ของกิน กับความเสียนิสัยของผม

กระมู้นี้จะว่านินทาคุณยายที่เสียไปแล้วก็ได้

ต้องเกริ่นก่อนว่าคุณยายผมแกเป็นผู้ดีเก่า (แต่กูเป็นกุ๊ยคับ มีไรแมะ )

เรื่องของกินเนี่ย คุณยายจะมีสูตรเยอะมาก สมัยก่อน พอถึงหน้ามะม่วง ที่บ้านจะมูนข้าวเหนียวเอง แล้วทำแจก แต่ผมไอ้พวกเด็กๆเนี่ย ไม่ได้กินหรอกเนื้อมะม่วงเนี่ย แทะเม็ดไป -*-

อย่างนึงที่เป็นตัวอย่างของความเสียนิสัยได้ดีมากๆคือเต้าฮวยน้ำขิง

สมัยคุณยายยังอยู่ จะต้มเอง ขิงจะแก่มากๆ ต้มมาต้องกินร้อนๆ แล้วเด็กๆผมจะกินไม่ได้เพราะเผ็ดมาก แต่พอโตขึ้นมา บอกตรงๆว่ากินน้ำขิงที่ไหนก็ไม่สะใจ ทำไมมันไม่ร้อน ทำไมมันไม่เผ็ดเลยวะั -*-

คุณยายจะมีวิธีทำอาหารที่ไม่ค่อยเหมือนรานทั่วๆไป เช่น กุนเชียง จะไม่ทอด จะย่างเอา และปลาสลิดก็ไม่ทอด จะย่างเตาถ่าน แล้วปลาสลิดจะเป็นคนขับรถเลือกมา( ชื่อน้าศักดิ์ อยู่กับที่บ้านมาไม่ต่ำกว่า30ปี เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก)

ปลาสลิดจะย่างกับเตาถ่าน แล้วจะหอมมาก เนื้อจะนิ่ม แล้วมันที่พุงจะเยิ้มๆ หอมมากๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ

ที่บ้านไม่เคยซื้อครองแครงกินครับ ปั้นแล้วทำกันที่บ้านเลย กะหรี่ปั๊ฟ ก็เช่นกัน นั่งนวดแป้งแล้วห่อ แล้วทอดกันเองเลย

(โชว์สกิลนิด เด๋วจะหาว่าโม้ 5555) กะหรี่ปั๊ฟเนี่ยที่เวลาทอดแล้วแป้งมันล่อนออกมาเป็นแผ่นๆ เพราะตอนนวดแป้งจะนวดเป็นแผ่นบางๆ โรยแป้ง แล้วม่วน แล้วรีดเป็นแผ่นอีก ทำซ้ำๆๆๆๆ มันถึงจะออกมาเป็นแบบนั้น

สมัยนั้นคุณยสยจะมีวงไพ่ที่เล่นทุกวันพฤหัส จะมีเพื่อนชื่อคุณยายตุ๋ย ทำสาเกเชื่อมอร่อยสาดดดดดดดดดดดด จะทำมาฝากบ่อยๆ และจะมีของกินข้างวงไพ่อีก เช่นแหนมชุบไข่ทอด กับเครื่องเคียง หึหึ

ยายอย่ากินเลยคับ อ้วน ผมกินเอง 555555555

แกงเขียวหวานกับแกงป่านี่ก็อีกอย่าง กินที่ไหนก็ไม่สะใจเท่าที่บ้านเพราะที่บ้านหนักเครื่องแกงมาก และตำเอง แซ่บหลายๆ

และที่บ้านจะมีสูตรขนมฝรั่งเยอะมาก ทีเด็ดคือเค๊กกล้วยหอม blue berry pie และ apple pie ทำทีไรผมจะเหมือนขึ้นสวรรค์ คนอื่นอย่ากินนะ เด๋วอ้วน กูยอมเสียสละเอง 5555555555555

แล้วก็มาถึงคุณตาผม นี่ก็พิถีพิถันกับอาหารมาก คนขับรถคุณตาผมชื่อน้าเหมือน (ที่บ้านมีคนขับ2คน) จะรู้หมดว่าจะกินอะไร ต้องไปซื้อตรงไหน ขาหมูต้องไปบางรัก มะตะบะ ไปซื้อที่ไหนก็ไม่รู้ (แอบเล่า ก่อนเสีย คุณตาผมก็ฟาดขาหมู แล้วก็หลับไปเลย)

ทุกปีที่บ้านจะไปเที่ยวฮ่องกง เพราะมีร้านอาหารที่ไปกินประจำ ชื่อซิวหล่ำกุง(มั้ง) จะไปทุกปี เพราะจะกินมะระผัดเนื้อ

แล้วตอนไปน่ะ มันไม่ใช่หน้ามะระ ก็ต้องหอบไปจากเมืองไทย แล้วใครล่ะถือ.....ก็กูนี่แหละ - -

พอไปถึงร้านก็สั่งทันที "ฝูกว๊านเฉาเหง่าหยก"ร้องไห้มั้ง) กัปตันก็จะบอกว่าของไม่มีนะ ไม่ใช่ฤดูมัน แล้วก็จะถึงคิวผมแระทีนี้

ผมก็จะยืนขึ้นอย่างอาจหาญ ล้วงมือเข้าไปในเป๋ากางเกง พร้อมกับควักวัตถุสีเขียวปี๋ออกมายิ่นให้ พร้อมกับบอกว่า

"HERE"

ยังความแตกตื่นให้กับบรรดาบ๋อยมากว่า"โอ้โห เพียงแต่เรื่องกินนี่พวกถึงกับหอบมะระมาจากเมืองไทยเชียวหรือ!!!!!"

นึกแล้วก็คิดถึงจัง ตอนนี้คุณตาคุณยายเสียไปหมดแล้ว หาของพวกนี้กินไม่ได้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่