เมื่อข้าพเจ้าลืมบัตรเซเว่นฯและบัตรถูกใช้งานโดยพนักงานเซเว่นฯ

ยาวหน่อยนะคะ      
            บัตรเซเว่น แวลู การ์ด ที่ข้าพเจ้าพกติดตัวเป็นประจำหายไป คาดว่าคงมีการตกหล่นหรือหลงลืมบัตร ข้าพเจ้าจึงไปถามที่ร้านเซเว่นที่ใช้บริการเป็นประจำ (สาขา 3822 ด่านสำโรงซอย 20) ว่า พบเห็นหรือมีใครเก็บบัตรแล้วเอามาฝากบ้างไหม คำตอบที่ได้คือ ไม่มี

             วันที่ 8/1/14
              ข้าพเจ้าจึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ของเซเว่น เพื่อแจ้งว่าบัตรหาย แต่จากการพูดคุยกับพนักงานพบว่ายังไม่มีรายการใช้บัตรเกิดขึ้นพนักงานจึงแนะนำว่าให้กลับไปค้นหาดูอีกครั้ง

              วันที่ 22/1/14 เวลาประมาณ 18:00-19:00
              ข้าพเจ้าจึงโทรไปคอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง พบว่าบัตรมีรายการใช้หลายครั้ง ที่สาขา 3822 ด่านสำโรงซอย20 ข้าพเจ้าได้สอบถามรายการซื้อว่ามีสิ่งใดบ้าง และถูกใช้ไปในวันใดบ้าง
              คอลเซ็นเตอร์ ได้แจ้งรายการซื้อ และวันเวลาที่บัตรถูกใช้งาน รายการสุดท้ายที่ซื้อคือ วันที่ 14/1/14 เวลา 22:28 น. ใช้ที่สาขา 3822 ด่านสำโรงซอย20  เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวข้าพเจ้ามั่นใจว่าบัตรได้สูญหาย จึงปรึกษาคอลเซ็นเตอร์ว่า จะทำอย่างไรได้บ้าง พนักงานแนะนำว่าให้แจ้งความ และแฟ็กซ์ใบแจ้งความมาที่บริษัท ทางบริษัทจะพิจารณาเรื่องการคืนแต้มให้

             ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 20:00 น.
             ข้าพเจ้าไปติดต่อที่สาขา 3822 ด่านสำโรงซอย20  เพื่อถามพนักงานว่ากล้องวงจรปิดของร้านสามารถบันทึกข้อมูลได้กี่วัน พนักงานชื่อ มา  แจ้งว่า บันทึกข้อมูลได้ 15 วัน พนักงานคนดังกล่าวได้ถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ข้าพเจ้าจึงแจ้งว่าบัตรหายและได้มาสอบถามสาขานี้หลายครั้งแล้ว คำตอบที่ได้รับทุกครั้งคือไม่มี แต่วันนี้คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่ามีการใช้บัตรที่สาขานี้ (ตามวันและเวลาข้างต้น) เมื่อเล่าเหตุการณ์แล้ว พนักงานที่ชื่อ มา ขอตัวไปปรึกษาผู้จัดการร้าน ข้าพเจ้าจึงกลับมารอผลที่บ้าน

              ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 22:00-23:00
               ข้าพเจ้ากลับไปสอบถามความคืบหน้ากับน้องมา (สังเกตใบหน้าน้องคล้ายคนร้องไห้)  จึงถามว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น น้องมาแจ้งว่า “ดูกล้องให้แล้ว เห็นว่าเป็นน้องในร้านกำลังใช้บัตรของพี่อยู่ แต่น้องย้ายไปอยู่สาขาพิษณุโลกแล้ว ได้โทรคุยกับน้องแล้ว (น้องชื่อ กุ้ง คือชื่อที่น้องมา บอก) น้องจะขอชดใช้คืนให้ แต่ขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องเลยเห็นแก่อนาคตน้อง เค้าจะไม่สามารถทำงานสาขาไหนได้อีกเลย และถ้าพี่เอาเรื่อง หนูก็โดนด้วยนะเพราะหนูเป็นหัวหน้า เดือนนี้หนูมีหลายเรื่องแล้วไหนจะเรื่องของในร้านหายอีก (โดนขโมย) หนูจะชดใช้คืนให้ แต่ขอเป็นสิ้นเดือนนะ” ข้าพเจ้าบอกว่าจะขอไปเช็คยอดเงินและแต้มก่อน และจะไปปรึกษาเจ้าของบัตร (พี่ของข้าพเจ้า) ได้ความยังไงจะมาบอกอีกครั้ง (ข้าพเจ้าเป็นผู้ถือบัตร แต่พี่เป็นเจ้าของบัตร)

                 23/1/14 เวลาประมาณ 15:00น.
                 ข้าพเจ้าเข้าไปที่เซเว่นสาขาดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าเจ้าของบัตรขอคุยกับน้องมาและน้องกุ้ง (ผู้ที่ถูกน้องมาอ้างว่าเป็นคนกระทำ) น้องมาขอเบอร์ของเจ้าของบัตร(พี่) ข้าพเจ้าจึงให้เบอร์ไป
                
                 ในวันเดียวกัน เวลา 15:37 น.
                 พนักงานเซเว่นที่ชื่อน้องมา ได้โทรหาพี่ของข้าพเจ้า (เจ้าของบัตร) เนื้อหาในการสนทนาครั้งนั้น คือ ในฐานะที่น้องเป็นหัวหน้าและค้ำประกันน้องกุ้ง (ผู้ที่น้องมาบอกว่าเป็นผู้กระทำ) เข้าทำงาน ขอยอมรับผิดแทนน้องกุ้ง ขอโทษและขอให้เห็นใจ อย่าเอาเรื่องราว พร้อมทั้งสัญญาว่าจะให้น้องกุ้งชดใช้ค่าเสียหายแต่ขอเป็นสิ้นเดือน (โดยจะให้น้องโอนมาให้ เพราะน้องกุ้งได้ย้ายไปทำเซเว่นที่สาขาพิษณุโลก)
พี่ของข้าพเจ้า ได้ฟังก็เห็นใจน้องมา จึงบอกว่าให้น้องกุ้ง (ผู้ที่น้องมาบอกว่าเป็นผู้กระทำ) โทรมาพูดขอโทษด้วยตัวเอง และถ้าน้องรู้สึกผิดในสิ่งที่กระทำ และพร้อมจะรับผิดชอบก็จะไม่ติดใจเอาความ

                  ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 17:00 น.
                  น้องกุ้ง (ผู้ที่น้องมาบอกว่าเป็นผู้กระทำ) ได้โทรหาพี่ของข้าพเจ้า (เจ้าของบัตร) เนื้อหาในการสนทนา คือ น้องเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เห็นบัตรอยู่หลังเคาน์เตอร์ (บริเวณนั้นจะเก็บบัตรที่ลูกค้าลืมไว้) จึงแอบหยิบมา แต่ยังไม่ได้ใช้ในทันที หลายวันต่อมาช่วงนั้นไม่มีเงินจึงเอาไปใช้ (รายการใช้ครั้งแรกเกิดขึ้น วันที่10/1/14 เวลา 16:21 น.) น้องกุ้งขอโทษ และบอกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก และยินดีที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ พี่ของข้าพเจ้า(เจ้าของบัตร) ได้ฟังก็สงสารและยินดีจบเรื่อง น้องกุ้งบอกจะโอนเงินมาคืนในวันสิ้นเดือน (ที่ต้องโอนเพราะน้องบอกว่าอยู่พิษณุโลก)

                   24/1/14 เวลา 16.00 น.
                   พี่ของข้าพเจ้า (เจ้าของบัตร) ได้บันทึกเบอร์น้องกุ้งลงในโทรศัพท์ และได้ลองเปิดโปรแกรมไลน์ เพราะอยากเห็นหน้าน้องกุ้ง (พี่ของข้าพเจ้า ไม่เคยใช้บริการเซเว่นสาขานี้ จึงไม่เคยพบเห็นน้องกุ้งมาก่อน ต่างจากข้าพเจ้าที่ใช้บริการเซเว่นสาขานี้เป็นประจำ จะค่อนข้างคุ้นหน้า) หลังจากเห็นรูปน้องกุ้งแล้ว พี่ของข้าพเจ้า (เจ้าของบัตร) ได้ส่งรูปน้องกุ้งมาให้ข้าพเจ้าดู เมื่อข้าพเจ้าเห็นก็ตกใจ เพราะน้องกุ้งในรูป ยังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ในสาขาที่เกิดเหตุ ข้าพเจ้าได้บอกเรื่องนี้กับพี่ (เจ้าของบัตร) หลังจากนั้นพี่ของข้าพเจ้าได้พยายามโทรหาน้องทั้งสอง(น้องกุ้ง น้องมา) หลายครั้งก็ไม่มีใครรับสาย

                   ในวันเดียวกัน เวลา 20.15 น.
                   ข้าพเจ้าได้เดินไปที่เซเว่น และยังพบเห็นน้องกุ้ง (ชื่อที่น้องมาบอกว่าเป็นผู้กระทำและเป็นคนเดียวกับในรูปที่พี่ของข้าพเจ้าส่งมาให้ดู) ยืนปฏิบัติงานอยู่หลังเคาน์เตอร์ ข้าพเจ้าซื้อสินค้า และในขณะชำระเงินข้าพเจ้าได้ถาม ชื่อของน้อง น้องตอบว่าชื่อฝนค่ะ ข้าพเจ้าจึงเล่าเหตุการณ์ให้พี่เจ้าของบัตรฟัง

                    ในวันเดียวกัน เวลา 20.30 น.
                    พี่ของข้าพเจ้า (เจ้าของบัตร) ได้โทรไปที่ร้านเซเว่น สาขาดังกล่าว เพราะอยากทราบความจริงที่เกิดขึ้น น้องฝนเป็นผู้รับสาย เมื่อพี่เจ้าของบัตรได้ยินเสียง จึงแน่ใจว่าน้องฝนกับน้องกุ้งนั้นเป็นบุคคลเดียวกัน เมื่อพยายามถามความจริงกับน้องฝน น้องฝนทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นและไม่เข้าใจในสิ่งที่พูด
                    พี่เจ้าของบัตรจึงขอพูดกับผู้จัดการ โดยสอบถามข้อมูลและเบอร์โทรของน้องกุ้ง ซึ่งเมื่อได้รับข้อมูลก็ไม่ตรงกับเบอร์ที่โทรมาก่อนหน้านี้ พี่เจ้าของบัตรจึงขอเบอร์ของน้องฝน น้องฝนบอกว่าจำเบอร์ไม่ได้ จนทางร้านต้องให้น้องฝนโทรเข้าเบอร์ร้าน เมื่อผู้จัดการแจ้งเบอร์ก็ไม่ตรงกับเบอร์ที่โทรมาอีก ก่อนวางสาย พี่เจ้าของบัตร ได้ฝากผู้จัดการให้บอกน้องฝนว่า ให้น้องรีบโทรมา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

                   หลังจากวางสายจากผู้จัดการสาขา พี่เจ้าของบัตรได้โทรหา น้องกุ้งตัวจริง (ผู้ที่ถูกน้องมาและน้องฝนกล่าวหา) แค่ได้ยินเสียงก็แน่ใจว่านี่เป็นการพูดคุยกับน้องกุ้งครั้งแรก เมื่อเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้น้องกุ้งฟัง น้องไม่รู้เรื่องและตกใจกับสิ่งที่เพื่อนร่วมงานกระทำต่อตน น้องได้เล่าข้อมูลเกี่ยวกับน้องทั้งสอง(น้องมา น้องฝน) ให้ฟังในหลายเรื่อง ก่อนวางสายได้บอกให้น้องไม่ต้องกังวล และขอบคุณที่ให้ข้อมูล

                    ในวันเดียวกัน เวลา 22:02 น.
                    น้องฝนได้โทรมาหาพี่เจ้าของบัตร และต่อว่าที่โทรเข้าไปที่ร้าน พี่เจ้าของบัตรบอกน้องว่า ความผิดของน้องหลายข้อนัก
น้องขโมยบัตรพี่ น้องโยนความผิดให้เพื่อน น้องโกหกในหลายๆเรื่อง น้องบอกจะรับสายตลอดไม่หนีไปไหน น้องก็ไม่รับสาย และตอนนี้น้องฝนยังมาต่อว่าพี่อีก จะให้พี่ทำยังไง พี่สงสารและให้โอกาสน้อง แล้วน้องทำกับพี่ยังไง
                     ช่วยเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟังหน่อย น้องฝนขอโทษและเล่าเรื่องจริง (มั้ง)ให้ฟัง (เรื่องที่น้องเล่าไม่เคยตรงกันซักครั้งและทั้งสองคนก็พูดไม่ตรงกัน) สักพัก น้องมาก็มาพูดสาย น้องขอโทษและบอกว่าจะคืนเงินให้เลยไม่ต้องรอสิ้นเดือน อยากขอให้เรื่องจบ พี่เจ้าของบัตร ยังไม่ให้คำตอบใดๆ และบอกให้น้องโทรมาฟังคำตอบพรุ่งนี้

                       ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 23:00 น.
                       น้องฝน (ผู้ที่ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง) เดินมาพบข้าพเจ้าที่หน้าบ้าน (บ้านข้าพเจ้าอยู่ใกล้ๆ เซเว่นสาขานี้) เพื่อขอโทษที่ได้กระทำผิด และขอให้ข้าพเจ้าช่วยพูดกับพี่ (เจ้าของบัตร) ข้าพเจ้าจึงแสดงความประสงค์ว่า ขอดูกล้องวงจรปิดของที่ร้านในช่วงเวลาที่น้องใช้บัตร น้องฝนบอกว่า พรุ่งนี้ให้เข้าไปที่ร้านในเวลา 20:00 น. หลังผู้จัดการกลับจะให้พี่มาเปิดให้ดู

                         25/1/14   เวลาประมาณ 20:00 น.
                         ข้าพเจ้าไปที่เซเว่น (สาขาที่เกิดเหตุ) พร้อมขอดูวงจรปิด ตามที่ได้ตกลงไว้เมื่อวาน น้องฝนแจ้งว่าผู้จัดการไม่ให้ดู ข้าพเจ้าจึงบอกว่า เมื่อวานเราได้ตกลงกันแล้วว่าจะให้พี่มา เปิดให้ดู ทำไมถึงกลับคำ และที่บอกว่าจะโทรหาพี่เจ้าของบัตร (พี่สาว) ได้โทรหรือยัง น้องฝนตอบคำถามข้าพเจ้าด้วยคำพูดและท่าทางที่เปลี่ยนไป (เสียงแข็งและทำท่าไม่สนใจ) ว่าให้ดูไม่ได้ และถ้าอยากดูก็ไปแจ้งความ ฝากบอกพี่เจ้าของบัตรด้วยว่าโทรศัพท์ไม่มีเงิน ไว้มีเงินจะโทรไป

                         ข้าพเจ้าจึงขอชื่อและนามสกุลของน้องฝนกับน้องมา น้องทั้งสองบอกว่าให้ไม่ได้ค่ะ เป็นนโยบายของบริษัทไม่ให้บอกชื่อนามสกุล ข้าพเจ้าจึงบอกว่า เป็นไปไม่ได้ น้องทุกคนในร้านคล้องป้ายชื่อ สามารถขอดูชื่อคนไหนก็ได้ น้องทั้งสองยังยืนยันว่าเป็นนโยบายบริษัท
                        ข้าพเจ้าจึงถามน้องว่าแน่ใจใช่ไหม และข้าพเจ้าจึงหันหลังกำลังจะเดินออกจากร้าน ในขณะนั้นมีเสียงดังเกิดขึ้น (คล้ายเสียงทุบโต๊ะหรือชั้นวางสินค้า) ข้าพเจ้าจึงหันไป ภาพที่พบคือน้องฝนกำลังเอามือไปจับน้องผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานในร้าน (ไม่ทราบชื่อ) และพูดว่าใจเย็นๆ
                        ข้าพเจ้าไม่ได้ชื่อและนามสกุลน้องทั้งสองมา แต่โชคดีที่วันที่น้องโทรไปหาเจ้าของบัตร(พี่สาว) ได้ถามชื่อ นามสกุลของน้องทั้งสองไว้แล้ว  

                        ในวันเดียวกัน เวลา 21:00-24:00  ข้าพเจ้ากับเจ้าของบัตรได้เดินทางไปแจ้งความ ที่สถานีตำรวจสำโรงเหนือ เจ้าหน้าที่รับแจ้งความ พร้อมออกใบขออนุญาตบันทึกกล้องวงจรปิด
                        
                       วันเดียวกัน เวลา 23:50 น. ข้าพเจ้ากับเจ้าของบัตรและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาเซเว่นสาขาดังกล่าวพร้อมนำใบแจ้งความและใบขออนุญาตบันทึกกล้องวงจรปิด มาแสดงแต่พนักงานในร้าน (น้องมา น้องฝนไม่อยู่) แจ้งว่าผู้จัดการไม่อยู่เปิดไม่ได้และผู้จัดการจะมาวันจันทร์ และถ้าผู้จัดการไม่ให้เปิดก็เปิดไม่ได้ ต้องทำเรื่องถึงสำนักงานใหญ่ และมีจดหมายจากสำนักงานใหญ่มาจึงจะเปิดได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่