่ชื่อ   ก็รับเนื้อ ๆ เต็ม ๆ ไปเจ็ดบาทเลย

ในมุมมองของผม   ผมเชื่อครับว่ารัฐบาลเพื่อไทยมีเจตนาดีในการช่วยชาวนา
ที่ใคร ๆ มองว่า  การช่วยแบบนี้ไม่ดี  แจกเงินชาวนาโดยตรงเลยซะยังดีกว่า
น่าจะไปช่วยชาวนาในการลดต้นทุนการผลิตดีกว่า  อะไรทำนองนี้

ผมมองว่า  รัฐบาลก็คงคิดงั้นครับ   คือคิดเรื่องช่วยชาวนาในเรื่องเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน
แต่ในการ "จัดลำดับความสำคัญ" นั้น  ผมมองว่ารัฐบาลคิดถูก
คือช่วย "อุ้ม" ในเรื่องราคาก่อน  ให้ชาวนามีกำไรก่อน   เป็นการช่วยแบบเร็ว  ถึงตัวชาวนาโดยตรง
ลำดับต่อไป  เมื่อชาวนามีกำไรไปสักสามสี่ปี   ยืนได้มั่ง  นั่นแหละจึงเข้าสู่ระยะพัฒนาการผลิต  เพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน
ซึ่งเรื่องอย่างนี้  เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา  ไม่ใช่แค่แนะนำแล้วชาวนาจะทำได้เลย
มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องใช้เวลา  ทั้งการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพดิน  เรื่องปุ๋ย  เรื่องสายพันธุ์ข้าว  เรื่องน้ำที่รัฐต้องช่วยให้ถึงนา
ซึ่งเมื่อเข้าสู่ระยะนี้   ชาวนาจะมีทุนในมือพอที่จะอยู่ได้ (แต่รัฐก็ต้องช่วยในเรื่องทุนอยู่ดีในการปรับโครงสร้างการผลิต)

แต่คงเพราะ "การประเมินการณ์" ผิดพลาด   มีปัจจัยที่มองเห็นแต่ไม่นึกว่าจะ "แรง" ขนาดนี้
ทำให้โครงการจำนำข้าวประสบปัญหามากมายเป็นลิงแก้แห
เล่นเอารัฐบาลเซ

ผมมองว่า  รัฐบาลคิดง่ายเกินไป  ในเรื่องที่ว่า  จำนำ  จ่ายเงิน  มีข้าว  ขายข้าว  คืนเงินคลัง
คิดว่ามีข้าวในมือ   คิดว่าจะชักชวนผู้ผลิตรายอื่น ๆ  ร่วมมือกันในรูปแบบเหมือนกลุ่มโอเปคได้
แต่ผู้ผลิตอื่น ๆ ไม่เล่นด้วย  มีแต่หันมาเล่นงานโครงการจำนำข้าวแล้วฉวยโอกาสขายข้าวถูกกว่า
ทำให้การระบายข้าวเป็นไปได้ยาก  แถมมีต้นทุนการเก็บรักษาตามมาอีก  เพิ่มภาระด้านงบประมาณให้รัฐบาลซะอีก

โครงการนี้กระทบถึงฝ่ายอื่น ๆ มากครับ  รัฐบาลเลยต้องรับแรงต้านหลายด้าน
ต่างประเทศ  แน่นอน  เขาก็ต้องไม่อยากให้เกิดการรวมตัวแบบโอเปค   เพราะจะทำให้ตลาดข้าวในประเทศเขาราคาสูงขึ้น
ภายในประเทศเอง  พ่อค้าข้าวที่เคยเป็นเสือนอนกิน  แต่รัฐบาลฮุบเอาข้าวไปซะหมด  พ่อค้าก็กำไรหายไปเห็น ๆ
(ตอนนี้  รัฐบาลเร่งระบายข้าว   พ่อค้าก็ยิ่มแฉ่ง  เพราะสนุกกดราคา  เหมือนเคยกดกับชาวนามานับร้อยปี)
เราจึงได้เห็นการโจมตีต่าง ๆ  ทั้งภายในและภายนอกในเรื่องโครงการนี้

ไม่ง่ายครับ
จะระบายข้าวแบบจีทูจี   มันก็ยาก  เพราะหากจีทูจีเยอะ  พ่อค้าในประเทศนั้นเขาก็โวยรัฐบาลเขาสิ
การขายจีทูจีจึงทำได้น้อย
การจะใช้วิธีเอาข้าวแทนเงินกับประเทศต่าง ๆ ก็ลำบาก
เช่น  จะซื้ออาวุธให้กองทัพแล้วใช้ข้าวแทนเงินบางส่วนนี่  กองทัพไม่เห็นด้วยแน่  เพราะทำให้นายพลไม่ได้เงินใต้โต๊ะ
แล้วยิ่งในภาวะการเมืองแบบนี้  การเมืองแบบกองทัพเป็นใหญ่นี่   รัฐบาลก็ไม่กล้าหักกองทัพ
ปัจจัยราคาก็สำคัญ  เพราะรับจำนำหมื่นห้า  จะไปขายต่ำกว่าหมื่นห้ามาก  ก็กลัวโดนโจมตี
ทั้งที่รัฐบาลน่าจะกล้ามากกว่านี้ในเรื่องการยอมรับการโจมตี
การรับจำนำแบบทุกเมล็ด  ก็ผิดพลาด  เพราะทำให้เกิดกระแสโจมตีเรื่องคุณภาพข้าว
                                                               ฯลฯ
นี่คือปัญหาที่ทำให้การระบายมีปัญหา   ทำให้รัฐเงินขาดมือในโครงการ   ทำให้รัฐมีภาระด้านงบประมาณมาก   ต้องกู้

เรื่องนี้   รัฐบาลต้องแก้ไข  หาตลาดให้เก่ง  ระบายข้าวให้ทัน
แต่เพราะการบริหารจัดการแย่   ตลาดเดิม ๆ ก็โดนรุม   โดนโจมตีในแง่ลบสารพัด
แก้เกมไม่ทัน  ได้แต่เงอะ ๆ งะ ๆ   บวกกระแสทุจริตเข้ามาอีก
อ่วมสิครับ

โครงการนี้  ผมเห็นว่าดีครับ   เห็นด้วย  สนับสนุน
ช่วยชาวนาน่ะ   กี่แสนล้านก็ช่วยไปเถอะครับ   ช่วยสถาบันการเงินมากกว่านี้ยังไม่ว่ากัน
แต่รัฐบาลต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการมากกว่านี้
ไม่ว่าเรื่องการระบาย   เรื่องการทุจริต   อย่าให้มีการรั่วไหลสูญเปล่า หรือให้มีน้อยที่สุด

ความจริงแล้ว  โครงการนี้  ผมเห็นว่ารัฐบาลควรตั้งเป้าไว้ให้ชัดว่าจะใช้เงินในโครงการเท่าไร
หากหมุนเงินทัน  ก็ดำเนินโครงการต่อไปเรื่อย ๆ ได้  แต่หากเงินหมด  ก็ต้องเลิก
แบบนี้ชาวนาจะรู้ครับ   ว่าหากรัฐเงินหมด  โครงการก็ต้องหยุด   จนกว่าจะระบายข้าวหาเงินมาใส่โครงการได้
อย่าใช้วิธีที่ใช้อยู่ตอนนี้  คือไม่รู้ว่าจะใช้เงินเท่าไร  และทำให้ชาวนา "อยากได้" ไม่สิ้นสุด

ผมยังให้โอกาสรัฐบาลครับ  เพราะตอนนี้  อย่างน้อยรัฐบาลยังมีข้าวในโกดัง
เร่งระบายซะ  ขาดทุนเท่าไรไม่ต้องกลัว  เปิดให้ประชาชนรู้
ไหวก็ทำต่อ   ไม่ไหวก็เลิก  รับผิดชอบความผิดพลาดทางนโยบายไป
ไม่มีรัฐบาลไหนหรอกครับที่ไม่ผิดพลาด


เรื่องการทุจริต
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยที่ฝ่ายค้านขุดคุ้ยข้อมูลมาแฉ   เห็นด้วยที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบเข้มข้ม
ซึ่งรัฐบาลต้องชี้แจงให้ได้   หากชี้แจงไม่ได้   มีการทุจริตเป็นแสน ๆ ล้านจริง
ก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายไป   ปฏิเสธไม่ได้

แต่มันทะม่อง ๆ ก็ตรงที่   การตรวจสอบของ ป.ป.ช. นั้น  มันชัดเกินไปในเรื่องการหาทางโค่นรัฐบาล
ไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อปกป้องผลประโยชน์แห่งรัฐ  แต่คือการโดดเข้ามาร่วมขบวนการโค่นล้มกัน

การทุจริตเรื่องนี้ผมมองว่ามีหลายทาง  เช่น
จ่ายเงิน  แต่ไม่มีข้าว
จ่ายเงิน  มีข้าว  แต่ข้าวใครไม่รู้
จ่ายเงิน  มีข้าว  เงินถึงชาวนา  แต่ข้าวหาย
จ่ายเงินกับข้าวเก่าที่เอามาหมุนจำนำหลาย ๆ รอบ
ระบายข้าวด้วยราคาต่ำเกินควรให้พวกพ้องหรือพ่อค้าที่สมรู้ร่วมคิดไปฟันกำไร
                                               ฯลฯ
ซึ่งเมื่อฝ่ายค้านแฉ  กล่าวหา   รัฐบาลก็ต้องตอบให้ชัด
เรื่องนี้  ผมว่าฝ่ายค้านเองก็แฉไม่ชัด  คือดีแต่แฉ หลักฐานจะ ๆ ชัด ๆ ยังไม่มี
รัฐบาลก็ชี้แจงไปแบบงู ๆ ปลา ๆ
มันก็เลยมึน ๆ ว่า  ที่ฝ่ายค้านว่าน่ะจริงไหม   ที่รัฐบาลอึก ๆ อัก ๆ น่ะเพราะทุจริตจริงไหม

ในส่วนตัวผม  ผมเชื่อว่ามีการทุจริตครับ   
และรำคาญรัฐบาลเหมือนกัน  ที่ไม่เชือดไก่ หรือจับโจรให้ได้ชัด ๆ สักที  
มีแค่ข่าวว่าดำเนินคดีอยู่หลายสิบคดีแบบแผ่ว ๆ   ทำให้มองว่าไม่จริงจังกับการป้องปรามปราบการทุจริต
ทำให้สังคมอดมองไม่ได้ครับ  ว่ารัฐบาลรู้เห็นเป็นใจหรือไม่
เพราะจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน  หรือเพราะกลัวคนจับได้ไล่ทัน

ประเด็นที่เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ตอนนี้ก็คือเรื่อง ป.ป.ช. กับนายกฯยิ่งลักษณ์
เห็นด้วยครับที่ ป.ป.ช. เอาจริงในเรื่องนี้  แต่ดูจะขาดความเป็นธรรมเยอะเหลือเกิน

ขี้เกียจสาธยายครับ  ว่า ป.ป.ช. ปฏิบัติในเรื่องนี้กับนายกฯยิ่งลักษณ์ยังไง
เพราะประเด็นมันง่าย ๆ ครับ   ว่าหาก ป.ป.ช. มีหลักฐานเจ๋ง ๆ
ไม่รีบไม่เร่ง  นายกฯยิ่งลักษณ์ก็เสร็จแน่ ๆ   ช้าไปอีกสักสามเดือนหกเดือนหรือหนึ่งปีก็ไม่เห็นเป็นไร
นี่เล่นประกาศโครม ๆ ตั้งแต่กลางปี 55 โน่น  ว่าไม่เกินหนึ่งปีจากนี้ต้องมี รมต.ติดคุก
แต่ตอนนี้  ปี 57   ยังไม่มี รมต.โดนชี้มูล   กลับมาเล่นนายกฯก่อนใครให้ได้ซะงั้น
ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลมาตลอด   มันผิดหลักการตรวจสอบครับ

เมื่อย  ขี้เกียจ  (ว่าตั้งใจจะเขียนดี ๆ กว่านี้  แต่พอลงมือเขียนก็ขี้เกียจขึ้นมาดื้อ ๆ  ก็เอาแบบนี้แหละครับ)

สรุปว่า   ผมเห็นด้วยกับโครงการนี้   
เห็นว่ารัฐบาลสามารถปรับปรุงแก้ไขให้โครงการดีขึ้นกว่านี้   ลดภาระด้านงบประมาณได้ดีกว่านี้
ไอ้ที่ว่า  ขาดทุนไปห้าหกแสนล้านนั้น  ผมมองว่าจิ๊บจ๊อยครับ
เพียงแต่รัฐบาลต้องให้ชัดว่า  ที่เรียกว่า "ขาดทุน" ตอนนี้  เงินก้อนนี้ไปอยู่กับชาวนาจริง ๆ  ไม่ใช่เข้ากระเป๋าใคร

เงินถึงมือชาวนาจริง ๆ  หลายแสนล้านนี่   ดีนะครับ   กระตุ้นการบริโภคได้มหาศาล  เงินหมุนไป  
ส่งผลย้อนกลับมาในทางบวกต่อภาวะทางการคลังของรัฐบาลเอง

จบดื้อ ๆ งี้แหละ   เมื่อยนิ้ว
ต่อไปจะนั่งรอคอยเถียงกับผู้เห็นต่างครับ
อมยิ้ม01
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่