เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 พี่สาวผมได้ซื้อ Iphone 5s ที่ศูนย์ telewi shop ซึ่งเป็นshopของค่ายมือถือยักใหญ่ SIA(เสีย) สาขาโรบินสัน สระบุรี แล้วก็ใช้ตามปกติที่ชาวบ้านเค้าใช้กัน ปรากฏว่าเกิดอาการเสียงสนทนาเบาลงอย่างเห็นได้ชัดโดยเกิดกับคู่สัญญาณปลาย ทาง (เจ้าของเครื่องจะไม่รู้ถึงอาการเลย) ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเกิดจากสัญญาณหายหรือสัญญาณไม่ค่อยดี (ใช้ที่นครนายกเป็นส่วนใหญ่) จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่หลังจากนั้นเริ่มมีคนทักว่าเสียงไม่ค่อยชัดหลายคนมากขึ้น บ่อยขึ้นทั้งๆที่สัญลักษณ์คลื่นมือถือเรียกได้ว่าเกือบเต็ม (หายไปเพียงขีดเดียว) จึงคิดว่าไม่น่าจะเกิดจากสัญญาณ จึงลองเช็คกับคู่สัญญาณปลายทางซึ่งทุกคนที่บอกว่าเสียงเบาก็บอกเหมือนกันหมด ว่าสัญญาณเต็ม เลยลองไปเคลมที่ศูนย์ที่มีเครื่องให้เปลี่ยน
ครั้งแรกไปเคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) สาขาฟิวเจอร์รังสิต เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2556
ปรากฏว่าพนักงานแจ้งว่ามีปัญหาที่ซอฟแวร์ จึงลงซอฟแวร์ให้ใหม่แล้วก็ลองทดสอบปรากฏว่าไม่เกิดอาการเสียงสนทนาเบาลง จึงนำกลับมาใช้ตามปกติซึ่งเมื่อใช้ไปสักพัก ปรากฏว่ายังเกิดอาการเดิมอีก พี่สาวผมจึงลองสังเกตอาการและสภาวะแวดล้อมในขณะที่เกิดอาการ เนื่องจากคิดว่าน่าจะเป็นที่เสาสัญญาณบริเวณนครนายก แต่ก็ลองเทสวิธีต่างๆไปเรื่อยๆก็เกิดอาการบ้าง ไม่เกิดบ้าง จึงลองไปเคลมเครื่องอีกครั้งหนึ่ง
ครั้งที่สองนี้ไปเคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) สาขาฟิวเจอร์รังสิต วันที่ 1 มกราคม 2557
พนักงานก็เช็คอาการและก็เกิดตามที่แจ้งไว้ข้างต้น พนักงานก็ยอมรับว่ามีอาการจึงเปลี่ยนเครื่องให้(คิดว่าเครื่องใหม่น่าจะดี ขึ้น)ก็ลองทดสอบหลายๆวิธีที่เคยลองๆมาก็ไม่เกิดอาการ จึงรับเครื่องใหม่กลับไปใช้ ก็ใช้ไปตามปกติ(ยังไม่ได้ออกจากห้างเลย)ปรากฏว่าอาการยังคงเกิดอาการเหมือน เดิม เลยคิดว่าไม่น่าจะเป็นที่เสาสัญญาณแน่นอน จึงลองทดสอบวิธีอื่นๆไปเรื่อยๆ(ที่คิดว่าเมื่อลองวิธีนี้แล้วจะเกิดขึ้น อย่างแน่นอน) จนลองเทสเครื่องโดยการพูดคำว่า "โหล" รัวๆสักประมาณ 10 -15 วินาที ปรากฏว่าเสียงจะเบาลงทุกครั้งที่มีการพูดรัวๆติดต่อกันแบบดังกล่าว(ที่ลอง วิธีนี้เนื่องจากว่าส่วนใหญ่จะเกิดอาการในขณะที่ทำงานอยู่โดยบริเวณที่ทำงาน นั้นจะมีเสียงดังและต่อเนื่องแทบจะตลอดเวลาเนื่องจากเป็นโรงงานแต่บางครั้ง ก็เกิดอาการในช่วงที่ไม่ได้ทำงานด้วย ทั้งนี้จากการสังเกตเพิ่มเติม หากใช้สมอลทอร์คจะไม่เกิดอาการดังกล่าว)จึงกลับไปศูนย์อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่าพนักงานแจ้งว่าเครื่องสำหรับเปลี่ยนหมด(เครื่องเคลมจะเป็นเครื่องสำ หรับเคลมเปลี่ยนเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องใหม่กิ๊กแกะกล่องแบบที่ซื้อขายกัน)แล้วก็ให้ลองเปลี่ยนซิม(คือ เป็นเบอร์เดิมแต่เปลี่ยนตัวซิมให้ใหม่)ก็ยังมีอาการเหมือนเดิม พนักงานก็แจ้งว่าน่าจะเกิดจากเสาสัญญาณ(ในใจก็คิดว่าตลกล่ะ มันมีอาการทั้งที่นครนายกและในฟิวเจอร์รังสิต และที่อื่นๆด้วยเลยรึ ทั่วประเทศใช้เสาสัญญาณเดียวหรอ?)ก็เลยบอกกับพนักงานว่า มันเป็นหลายที่ไม่ใช่ที่เดียว พนักงานก็แจ้งว่าจะลองเชคที่ชุมสายให้(เฮ้ย!!!!!!!อย่ามั่วดิ)ก็เลยไม่อยาก จะคุยด้วยแล้ว แบบว่าอย่าซุยแถไปเรื่อยสิ จึงได้แต่ทำใจและแจ้งไปว่าถ้ามีเครื่องให้เปลี่ยนเมื่อไหร่ ช่วยติดต่อกลับด้วย พนักงานก็รับเรื่องไว้ แล้วก็ต้องกลับบ้านไปแบบเริ่มมีความรู้สึกว่าความซวยเกาะติดตามตัว
หลังจากนั้นทาง SIA(เสีย) ก็เงียบกริบ...............หายไปเลย จึงลองโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทางคอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าที่สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์มีเครื่องให้เปลี่ยนจึง เดินทางไปเคลมเครื่อง(ศูนย์ต่างๆที่ทางคอลฯแจ้งมานั้น สาขานี้มาสะดวกที่สุด)
ครั้งที่สามเคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) shop ศูนย์แฟชั่น ไอร์แลนด์เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2557
ก็แจ้งพนักงานว่ามีอาการดังกล่าวแล้วก็ลองเทสให้ดู พนักงานก็ยอมเปลี่ยนเครื่องใหม่และลองเทสเครื่องใหม่โดยการพูดรัวๆ (แบบที่คิดว่าทดสอบแล้วน่าจะเห็นผลแน่นอนที่สุดเท่าที่ลองมา) ปรากฏว่าเกิดอาการครับ!!!!!!!!!!!!! (ในใจก็คิดว่า มันเป็นทุกเครื่องเลยใช่มั้ย?) จึงให้พนักงานลองกับเครื่องที่เพิ่งเปลี่ยน พนักงานก็รับว่ามีอาการ จึงถามพนักงานว่ามีเครื่องอีกมั้ย? คำตอบคือไม่มีแล้วครับ ต้องรอเครื่องมาใหม่ ก็เลยแจ้งพนักงานว่าถ้ามีเครื่องแล้วรบกวนติดต่อกลับด้วย แต่ขอแบบว่ามีสักสองถึงสามเครื่องแล้วค่อยแจ้งมานะ เพราะกลัวว่าจะมาเสียเที่ยวแบบนี้อีก วันนั้นก็เลยเอาเครื่องเดิมกลับไปนอนกอดพร้อมน้ำตา(ขี้เกียจติดฟิล์มใหม่ ถ้าเปลี่ยนเครื่อง)
หลังจากนั้นทาง SIA(เสีย) ก็เงียบกริบ...............หายไปเลยตามเคย จึงลองโทรไปคอลฯอีกรอบ ก็ได้รับแจ้งว่า ยังไม่มีเครื่องให้เปลี่ยน ต้องรอของมาก่อนแล้วจะติดต่อกลับไปอีกทีนึง แล้วก็ถามคอลฯต่อว่ามีนโยบายรับเครื่องคืนมั้ย? (คือว่า ไม่ไหวนะ มันท่าทางจะเป็นทุกเครื่องเลยนะ) ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีโยบายคืนเครื่อง ได้แต่ เปลี่ยนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เครื่องไป เรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนกว่าจะครบหนึ่งปีนับแต่วันที่ซื้อเครื่อง แล้วก็ตัวใครตัวมันครับ ก็โวยวายกับคอลฯรายนั้นไปยกนึง หลังจากนั้นคอลฯก็รับเรื่องไว้ว่าจะติดต่อกลับถ้ามีเครื่องให้เปลี่ยน ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2556 คอลฯติดต่อกลับมาบอกว่า สาขาพารากอนมีเครื่องให้เปลี่ยน จึงรีบเดินทางไปวันนั้นเลย
ครั้งที่สี่(ครั้งสุดท้าย) เคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) สาขาพารากอน เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2557 (อันนี้ขอเล่าย่อๆนะครับเพราะเถียงกัน 3 ชม.ได้)
ก็แจ้งพนักงานที่รับเรื่องว่าเกิดอาการเสียงเบาดังกล่าว แล้วก็แจ้งว่า เข้าศูนย์มาหลายรอบแล้ว ไม่หายสักที แล้วพนักงานก็ลองเทส พนักงานก็รับว่าเครื่องมีอาการเสียงเบาลงจริง ก็เปลี่ยนเครื่องให้แล้วก็ลองเทสใหม่ มีอาการเหมือนเดิม จึงลองให้เปลี่ยนอีกเครื่องก็ยังมีอาการเหมือนเดิม พนักงานก็แจ้งว่าน่าจะมีปัญหาที่ซิม(แบบว่าเคยลองเปลี่ยนซิมมาแล้ว และก็ลองเปลี่ยนเครือข่ายเลยก็มีอาการเดิม)ก็แจ้งไปว่าเคยเปลี่ยนซิม(ทั้ง เครือข่ายเดิม เบอร์เดิม แล้วก็ต่างเครือข่าย)แล้ว พนักงานก็แจ้งว่างั้นขอลองเครื่องพนักงานเอง(ก็ได้ๆ ลองสิ ให้รู้ๆไปเลยว่ามันเป็นทั้งไลน์การผลิตเลยมั้ย) โดยให้พนักงานเค้าลองพูดและฟังของเค้าเองแล้วก็ปฏิเสธว่าไม่มีอาการ ผมเลยบอกว่างั้นผมขอเป็นคนพูดแล้วอีกเครื่องให้เปิดสปีกเกอร์โฟนฟังกันทุกคน ปรากฏว่าแม้แต่เครื่องของพนักงานเองยังมีอาการ(ผมไม่แน่ใจว่า พนง.ทำเป็นเนียนไม่มีปัญหารึเปล่า) เค้าก็บอกว่าเค้าจะส่งฟีดแบคกลับไปยังแอปเปิ้ล (แล้วเครื่องนี้ล่ะ?) ก็ถามว่าแล้วเครื่องที่มีปัญหานี้ล่ะ เค้าก็บอกว่าก็น่าจะเป็นทุกเครื่องแหละครับ ตอนนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ (เยี่ยมครับ นี่คือการทิ้งความรับผิดชอบหรือบริการหลังการขายแบบหน้าทนมากๆ) ผมก็เลยถามไปว่า จะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรอครับ? พนง.ก็แจ้งว่าตอนนี้เค้าทำให้ได้เท่านี้แหละ ผมถามต่อว่า รับคืนเงินได้มั้ยครับ? พนง.แจ้งว่า ไม่มีนโยบายรับคืน เพราะ apple ไม่รับคืนเงิน มีแต่เปลี่ยนเครื่องอย่างเดียว (อันนั้นมันเรื่องของคุณกับแอปเปิ้ลสิ พี่สาวผมซื้อเครื่องSIA(เสีย)นะ พี่สาวผมลูกค้าSIA(เสีย)นะ มันเป็นความรับผิดชอบของSIA(เสีย)นะ ไม่เกี่ยวกันแล้วว่า apple จะรับคืนหรือไม่?นั่นมันเรื่องของคุณกับapple) ก็โวยวายไป พนง.ก็บอกว่าเค้าไม่มีอำนาจ ผมก็บอกว่า เข้าใจว่าคุณไม่มี แล้วคุณไม่ลองให้คนที่มีอำนาจมาลองคุยดูล่ะ เผื่อว่าเราจะได้คุยกัน ปรึกษากันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด เค้าก็เลยหายไปแล้วก็มีผู้หญิง(ติดป้ายตำแหน่งว่า "ปาณิสรา" ที่เสื้อ คนอะไร?ตำแหน่งปาณิสรา!!!) ก็พูดคุยกันถึงปัญหา แล้วก็ถามตรงๆเลยว่าขอคืนเงินได้มั้ย? เค้าก็บอกว่าไม่มีนโยบายรับคืนเงินเพราะ apple รับเปลี่ยนเครื่องอย่างเดียว ผมก็บอกว่า แล้วผมลูกค้าSIA(เสีย)หรือว่าลูกค้า apple ? ผมเป็นลูกค้าคุณ ดังนั้น มันไม่เกี่ยวกันว่าคุณจะตกลงกับ apple ว่ายังไง แล้วนี่มันก็ไม่ใช่มีปัญหาบางเครื่อง แต่มันมีทุกเครื่อง ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า ขอเป็นชดเชยเป็น 1 รอบบิล (เฮ้ย!!!!ผิดประเด็น อีกอย่าง 1 รอบบิลยังไม่พอค่าน้ำมันรถของแต่ละครั้งที่มาเปลี่ยนเครื่องเลย) ทางผมก็ไม่อาจรับข้อเสนอได้เพราะ iphone 5s มูลค่ากว่าสองหมื่นบาท ซื้อมาเพื่อใช้โทรคุยเป็นหลัก แต่นี่มันไม่สามารถใช้โทรคุยได้เต็มประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ของโทรศัพท์ เลย คือมันเริ่มไม่ใช่แล้วล่ะครับ ถ้าจะให้พี่สาวผมถือของด้อยคุณภาพแบบนี้ พี่ผมก็ถามประมาณว่า คือว่าไม่ทำเป็นcase study ไปล่ะ เผื่อจะได้มีนโบาย ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าไม่สามารถทำให้ได้จริงๆ ก็เถียงกันอยู่อย่างนั้นสักพักก็มีผู้ชายอีกคน(ติดป้ายตำแหน่งว่า "ปิยะดนัย" ที่เสื้อ คนอะไร?ตำแหน่งปิยะดนัย!!!)มาก็มายืนยันกับผู้หญิงคนนั้นว่าไม่สามารถรับ เงินคืนได้จริงๆ แล้วก็บอกว่าตอนนี้ทำได้แต่เพียงส่งฟีดแบคกลับไปให้ apple ได้เท่านั้น ผมก็บอกว่า งั้นวันหลังก็ไม่ต้องเลือกศูนย์หรอกมั้ง เลือกไปทำไมนโยบายตามappleหมด คิดว่าบริการน่าจะดีกว่าค่ายอื่น โทรศัพท์ก็มีปัญหา แล้วผมก็ถามต่อว่าแล้วถ้ามันเกิดความเสียหายจากการใช้โทรศัพท์เครื่องนี้จะ ทำยังไง ใครจะรับผิดชอบ พนง.ชายคนนั้นก็ถามว่า มันจะเสียหายังไงล่ะครับ? ผมก็บอกว่าถ้าผมคุยกับลูกค้าบอกว่า ชิ้นละสิบเอ็ดบาท ปรากฏว่าเสียงดันเบาลงตรงคำว่า"เอ็ด"ทำให้ลูกค้าไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเป็น "สิบบาท"แล้วก็ตกลงซื้อขายกัน มันไม่เสียหายหรอครับ? พนง.ชายคนนั้น(ติดป้ายตำแหน่งว่า"ปิยะดนัย"ที่เสื้อ คนอะไร?ตำแหน่งปิยะดนัย!!!)ก็นิ่งแล้วก็บอกว่า แต่ก็ใช้ได้นะครับ (ขอโทษนะครับ ใช้ได้บิดาคุณหรอครับ กล้าพูดมาได้ แบบนี้มันไม่ได้เรียกว่าใช้ได้แล้วครับ) และก็อ้างอะไรไปเรื่อยเปื่อยว่าเป็นที่ซอฟแวร์บ้าง ต้องรอตัวใหม่มาถึงจะแก้ปัญหาได้ ผมก็ถามว่า แล้วเมื่อไหร่ล่ะครับ? ปรากฏว่าไม่มีคำตอบ!!! ผมก็ถามต่อว่าแล้วทางผมต้องใช้เครื่องมีปัญหานี้ไปถึงเมื่อไหร่ก็ไม่มีหลัก ประกันอะไรมารองรับเลย เผลอๆพอเกินปีนึงก็ตัวใครตัวมัน เนียนๆกันไปหรอครับ แล้วก็ได้แต่เถียงกันแต่ประโยคเดิมๆ แล้วทั้งสองคนก็ทำเป็นส่งฟีดแบคให้ apple ไปด้วย ดึงเวลาไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็เดินไปที่อื่นบ้างแล้วก็หายไป สักพัก พนง.ผู้ชายก็กลับมาแล้วก็บอกว่าน่าจะมีอัพเดทปลายเดือนนี้ (เฮ้ย!!!ไปจุดธูปเรียกสตีฟ จ็อบ มาถามหรอครับ อย่างเร็ว ทีตอนแรกไม่มีคำตอบให้ ใครจะเชื่อ?) แล้วก็ได้แต่เถียงกันด้วยคำพูด เดิมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนหกโมงเย็น (พี่สาวต้องรีบกลับนครนายก ส่วนผมอยู่ กทม.) พี่สาวผมก็บอกว่างั้นขอเปลี่ยนเครื่องแล้วก็ขอสติกเกอร์อีมี่เครื่อง ด้วย(ปกติเค้าจะเปลี่ยนให้แต่เครื่องส่วนกล่องและอื่นๆจะไม่เปลี่ยนให้ อีมี่เครื่องกับกล่องจึงไม่ตรงกัน)จะเอาไปขายทิ้งแล้ว ไม่อยากจะใช้แล้วของด้อยคุณภาพจากผู้ให้บริการยอดเยี่ยมนี้!!!!!!!!! เค้าก็โอเค แล้วก็จากมาด้วยความเซ็งกับบริการหลังการขายของSIA(เสีย)
นี่คือ ปัญหาที่เกิดขึ้น(ผมคิดว่าน่าจะมีอาการทุกเครื่อง) โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นที่ซอฟแวร์อย่างที่เค้าแจ้งมา แต่ในเมื่อซอฟแวร์นั้นมันติดมากับเครื่องก็ถือได้ว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นๆมี ปัญหาที่ตัวเครื่องเอง ผมจึงคิดว่าผู้บริโภคไม่สมควรเป็นผู้แบกรับภาระปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งหากเกิดความเสียหายขึ้นมาล่ะ ใครจะรับผิดชอบ แน่นอน SIA(เสีย)ไม่รับหรอก รึว่าจะรอให้ถึงคราวซวยแล้วค่อยมาว่ากันทีหลังล่ะ? ไม่น่าใช่นะครับ แบบนี้
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะให้ทุกท่านที่ได้อ่านและใช้ Iphone 5sได้ลองเทสแบบที่ผมได้ลอง ว่าเกิดปัญหาหรือไม่ ถ้าหากเกิดก็ลองไปเคลมกับศูนย์ หรือโอเปอร์เรเตอร์ค่ายมือถือที่ทุกท่านได้ซื้อมาแล้วก็ลองดูแล้วกันว่า โอเปอร์เรเตอร์แต่ละค่ายบริการหลังการขายเป็นยังไงบ้าง?
ปล.ยืมไอดีเพื่อนมาครับ สงสัยอะไร หลังไมค์ได้ครับ
ท้าให้ลองเครื่องIphone5sของทุกท่านถึงปัญหาบางอย่าง!!พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ยอดแย่ของผู้ให้บริการรายใหญ่ SIA (เสีย)
ครั้งแรกไปเคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) สาขาฟิวเจอร์รังสิต เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2556
ปรากฏว่าพนักงานแจ้งว่ามีปัญหาที่ซอฟแวร์ จึงลงซอฟแวร์ให้ใหม่แล้วก็ลองทดสอบปรากฏว่าไม่เกิดอาการเสียงสนทนาเบาลง จึงนำกลับมาใช้ตามปกติซึ่งเมื่อใช้ไปสักพัก ปรากฏว่ายังเกิดอาการเดิมอีก พี่สาวผมจึงลองสังเกตอาการและสภาวะแวดล้อมในขณะที่เกิดอาการ เนื่องจากคิดว่าน่าจะเป็นที่เสาสัญญาณบริเวณนครนายก แต่ก็ลองเทสวิธีต่างๆไปเรื่อยๆก็เกิดอาการบ้าง ไม่เกิดบ้าง จึงลองไปเคลมเครื่องอีกครั้งหนึ่ง
ครั้งที่สองนี้ไปเคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) สาขาฟิวเจอร์รังสิต วันที่ 1 มกราคม 2557
พนักงานก็เช็คอาการและก็เกิดตามที่แจ้งไว้ข้างต้น พนักงานก็ยอมรับว่ามีอาการจึงเปลี่ยนเครื่องให้(คิดว่าเครื่องใหม่น่าจะดี ขึ้น)ก็ลองทดสอบหลายๆวิธีที่เคยลองๆมาก็ไม่เกิดอาการ จึงรับเครื่องใหม่กลับไปใช้ ก็ใช้ไปตามปกติ(ยังไม่ได้ออกจากห้างเลย)ปรากฏว่าอาการยังคงเกิดอาการเหมือน เดิม เลยคิดว่าไม่น่าจะเป็นที่เสาสัญญาณแน่นอน จึงลองทดสอบวิธีอื่นๆไปเรื่อยๆ(ที่คิดว่าเมื่อลองวิธีนี้แล้วจะเกิดขึ้น อย่างแน่นอน) จนลองเทสเครื่องโดยการพูดคำว่า "โหล" รัวๆสักประมาณ 10 -15 วินาที ปรากฏว่าเสียงจะเบาลงทุกครั้งที่มีการพูดรัวๆติดต่อกันแบบดังกล่าว(ที่ลอง วิธีนี้เนื่องจากว่าส่วนใหญ่จะเกิดอาการในขณะที่ทำงานอยู่โดยบริเวณที่ทำงาน นั้นจะมีเสียงดังและต่อเนื่องแทบจะตลอดเวลาเนื่องจากเป็นโรงงานแต่บางครั้ง ก็เกิดอาการในช่วงที่ไม่ได้ทำงานด้วย ทั้งนี้จากการสังเกตเพิ่มเติม หากใช้สมอลทอร์คจะไม่เกิดอาการดังกล่าว)จึงกลับไปศูนย์อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่าพนักงานแจ้งว่าเครื่องสำหรับเปลี่ยนหมด(เครื่องเคลมจะเป็นเครื่องสำ หรับเคลมเปลี่ยนเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องใหม่กิ๊กแกะกล่องแบบที่ซื้อขายกัน)แล้วก็ให้ลองเปลี่ยนซิม(คือ เป็นเบอร์เดิมแต่เปลี่ยนตัวซิมให้ใหม่)ก็ยังมีอาการเหมือนเดิม พนักงานก็แจ้งว่าน่าจะเกิดจากเสาสัญญาณ(ในใจก็คิดว่าตลกล่ะ มันมีอาการทั้งที่นครนายกและในฟิวเจอร์รังสิต และที่อื่นๆด้วยเลยรึ ทั่วประเทศใช้เสาสัญญาณเดียวหรอ?)ก็เลยบอกกับพนักงานว่า มันเป็นหลายที่ไม่ใช่ที่เดียว พนักงานก็แจ้งว่าจะลองเชคที่ชุมสายให้(เฮ้ย!!!!!!!อย่ามั่วดิ)ก็เลยไม่อยาก จะคุยด้วยแล้ว แบบว่าอย่าซุยแถไปเรื่อยสิ จึงได้แต่ทำใจและแจ้งไปว่าถ้ามีเครื่องให้เปลี่ยนเมื่อไหร่ ช่วยติดต่อกลับด้วย พนักงานก็รับเรื่องไว้ แล้วก็ต้องกลับบ้านไปแบบเริ่มมีความรู้สึกว่าความซวยเกาะติดตามตัว
หลังจากนั้นทาง SIA(เสีย) ก็เงียบกริบ...............หายไปเลย จึงลองโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทางคอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าที่สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์มีเครื่องให้เปลี่ยนจึง เดินทางไปเคลมเครื่อง(ศูนย์ต่างๆที่ทางคอลฯแจ้งมานั้น สาขานี้มาสะดวกที่สุด)
ครั้งที่สามเคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) shop ศูนย์แฟชั่น ไอร์แลนด์เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2557
ก็แจ้งพนักงานว่ามีอาการดังกล่าวแล้วก็ลองเทสให้ดู พนักงานก็ยอมเปลี่ยนเครื่องใหม่และลองเทสเครื่องใหม่โดยการพูดรัวๆ (แบบที่คิดว่าทดสอบแล้วน่าจะเห็นผลแน่นอนที่สุดเท่าที่ลองมา) ปรากฏว่าเกิดอาการครับ!!!!!!!!!!!!! (ในใจก็คิดว่า มันเป็นทุกเครื่องเลยใช่มั้ย?) จึงให้พนักงานลองกับเครื่องที่เพิ่งเปลี่ยน พนักงานก็รับว่ามีอาการ จึงถามพนักงานว่ามีเครื่องอีกมั้ย? คำตอบคือไม่มีแล้วครับ ต้องรอเครื่องมาใหม่ ก็เลยแจ้งพนักงานว่าถ้ามีเครื่องแล้วรบกวนติดต่อกลับด้วย แต่ขอแบบว่ามีสักสองถึงสามเครื่องแล้วค่อยแจ้งมานะ เพราะกลัวว่าจะมาเสียเที่ยวแบบนี้อีก วันนั้นก็เลยเอาเครื่องเดิมกลับไปนอนกอดพร้อมน้ำตา(ขี้เกียจติดฟิล์มใหม่ ถ้าเปลี่ยนเครื่อง)
หลังจากนั้นทาง SIA(เสีย) ก็เงียบกริบ...............หายไปเลยตามเคย จึงลองโทรไปคอลฯอีกรอบ ก็ได้รับแจ้งว่า ยังไม่มีเครื่องให้เปลี่ยน ต้องรอของมาก่อนแล้วจะติดต่อกลับไปอีกทีนึง แล้วก็ถามคอลฯต่อว่ามีนโยบายรับเครื่องคืนมั้ย? (คือว่า ไม่ไหวนะ มันท่าทางจะเป็นทุกเครื่องเลยนะ) ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีโยบายคืนเครื่อง ได้แต่ เปลี่ยนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เครื่องไป เรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนกว่าจะครบหนึ่งปีนับแต่วันที่ซื้อเครื่อง แล้วก็ตัวใครตัวมันครับ ก็โวยวายกับคอลฯรายนั้นไปยกนึง หลังจากนั้นคอลฯก็รับเรื่องไว้ว่าจะติดต่อกลับถ้ามีเครื่องให้เปลี่ยน ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2556 คอลฯติดต่อกลับมาบอกว่า สาขาพารากอนมีเครื่องให้เปลี่ยน จึงรีบเดินทางไปวันนั้นเลย
ครั้งที่สี่(ครั้งสุดท้าย) เคลมที่ศูนย์ SIA(เสีย) สาขาพารากอน เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2557 (อันนี้ขอเล่าย่อๆนะครับเพราะเถียงกัน 3 ชม.ได้)
ก็แจ้งพนักงานที่รับเรื่องว่าเกิดอาการเสียงเบาดังกล่าว แล้วก็แจ้งว่า เข้าศูนย์มาหลายรอบแล้ว ไม่หายสักที แล้วพนักงานก็ลองเทส พนักงานก็รับว่าเครื่องมีอาการเสียงเบาลงจริง ก็เปลี่ยนเครื่องให้แล้วก็ลองเทสใหม่ มีอาการเหมือนเดิม จึงลองให้เปลี่ยนอีกเครื่องก็ยังมีอาการเหมือนเดิม พนักงานก็แจ้งว่าน่าจะมีปัญหาที่ซิม(แบบว่าเคยลองเปลี่ยนซิมมาแล้ว และก็ลองเปลี่ยนเครือข่ายเลยก็มีอาการเดิม)ก็แจ้งไปว่าเคยเปลี่ยนซิม(ทั้ง เครือข่ายเดิม เบอร์เดิม แล้วก็ต่างเครือข่าย)แล้ว พนักงานก็แจ้งว่างั้นขอลองเครื่องพนักงานเอง(ก็ได้ๆ ลองสิ ให้รู้ๆไปเลยว่ามันเป็นทั้งไลน์การผลิตเลยมั้ย) โดยให้พนักงานเค้าลองพูดและฟังของเค้าเองแล้วก็ปฏิเสธว่าไม่มีอาการ ผมเลยบอกว่างั้นผมขอเป็นคนพูดแล้วอีกเครื่องให้เปิดสปีกเกอร์โฟนฟังกันทุกคน ปรากฏว่าแม้แต่เครื่องของพนักงานเองยังมีอาการ(ผมไม่แน่ใจว่า พนง.ทำเป็นเนียนไม่มีปัญหารึเปล่า) เค้าก็บอกว่าเค้าจะส่งฟีดแบคกลับไปยังแอปเปิ้ล (แล้วเครื่องนี้ล่ะ?) ก็ถามว่าแล้วเครื่องที่มีปัญหานี้ล่ะ เค้าก็บอกว่าก็น่าจะเป็นทุกเครื่องแหละครับ ตอนนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ (เยี่ยมครับ นี่คือการทิ้งความรับผิดชอบหรือบริการหลังการขายแบบหน้าทนมากๆ) ผมก็เลยถามไปว่า จะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรอครับ? พนง.ก็แจ้งว่าตอนนี้เค้าทำให้ได้เท่านี้แหละ ผมถามต่อว่า รับคืนเงินได้มั้ยครับ? พนง.แจ้งว่า ไม่มีนโยบายรับคืน เพราะ apple ไม่รับคืนเงิน มีแต่เปลี่ยนเครื่องอย่างเดียว (อันนั้นมันเรื่องของคุณกับแอปเปิ้ลสิ พี่สาวผมซื้อเครื่องSIA(เสีย)นะ พี่สาวผมลูกค้าSIA(เสีย)นะ มันเป็นความรับผิดชอบของSIA(เสีย)นะ ไม่เกี่ยวกันแล้วว่า apple จะรับคืนหรือไม่?นั่นมันเรื่องของคุณกับapple) ก็โวยวายไป พนง.ก็บอกว่าเค้าไม่มีอำนาจ ผมก็บอกว่า เข้าใจว่าคุณไม่มี แล้วคุณไม่ลองให้คนที่มีอำนาจมาลองคุยดูล่ะ เผื่อว่าเราจะได้คุยกัน ปรึกษากันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด เค้าก็เลยหายไปแล้วก็มีผู้หญิง(ติดป้ายตำแหน่งว่า "ปาณิสรา" ที่เสื้อ คนอะไร?ตำแหน่งปาณิสรา!!!) ก็พูดคุยกันถึงปัญหา แล้วก็ถามตรงๆเลยว่าขอคืนเงินได้มั้ย? เค้าก็บอกว่าไม่มีนโยบายรับคืนเงินเพราะ apple รับเปลี่ยนเครื่องอย่างเดียว ผมก็บอกว่า แล้วผมลูกค้าSIA(เสีย)หรือว่าลูกค้า apple ? ผมเป็นลูกค้าคุณ ดังนั้น มันไม่เกี่ยวกันว่าคุณจะตกลงกับ apple ว่ายังไง แล้วนี่มันก็ไม่ใช่มีปัญหาบางเครื่อง แต่มันมีทุกเครื่อง ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า ขอเป็นชดเชยเป็น 1 รอบบิล (เฮ้ย!!!!ผิดประเด็น อีกอย่าง 1 รอบบิลยังไม่พอค่าน้ำมันรถของแต่ละครั้งที่มาเปลี่ยนเครื่องเลย) ทางผมก็ไม่อาจรับข้อเสนอได้เพราะ iphone 5s มูลค่ากว่าสองหมื่นบาท ซื้อมาเพื่อใช้โทรคุยเป็นหลัก แต่นี่มันไม่สามารถใช้โทรคุยได้เต็มประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ของโทรศัพท์ เลย คือมันเริ่มไม่ใช่แล้วล่ะครับ ถ้าจะให้พี่สาวผมถือของด้อยคุณภาพแบบนี้ พี่ผมก็ถามประมาณว่า คือว่าไม่ทำเป็นcase study ไปล่ะ เผื่อจะได้มีนโบาย ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าไม่สามารถทำให้ได้จริงๆ ก็เถียงกันอยู่อย่างนั้นสักพักก็มีผู้ชายอีกคน(ติดป้ายตำแหน่งว่า "ปิยะดนัย" ที่เสื้อ คนอะไร?ตำแหน่งปิยะดนัย!!!)มาก็มายืนยันกับผู้หญิงคนนั้นว่าไม่สามารถรับ เงินคืนได้จริงๆ แล้วก็บอกว่าตอนนี้ทำได้แต่เพียงส่งฟีดแบคกลับไปให้ apple ได้เท่านั้น ผมก็บอกว่า งั้นวันหลังก็ไม่ต้องเลือกศูนย์หรอกมั้ง เลือกไปทำไมนโยบายตามappleหมด คิดว่าบริการน่าจะดีกว่าค่ายอื่น โทรศัพท์ก็มีปัญหา แล้วผมก็ถามต่อว่าแล้วถ้ามันเกิดความเสียหายจากการใช้โทรศัพท์เครื่องนี้จะ ทำยังไง ใครจะรับผิดชอบ พนง.ชายคนนั้นก็ถามว่า มันจะเสียหายังไงล่ะครับ? ผมก็บอกว่าถ้าผมคุยกับลูกค้าบอกว่า ชิ้นละสิบเอ็ดบาท ปรากฏว่าเสียงดันเบาลงตรงคำว่า"เอ็ด"ทำให้ลูกค้าไม่ได้ยินแล้วคิดว่าเป็น "สิบบาท"แล้วก็ตกลงซื้อขายกัน มันไม่เสียหายหรอครับ? พนง.ชายคนนั้น(ติดป้ายตำแหน่งว่า"ปิยะดนัย"ที่เสื้อ คนอะไร?ตำแหน่งปิยะดนัย!!!)ก็นิ่งแล้วก็บอกว่า แต่ก็ใช้ได้นะครับ (ขอโทษนะครับ ใช้ได้บิดาคุณหรอครับ กล้าพูดมาได้ แบบนี้มันไม่ได้เรียกว่าใช้ได้แล้วครับ) และก็อ้างอะไรไปเรื่อยเปื่อยว่าเป็นที่ซอฟแวร์บ้าง ต้องรอตัวใหม่มาถึงจะแก้ปัญหาได้ ผมก็ถามว่า แล้วเมื่อไหร่ล่ะครับ? ปรากฏว่าไม่มีคำตอบ!!! ผมก็ถามต่อว่าแล้วทางผมต้องใช้เครื่องมีปัญหานี้ไปถึงเมื่อไหร่ก็ไม่มีหลัก ประกันอะไรมารองรับเลย เผลอๆพอเกินปีนึงก็ตัวใครตัวมัน เนียนๆกันไปหรอครับ แล้วก็ได้แต่เถียงกันแต่ประโยคเดิมๆ แล้วทั้งสองคนก็ทำเป็นส่งฟีดแบคให้ apple ไปด้วย ดึงเวลาไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็เดินไปที่อื่นบ้างแล้วก็หายไป สักพัก พนง.ผู้ชายก็กลับมาแล้วก็บอกว่าน่าจะมีอัพเดทปลายเดือนนี้ (เฮ้ย!!!ไปจุดธูปเรียกสตีฟ จ็อบ มาถามหรอครับ อย่างเร็ว ทีตอนแรกไม่มีคำตอบให้ ใครจะเชื่อ?) แล้วก็ได้แต่เถียงกันด้วยคำพูด เดิมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนหกโมงเย็น (พี่สาวต้องรีบกลับนครนายก ส่วนผมอยู่ กทม.) พี่สาวผมก็บอกว่างั้นขอเปลี่ยนเครื่องแล้วก็ขอสติกเกอร์อีมี่เครื่อง ด้วย(ปกติเค้าจะเปลี่ยนให้แต่เครื่องส่วนกล่องและอื่นๆจะไม่เปลี่ยนให้ อีมี่เครื่องกับกล่องจึงไม่ตรงกัน)จะเอาไปขายทิ้งแล้ว ไม่อยากจะใช้แล้วของด้อยคุณภาพจากผู้ให้บริการยอดเยี่ยมนี้!!!!!!!!! เค้าก็โอเค แล้วก็จากมาด้วยความเซ็งกับบริการหลังการขายของSIA(เสีย)
นี่คือ ปัญหาที่เกิดขึ้น(ผมคิดว่าน่าจะมีอาการทุกเครื่อง) โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นที่ซอฟแวร์อย่างที่เค้าแจ้งมา แต่ในเมื่อซอฟแวร์นั้นมันติดมากับเครื่องก็ถือได้ว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นๆมี ปัญหาที่ตัวเครื่องเอง ผมจึงคิดว่าผู้บริโภคไม่สมควรเป็นผู้แบกรับภาระปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งหากเกิดความเสียหายขึ้นมาล่ะ ใครจะรับผิดชอบ แน่นอน SIA(เสีย)ไม่รับหรอก รึว่าจะรอให้ถึงคราวซวยแล้วค่อยมาว่ากันทีหลังล่ะ? ไม่น่าใช่นะครับ แบบนี้
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะให้ทุกท่านที่ได้อ่านและใช้ Iphone 5sได้ลองเทสแบบที่ผมได้ลอง ว่าเกิดปัญหาหรือไม่ ถ้าหากเกิดก็ลองไปเคลมกับศูนย์ หรือโอเปอร์เรเตอร์ค่ายมือถือที่ทุกท่านได้ซื้อมาแล้วก็ลองดูแล้วกันว่า โอเปอร์เรเตอร์แต่ละค่ายบริการหลังการขายเป็นยังไงบ้าง?
ปล.ยืมไอดีเพื่อนมาครับ สงสัยอะไร หลังไมค์ได้ครับ