อายัดทรัพย์-สกัดหนี แก๊งโกงจำนำข้าวต้องใช้กรรม!....ผ่าประเด็นร้อน ... แนวหน้าออนไลน์ .../sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม
นับเป็นอาการของคนที่จำนนต่อความจริงและวิบากกรรมเมื่อ 2 รัฐมนตรี ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นจำเลยในคดีมหกรรมโกงซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีผลพวง
โครงการรับจำนำข้าวสุดอื้อฉาวคือนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ
สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ใช้ลูกไม้เดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดระบอบแม้ว ที่หนีการเคลียร์ข้อกล่าวหาต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อนที่สนช.นัดชี้ชะตาลง
มติถอดถอนในวันที่ 8 พ.ค.นี้

สำหรับน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นใช้กรรมพิษโครงการรับจำนำข้าวไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อที่ประชุมสนช.
มีมติด้วยเสียงท่วมท้นให้ถอดถอนซึ่งผลที่ตามมาคือถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี นอกจากนี้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังถูกฟ้องดำเนินคดีทางอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง
ทางการเมืองข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการโกงโครงการรับจำนำข้าว
ครั้งมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โดยโทษสูงสุด
ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ คือจำคุก 10 ปีและยังจะถูกฟ้องแพ่งให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่แผ่นดินมูลค่า
กว่า 6 แสนล้านบาท

ในกรณีของ นายบุญทรง และ นายภูมิ นั้น สมาชิกตั้งคำถามและข้อสงสัยที่มีสาระสำคัญ
กรณีทุจริตซื้อขายข้าวแบบจีทูจีสรุปได้ว่าการที่อ้างว่ามีการขายข้าวให้กับรัฐบาลจีนผ่าน
บริษัทไห่หนานและบริษัทกวางตุ้งมีหลักฐานยืนยันหรือไม่ว่าเป็นการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจริง ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีหลักฐานยืนยันอยู่แล้วเพราะเป็นการซื้อขายข้าวแบบปลอมๆ ที่มีการจัด
ฉากขึ้นมาเพื่อโกง โดยก่อนหน้านี้ ศ.วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในฐานะผู้รับผิดชอบสอบสวนคดีโกงข้าวจีทูจีถึงกับลงทุนบินไป
พบกับรัฐมนตรีด้านการตรวจสอบของจีนเพื่อขอคำยืนยันและข้อมูลเชิงลึกมัดขบวนการโกง ซึ่งได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีจีนว่าไม่มีการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีอย่างที่มีการจัดฉาก

นอกจากนี้ข้อมูลหลักฐานที่มัดขบวนการโกงข้าวจีทูจีก็คือมีการซื้อข้าวในราคาถูกกว่า
ตลาดแล้วไม่ได้มีการส่งออกจริง แต่กลับนำมาเล่นแร่แปรธาตุอำพรางด้วยการขายให้
กับบริษัทนอมินีที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลชินแล้วนำไปขายต่อในราคาแพง
เพื่อกินส่วนต่างกำไรตามโครงการรับจำนำข้าวทำให้รัฐเสียหายเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท

เพราะฉะนั้น แนวโน้มการลงมติถอดถอนของ สนช.ในวันที่ 8พ.ค.นี้ คงพอจะคาดเดาได้ไม่ยาก
เนื่องจากสนช.ให้โอกาสชี้แจงแล้ว แต่กลับหนีเคลียร์ข้อหาตัวเองสะท้อนพิรุธอันจะทำให้บรรดา
สมาชิกสนช.ตัดสินใจลงมติถอดถอนได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเมื่อตอนลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์

นายบุญทรง และนายภูมิ กำลังจะเดินตามเส้นทางกฎแห่งกรรมเหมือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ผิดเพี้ยน คือแนวโน้มถูกถอดถอนและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี แต่ที่สำคัญกว่าคือคดีโกงซื้อขายข้าวแบบ
จีทูจีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วเช่นกัน โดยโทษสูงสุดสำหรับรัฐมนตรีที่ทุจริตคือจำคุกตลอดชีวิต และยังต้องเจอการถูกฟ้องแพ่งชดใช้
ความเสียหายแก่แผ่นดินมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท

เพราะฉะนั้นจากผลกรรมมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความหายนะ
ล่มจมให้ประเทศครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์กำลังจะตามเช็คบิลและคงได้เห็นคนระดับ
นายกฯและรัฐมนตรีติดคุกกันยกก๊วนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำหรับรัฐก็คือ
ควรจะอายัดทรัพย์จำเลยในคดีจำนำข้าวทั้งหมดเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทซ่อนเร้นทรัพย์สินมูล
ค่ามหาศาลที่ปล้นไปจากแผ่นดินและควรป้องกันไม่ให้มีการหลบหนีซ้ำรอยใครบางคนในอดีตที่เป็น
นักโทษหนีคุกคดีทุจริตที่จนบัดนี้ยังเร่ร่อนเป็นสัมภเวสีอยู่ในต่างแดน

ทีมข่าวการเมือง

http://www.naewna.com/creative/156232



สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่