ขอประเทศไทยจงอย่าได้แพ้เพราะอัตตาของข้าเลย!!

กระทู้สนทนา
ขอประเทศไทยจงอย่าได้แพ้เพราะอัตตาของข้าเลย
บทคัดย่อสกู๊ปพิเศษ โดยท่านสมณะเดินดิน  ติกขวีโร
จาก ข่าวอโศก ฉบับที่ 431 ปักษ์แรก พฤศจิกายน 2556

กับคำกล่าวที่ว่า “การโค่นระบบอบทักษิณนั้นยาก..แต่ที่ยากยิ่งกว่า คือการรวมตัวของฝ่ายประชาชนที่ต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณ”
ปัญหาเรื่องใหญ่ คือ อัตตาร้ายของแต่ละคนซึ่งทุกคนต่างก็รู้กันหมด แต่ไม่มีใครคิดจะลดอัตตาของตัวเองก่อน
หรือว่าอัตานั้นอยู่ที่ใครทำให้ตาของตนมืดบอดในการที่จะเห็นอัตตาร้ายของตน
แต่กลับสามารถมองเห็นอัตตาของคนอื่นใหญ่ยิ่งกว่าภูเขาเลากา ซึ่งอัตตานี้มีวิธีแก้อย่างเดียวเท่านั้น
คือ การมี ปรโตโฆสะและโยนิโสมนสิการ ที่จะรับฟังผู้อื่นให้มาก และนำไปพิจารณาให้ถึงก้นบึ้งแห่งอัตตาร้ายที่มีในตนให้ได้จริงๆ

อัตตาย่อยๆ ของฝ่ายรักบ้านรักเมือง ที่ทำให้ประชาชนกลายเป็นข้าวกล้องไร้สารพิษที่รวมตัวกันไม่ติด
เพราะต่างคนต่างดี ไม่สามารถเป็นข้าวเหนียวที่กลมเกลียวสามัคคีได้ คือ
1.    อัตตาแบบกูผู้วิเศษ!! สามารถพยากรณ์อะไรได้แม่นยำไปหมด ใครๆ ก็ผิด ถ้าไม่ได้ผิดแบบกู ถ้ากูไม่ได้ทำก็อย่าหวังว่าจะมีหน้าไหนทำได้สำเร็จ ขนาด “หลวงรอบรู้..ก็ยังเรียกพี่!!" จึงไม่มีอะไรที่ไม่รู้ ยกเว้น.. “รู้จักตัวเอง”  เท่านั้น
2.    อัตตาแบบฟ้าลิจิตก็มิอาจสู้กูคิดเอง!! เพราะกูคิดเก่ง กูจึงไม่ต้องทำอะไร โลกนี้แค่พูดให้ดี คิดให้ดีก็สำเร็จแล้ว
แค่คอยบอกว่า ใครทำอะไรถูกบ้าง ใครทำอะไรผิดบ้าง ก็ใช้ได้แล้ว เพราะที่ทำๆกันมายังไม่ใช่ระดับสุดยอดทั้งนั้นเลย
ต้องให้ไปศึกษาทฤษฎีพระมหาชนกที่ แม้ไม่เห็นฝั่งก็ไม่ขอหยุดทำความเพียร หรือประโยคทองที่บอกว่า “พระเจ้าจะมาช่วยผู้ที่ช่วยตัวเองก่อนเท่านั้น”
3.    อัตตาแบบอัศวินม้าขาว!! หรือวีรชนเอกชน สามารถเล่นคนเดียวได้เก่งแต่พอเล่นเข้าวงป่วน อยู่ที่ไหนพลอยจะพาวงให้วงแตกอยู่เรื่อย
ไปทำงานร่วมกับใครก็มักจะถูกระแวงว่า “แย่งซีนเพื่อน” ต้องฝึกปิดทองหลังพระให้มาก หรือทำตัวเป็นแจ๋วหรือผู้รับใช้ให้ได้อยู่เสมอๆ จะสามารถอ่านอัตตาชนิดนี้ได้
4.    อัตตาแบบต้องชนะเท่านั้น!! จึงทำให้ประเทศชาติกลายเป็นระบบธุรกิจที่เหล่านักลงทุนพากันจ้องดูว่า
ถ้าออกไปช่วยเหลือบ้านเมืองแล้ว ต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อนว่า คุ้มหรือไม่คุ้ม!! จะแพ้หรือจะชนะ
ถ้าสู้แล้วแพ้ ก็ต้องปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปแบบ “Let it be” ปล่อยให้มันพังไปเลย แล้วค่อยตั้งต้นกันใหม่
เลยทำให้ทฤษฎีนี้ไม่สามารถหาอิฐก้อนแรกได้ เพราะใครๆ ก็จ้องแต่จะเป็นยอดเจดีย์ที่สวยงามสง่า
แบบมาชุบมือเปิบเอาตอนยกสุดท้าย หรือเฉพาะตอนที่ได้ชัยชนะเท่านั้น
5.    อัตตาแบบรักสบายติดสบาย!! ซึ่งน่าจะเป็นต้นตระกูลใหญ่ของพวก “ไทยเฉย” ที่ใครจะเป็นจะตาย
บ้านเมืองจะพินาศวอดวายก็ไม่สนใจใยดี ขอเพียงแต่ตัวเองไม่เดือดร้อนก็พอ
แต่ลืมคิดไปว่าถ้าบ้านนี้เมืองนี้พัง แล้วเราจะไม่พังไปได้อย่างไร!!


ขอขอบคุณสาระดีๆ เป็นประโยชน์ข้างต้นที่ทำให้ต้องนำเสนอเรื่องนี้
ซึ่งอาจจะล่าช้ากว่าสถานการณ์ปัจจุบันไปบ้าง เพราะพี่น้องเราก็รวมตัวกันไปได้เยอะแล้ว
แต่จะขอนำเสนอให้พี่น้องที่มาร่วมรวมกันแล้วยัง ตะหงิดๆ ตะขิดตะขวงใจ ยังระแวง ไม่ไว้ใจ ฯลฯ
และให้พี่น้องที่ยังไม่ตัดสินใจใดๆ หรือตัดสินใจไปแล้วแต่อยากทบทวนอีกครั้ง
ได้ลองพิจารณา ทบทวนและถามตัวเอง..ว่าคุณเป็นแบบไหน หรือเป็นแบบ Mix mode หลายข้อ หรือแบบถูกทุกข้อ
นอกหนือจากนั้น อัตตาเรื่องนี้ไม่ใช่ใช้เฉพาะเรื่อง..แต่เราสามารถนำไปพิจารณาได้กับทุกสถานการณ์..ไม่ว่าในหมู่คนดี..หรือคนชั่ว
เมื่อเราเลือกอยู่ในหมู่กลุ่มที่คิดว่าดี..ทุกข์ของคนดีก็มีนะ เป็นโรคดีซ่าน เส้นยึดดีออกหน้า
ประเภทอยากให้ดีเกิด อยากให้เพื่อนได้ดี อยากให้ดีเกิด..หรือที่เรียก พรหม 3 หน้า
คือเป็นนักจัดการชีวิตของผู้อื่น (ทุกอย่าง) เป็นคนดีที่โลกไม่รัก ไม่รอ และไม่ต้องการ..

ในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ ถ้าคุณกำลังเป็นโรคอัตตาอย่างใดอย่างหนึ่ง..
ก็ขอบอกว่า คุณยังไม่เป็นที่ต้องการของมวลมหาประชาชนหรอกนะ..
เพราะมาก็รังแต่จะพาให้วงแตก ประมาณว่า “เข้าแก๊งค์ไหน หัวหน้าตายหมด”
อัตตาภาษาของข้าพเจ้า..ก็ไอ้อาการ ไม่ได้ดั่งใจอั๊วเลย ไอ้อาการขัดใจแม่ ไอ้อาการเอาแต่ใจตัวเอง ไอ้อาการเอาดีบังหน้า
เหตุผลเยอะ ดีไปหมด..สุดท้ายก็คือ อยากให้เป็นไป เป็นอยู่ เป็นอย่างที่ตัวเองอยากให้เป็น อยากให้ดีเกิด
“เหตุผลคือความบ้า..อัตตาคือความจริง” ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรู้ จึงต้องหมั่นพิจารณาตนเองเป็นเนืองนิจ

ลองปล่อยสบายๆ ให้เป็นไปตามธรรมชาติ ตามเหตุ ปัจจัย และองค์ประกอบ โดยที่เราแค่ทำให้เต็มที่ ทำให้เต็มกำลัง เต็มหัวใจที่ใจมี และมีใจ ผลที่ได้จะเป็นอย่างไร ก็ตามนั้น..ก็ว่ากันไป ดูกันไป..เสนอแนะอะไร..ก็บอก กล้าเตือนกันซึ่งหน้า หรืออาศัยผู้ที่เขาน่าเชื่อถือศรัทธาบอกต่อ ถ้าคิดว่าบารมีตัวเองไม่มี หรือยังไม่ถึง..พูดไปอาจจะทำให้เสียมากกว่าเกิดประโยชน์ อย่าได้เผลอประพฤติตนแบบเจ้าพุดเดิ้ล เห่าเสียงแหลม..แต่อยู่หลังเจ้าของ..หรือเห่าแล้วเตรียมหันหัววิ่งเข้าบ้าน
แค่ลองทำด้วยใจจริง ด้วยจริงใจ..ตามภูมิของคุณ..ก็ยอดเยี่ยมแล้ว..พี่น้องเอ้ยยยยยย
ส่วนข้าพเจ้านำมาเล่าสู่ฟัง เพียงเพราะจริงใจ ใจจริง..ตามภูมิของตัวเอง..สุดแล้วแต่พี่น้องจะพิจารณาเด้อ
เอวัง!!

โดย ประชาชน..ตีนเปล่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่