[Spoil] ช้อนเงินคนแปรธาตุ (Silver Spoon) อนิเมซีซั่นสอง #3 - จงเรียกข้าว่าม้าเมพซะ!!! เจ้ามนุษย์!!!

กลับมาพบกันในสัปดาห์นี้อีกครั้งนะครับ ยิ้ม

อาทิตย์นี้เจองานนอกยุ่งๆ เข้าไปเป็นชุดๆ จนไม่มีเวลาเขียน Spoil เรื่องย่อของภาคมังงะตอน 95 เลย เลยแอบหนีมาทำของภาคอนิเมก่อนหลังเคลียร์เสร็จไปงานนึงครับ

อนึ่ง ตอนนี้ผมจะพยายามเอาแต่เนื้อหาหลักๆ ของตอนมาใส่ ไม่ใส่พวกฉากที่เป็นมุกตลกต่างๆ เช่น ฉากตลกที่ไม่สำคัญหรือไม่จำเป็นลงไปมากนักนะครับ เพื่อไม่ให้กระทู้ยาวจนเกินไป

ว่าแล้วก็ไปชมกันได้เลยครับ


อนึ่ง ขอความร่วมมือทุกท่านที่อ่านถึงเนื้อเรื่องหลังๆ แล้วเช่นเคย ช่วยใส่แท็กสปอยล์หากต้องการพูดถึงเนื้อเรื่องช่วงถัดไปด้วยนะครับ







เปิดตอนมาที่ฉากอ.โจลี่ VS เจ้ารองประธาน





ฉากผ่านเข้าเป็นตัวแทนกลุ่ม B ของทีมเบสบอลเอโสะโน





และฉากชมรมขี่ม้าคิดอีเวนท์ออกงานโรงเรียน


จากนั้นก็มาถึงฉากฝึกขี่ม้าของชมรมศิลปะการขี่ม้าของพวกบักแว่น



อ.นากาจิมะเห็นเด็กใหม่แต่ละคนฝึกขี่ขั้นพื้นฐานจนแน่นแล้ว งวดนี้เลยให้ลองเพิ่มความยากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

นั่นคือ...ขี่ม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง



เด็กใหม่แต่ละคนต่างหวั่นใจเป็นแถบๆ เพราะไม่รู้ว่าจะทำกันได้มั้ย อ.นากาจิมะเห็นเด็กใหม่ท่าทางกลัวๆ กันก็ให้กำลังใจแค่คำเดียวว่า "เชื่อใจม้าเถอะ" แล้วปล่อยให้เด็กใหม่กับม้าทดลองข้ามสิ่งกีดขวางกันทีละคู่

โดยเริ่มจากบักแว่นกับเจ้ามารอนเป็นคู่แรก



แต่ผลคือ...โดดแป้ก เพราะเจ้ามารอนดันไม่ยอมโดดข้ามแต่เบนออกนอกเส้นทางเอาดื้อๆ เม่าในกองไฟ




ในขณะที่เพื่อนๆ สมาชิกใหม่คนอื่นโดดรอบแรกผ่านกันหมดทุกคนแบบชิลๆ






บักแว่นเห็นเพื่อนๆ โดดผ่านกันหมดตั้งแต่รอบแรกก็เริ่มซีด หันไปกระตุ้นมารอนให้โดดอีกครั้ง



แต่ก็ยังแป้กเหมือนเดิม



ส่วนเพื่อนๆ โดดรอบสองผ่านกันชิลๆ อย่างเคย แถมยังหันไปคุยกันเองอีกว่าง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะเลย

ทำเอาบักแว่นถึงกับจิตสับสนคิดไปถึงสมัยเรียนม.ต้นที่ตัวเองถูกเพื่อนๆ ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่นเรื่องการเรียน




เลยพยายามกระตุ้นให้มารอนวิ่งโดดอีกครั้ง ผลคือคราวนี้เจ้ามารอนไม่ยอมวิ่งเอาดื้อๆ เลยแม้จะกระตุ้นสีข้างกี่ครั้ง จนบักแว่นเริ่มหงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ

ประธานชมรมเห็นบักแว่นชักจะเริ่มสติหลุดแล้วก็เข้ามาหาบอกให้เปลี่ยนให้อากิลองขี่มารอนดู ซึ่งก็โดดข้ามได้อย่างง่ายดายผิดกับตอนให้บักแว่นขี่ลิบลับ (แถมยังจอดแบบนิ่มๆ ให้อีกต่างหาก)




บักแว่นก็แย้งว่าเพราะอากิขี่ม้าเก่งต่างหากถึงได้ทำได้แบบนั้น คราวนี้เลยลองให้ซาคาเอะสมาชิกใหม่ของชมรมอีกคนที่เข้ามาพร้อมกับบักแว่นลองขี่มารอนดู ปรากฏว่าโดดข้ามได้อย่างง่ายเช่นกัน



งานนี้บักแว่นเลยซีดยิ่งกว่าเดิม พยายามขึ้นขี่มารอนโดดข้ามรั้วอีกครั้งหวังจะบังคับให้โดดข้ามให้ได้ซักครั้งก็ยังดี แต่ไม่ว่าจะลองอีกกี่ครั้งก็ยังโดดแป้กตลอดจนบักแว่นหงุดหงิดหาว่ามารอนขี้เกียจทำงาน

แต่อ.นากาจิมะกับอดีตประธานชมรม (โดดหางานมาขลุกอยู่กับชมรมอีกแล้ว) กลับไม่คิดแบบนั้น และบอกว่า มารอนก็ตั้งใจทำงานดีอยู่



ลงเอยบักแว่นก็บังคับมารอนให้โดดไม่ได้เลยจนเลิกชมรม ยิ่งมาได้ยินเพื่อนๆ เด็กใหม่มาจับกลุ่มคุยกันว่าโดดง่ายอย่างโน้นง่ายอย่างนี้ก็ยิ่งนึกไปถึงความทรงจำสมัยเรียนม.ต้นที่ตัวเองล้าหลังกว่าเพื่อนจนยิ่งจิตตกกว่าเดิม





หลังทุกคนกลับไปกันหมด บักแว่นก็ไปปรึกษากับอากิเรื่องทำยังไงถึงจะบังคับม้าให้กระโดดได้ คุยไปคุยมาบักแว่นก็ขอเปลี่ยนม้าที่ขี่อยู่เผื่อจะช่วยให้โดดได้บ้าง (เริ่มโทษปี่โทษกลองว่างั้นเหอะ) อากิก็ยอมรับว่าถ้าเปลี่ยนม้าเป็นตัวอื่นที่ไม่ใช่มารอน บักแว่นก็คงกระโดดได้ แต่อากิก็บอกต่อว่าไม่แนะนำให้ทำอย่างนั้นนะ บักแว่นก็ถามว่าทำไม อากิก็ทำท่าลังเลบอกว่าเรื่องพวกนี้ถึงอธิบายเป็นคำพูดไปก็ไม่เห็นภาพหรอก ต้องลองสัมผัสด้วยตัวเองขณะที่ขี่ ตัวมารอนเองก็คงอยากให้บักแว่นเข้าใจถึงเรื่องนี้ ถึงได้ไม่ยอมกระโดดในตอนนั้น

ได้ยินดังนั้น บักแว่นก็ตีความเอาเองว่าจะทำได้ก็ต้องขี่ม้าสัมผัสม้าให้มากๆ จนเข้าใจในตัวม้า เลยจะไปขออ.นากาจิมะฝีกขี่นอกเวลา อากิเห็นบักแว่นคิดแต่จะตะบี้ตะบันฝึกไม่สนสภาพร่างกายม้าก็โมโหปรี๊ดขึ้นมา ตะคอกใส่บักแว่นว่าทำแบบนั้นขืนม้าเหนื่อยจนอ่อนแอหรือบาดเจ็บขึ้นมาละก็มีหวังโดนส่งไปโรงเชือดแน่

"มันเป็นการแข่งที่คนคนเดียวทำอะไรไม่ได้นะ ต้องคิดถึงม้าด้วย!!"





บักแว่นเจอตอกเข้าไปแบบนั้นก็เถียงไม่ออก ได้แต่ยืนฮึดฮัดกัดฟันกรอดๆ อย่างไม่พอใจอยู่อย่างนั้น ในขณะที่อากิก็จ้องตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน

โชคดีที่อ.นากาจิมะเข้ามาขัดจังหวะก่อนต่างฝ่ายจะทันเริ่มยกสอง ทั้งสองเลยขอโทษอาจารย์แล้วเก็บของกลับออกจากชมรมไป

ระหว่างทางกลับหอ บักแว่นกับอากิต่างเงียบกันไปตลอดทาง ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาแม้แต่คำเดียว (หน้ายังไม่มองกันด้วยซ้ำ) แต่พอเดินไปได้สักพัก อยู่ๆ อากิก็หยุดเดินแล้วถามโพล่งขึ้นมาว่าวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้บักแว่นพอมีเวลามั้ย มีที่ที่อยากให้ลองไปดูสักครั้ง

ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นคลับขี่ม้าแถวบ้านอากิที่อากิเคยแวะไปใช้บริการบ่อยๆ สมัยยังอยู่บ้านนั่นเอง (ให้พ่ออากิพาไป)




โดยในวันที่บักแว่นกับอากิไปนั้นเป็นวันแข่งกระชับมิตรระหว่างคลับพอดี คนของคลับที่รู้จักกับอากิอยู่แล้วเลยถามว่าจะลงแข่งด้วยมั้ย ทีแรกอากิปฏิเสธ แต่ก็ลงแข่งหลังพ่อไปถามประธานคลับว่าจะลงแข่งกะทันหันได้มั้ย แล้วประธานตอบว่าไม่มีปัญหา

ระหว่างอยู่ในคลับ บักแว่นได้ยินอากิเม้าธ์กับบรรดาป้าๆ ที่มาคลับถึงไอ้หนุ่มที่ไหนไม่รู้ชื่อ "ทาคาคุระ" ทำเอาบักแว่นถึงกับป่วยเป็นโรคหูบานขึ้นมาทันควัน




ระหว่างอากิไปเตรียมตัวแข่งอยู่นั้น บักแว่นก็ไปดูคนอื่นแข่งในสนามไปพลาง แล้วก็สะดุดตาเข้ากับจ็อกกี้ตัวเล็กคนหนึ่งเข้า จ็อกกี้คนนั้นควบม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้อย่างรวดเร็วและยอดเยี่ยมจนบักแว่นถึงกับตะลึง พ่อบักแว่นก็กระซิบบอกว่าจ็อกกี้คนนั้นน่ะเพิ่งจะอยู่ม. 2 เองนะ ยิ่งทำเอาบักแว่นทึ่งเข้าไปใหญ่ ลงเอยพอมีโอกาสถึงได้ลองถามจ็อกกี้เด็กคนนั้นดูว่าขี่ม้ามากี่ปีแล้ว จ็อคกกี้ก็ตอบง่ายๆ ว่าขี่มา 7 ปีแล้ว บักแว่นได้ยินดังนั้นก็ถามต่อว่า ต้องขี่มานานขนาดนั้นเลยสินะถึงจะบังคับม้าได้ดังใจแบบนั้น

ทว่าแทนที่จะโอ้อวดความสามารถของตัวเอง จ็อกกี้เด็กกลับหันไปโอบหัวม้าอย่างรักใคร่แล้วบอกว่า "ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอก โรซานน่า (ม้า) ต่างหากที่สุดยอด"



ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงอากิร้องว่าต่อไปที่จะลงแข่งคือ "คุณทาคาคุระ" ป้าๆ ชมรมขี่ม้าได้ยินเข้าก็กรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถมๆ ทำเอาบักแว่นหันขวับไปดูด้วยสายตาอาฆาตว่าคุณทาคาคุระที่อากิกับบรรดาป้าๆ หลงใหลคนนั้นเป็นใครกันแน่

แล้วก็ถึงกับเงิบเมื่อพบว่า "คุณทาคาคุระ" ที่ว่า ที่แท้ก็คือ "ม้าพันธุ์ฮอกไกโด" (ภาษาญี่ปุ่นเรียก 道産子 ส่วนภาษาอังกฤษจะเรียก Hokkaido pony) นั่นเอง



โดดข้ามได้ชิลๆ ทั้งที่ตัวเตี้ยกว่าม้าทั่วไปมาก ทำเอาบักแว่นถึงกับทึ่งหันไปถามป้าๆ ที่เชียร์อยู่ข้างๆ ว่าคุณป้าคนขี่คนนั้นเป็นมือเก๋าเหรอ ถึงได้บังคับม้าตัวเล็กขนาดนั้นให้โดดข้ามรั้วขนาดม้าปกติได้ ป้าๆ ก็บอกว่าเปล่า ป้าคนนั้นแกเพิ่งขี่ม้ามาได้แค่ปีกว่าๆ เอง ที่ทำได้ขนาดนั้นก็เพราะได้ "คุณทาคาคุระ" ช่วยนั่นแหละ




คำพูดของป้าๆ ทำให้บักแว่นเริ่มเห็นภาพอะไรขึ้นมาได้ลางๆ



หลังจากนั้นก็เป็นการแข่งของอากิ อากิยังคงโชว์ฟอร์มความสดระดับท็อปสมเป็นมือดีของชมรมเช่นเคย






แต่ก็พลาดกระแทกไม้คานหล่นในจังหวะสุดท้ายจนได้ เลยโดนหักคะแนนไป 4 คะแนนทั้งๆ ที่ทำเวลาได้ดีแล้ว




แม้จะโดดพลาด อากิก็ไม่โทษม้าแม้แต่น้อย ตรงข้ามกลับขอบคุณเสียอีกที่ช่วยให้ทำเวลาได้ขนาดนี้ทั้งๆ ที่แข่งกะทันหัน

แม้แต่พ่ออากิก็ยังบอกเหมือนกันว่าที่อากิทำเวลาได้ขนาดนี้ก็เพราะได้ม้าช่วยไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่