งานประเพณี ประจำตำบล หนองโน จ.สระบุรี จัดทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ของทุกปี
credit : ภาพ นายฮ้อย / www.fotobug.net
งาน"บุญประเพณีตักบาตรข้าวหลาม” เป็นบุญประเพณีของพุทธศาสนิกชนชุมชนไทย-ยวน หรือโยนกนครเดิม ต.หนองโน อ.เมือง จ.สระบุรี เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่แม่โพสพ ให้ช่วยคุ้มครองดูแลข้าวเปลือกในยุ้งฉางหลองข้าวของตน มิให้สิ่งอื่นใดมารบกวน รวมทั้งเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีของชุมชนในท้องถิ่น โดยจัดขึ้นในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ เดือนยี่ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒) ของทุกๆ ปี ณ ลานอเนกประสงค์หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโน
ก่อนงานหนึ่งวันซึ่งเป็นวันโกน (วันขึ้นสิบสี่ค่ำ เดือนยี่) ฝ่ายชายของแต่ละหมู่บ้านจะจัดหาไม้ข้าวหลาม (อายุประมาณ ๑ ปี ไม้ไผ่อ่อนมีเตี้ยหรือเยื่อบาง) ติดอยู่ภายในกระบอกไม้ไผ่ ตัดเป็นท่อนๆ กะดูพองาม ฝ่ายหญิงจะจัดเตรียมข้าวเหนียวแช่น้ำ ถั่วดำต้มสุก น้ำตาลทราย เกลือ จากนั้นก็ซาวข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้ใส่ภาชนะผสมกับเครื่องปรุงทั้งหมด ปรุงรสตามความพอใจ แล้วตักใส่กระบอกไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ปิดฝากระบอกด้วยใบตองพับให้แน่น จากนั้นฝ่ายชายจะนำข้าวหลามไปเผากับราวบนพื้นดินจนสุกทั่วทั้งกระบอก ทิ้งไว้จนเย็นนำมาปอกเปลือกด้านนอกออกให้เหลือแต่เปลือกด้านใน พอรุ่งขึ้นก็นำไปทำบุญตักบาตรที่วัด
พระครูมงคลธรรมสุนทร หรือ พระครูน้อง เจ้าคณะตำบลหนองโน และเจ้าอาวาสวัดหนองโนใต้ บอกว่า บุญตักบาตรข้าวหลามบ้านหนองโนมีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ พื้นเพคนหนองโนอพยพย้ายถิ่นมาจากโยนก และสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีคือภาษาถิ่นที่ยังใช้ภาษาญวนเชียงใหม่ อาชีพหลักของคนพื้นนี้ คือ ปลูกข้าว ในอดีตน่าจะมีการปลูกข้าวเหนียวไว้กินเองมากกว่าข้าวเจ้า การปลูกข้าวเจ้าเริ่มมานิยมกันในช่วง ๕๐ ปี หลังนี่เอง
ในอดีตเมื่อถึงฤดูหนาวไม่มีผ้าห่มเช่นปัจจุบัน ชาวบ้านต้องจุดฟืนผิงไฟเพื่อไล่ความหนาว ระหว่างนี้เองก็เริ่มมีการตัดไม้ไผ่มาเผาข้าวหลาม ซึ่งกว่าจะรู้ว่าต้องใช้ไม้ไผ่อายุเท่าไรจึงจะเหมาะสมกับการเผาข้าวหลามคงลองผิดลองถูกกันหลายสิบปี จนกระทั่งมาพบว่าไม้ไผ่ที่เหมาะสมกับการเผาข้าวหลามนั้นต้องมีอายุประมาณ ๑ ปีเท่านั้น หากแก่หรืออ่อนกว่านี้เมื่อข้าวหลามสุกผ่าออกมาจากกระบอกเยื่อไผ่จะไม่ติดออกมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผากินเองในบ้านแล้ว ด้วยเหตุที่ชาวบ้านเป็นพุทธศาสนิกชน ก็นำข้าวหลามที่เผานั้นมาใส่บาตรในตอนเช้า เพื่อทำบุญให้แม่โพสพ และเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว เดิมทีนั้นพิธีตักบาตรข้าวหลามนั้นมีอยู่ ๓ วัด คือ วัดหนองโนเหนือ วัดหนองโนใต้ และวัดป๊อกแป๊ก แต่ด้วยเหตุที่ชาวหนองโนแต่งงานมีครอบครัวย้ายถิ่นฐานออกไป รวมทั้งมีคนจากถิ่นอื่นย้ายเข้ามา จนกลายเป็นว่า ปัจจุบันนี้เหลือเพียงที่วัดหนองโนใต้เพียงวัดเดียวเท่านั้น
credit :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.komchadluek.net/detail/20120120/120759/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5.html
***** ชวนเที่ยว งานประเพณีประจำตำบล "งานตักบาตรข้าวหลาม หนองโน" *****
credit : ภาพ นายฮ้อย / www.fotobug.net
งาน"บุญประเพณีตักบาตรข้าวหลาม” เป็นบุญประเพณีของพุทธศาสนิกชนชุมชนไทย-ยวน หรือโยนกนครเดิม ต.หนองโน อ.เมือง จ.สระบุรี เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่แม่โพสพ ให้ช่วยคุ้มครองดูแลข้าวเปลือกในยุ้งฉางหลองข้าวของตน มิให้สิ่งอื่นใดมารบกวน รวมทั้งเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีของชุมชนในท้องถิ่น โดยจัดขึ้นในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ เดือนยี่ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒) ของทุกๆ ปี ณ ลานอเนกประสงค์หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโน
ก่อนงานหนึ่งวันซึ่งเป็นวันโกน (วันขึ้นสิบสี่ค่ำ เดือนยี่) ฝ่ายชายของแต่ละหมู่บ้านจะจัดหาไม้ข้าวหลาม (อายุประมาณ ๑ ปี ไม้ไผ่อ่อนมีเตี้ยหรือเยื่อบาง) ติดอยู่ภายในกระบอกไม้ไผ่ ตัดเป็นท่อนๆ กะดูพองาม ฝ่ายหญิงจะจัดเตรียมข้าวเหนียวแช่น้ำ ถั่วดำต้มสุก น้ำตาลทราย เกลือ จากนั้นก็ซาวข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้ใส่ภาชนะผสมกับเครื่องปรุงทั้งหมด ปรุงรสตามความพอใจ แล้วตักใส่กระบอกไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ปิดฝากระบอกด้วยใบตองพับให้แน่น จากนั้นฝ่ายชายจะนำข้าวหลามไปเผากับราวบนพื้นดินจนสุกทั่วทั้งกระบอก ทิ้งไว้จนเย็นนำมาปอกเปลือกด้านนอกออกให้เหลือแต่เปลือกด้านใน พอรุ่งขึ้นก็นำไปทำบุญตักบาตรที่วัด
พระครูมงคลธรรมสุนทร หรือ พระครูน้อง เจ้าคณะตำบลหนองโน และเจ้าอาวาสวัดหนองโนใต้ บอกว่า บุญตักบาตรข้าวหลามบ้านหนองโนมีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ พื้นเพคนหนองโนอพยพย้ายถิ่นมาจากโยนก และสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีคือภาษาถิ่นที่ยังใช้ภาษาญวนเชียงใหม่ อาชีพหลักของคนพื้นนี้ คือ ปลูกข้าว ในอดีตน่าจะมีการปลูกข้าวเหนียวไว้กินเองมากกว่าข้าวเจ้า การปลูกข้าวเจ้าเริ่มมานิยมกันในช่วง ๕๐ ปี หลังนี่เอง
ในอดีตเมื่อถึงฤดูหนาวไม่มีผ้าห่มเช่นปัจจุบัน ชาวบ้านต้องจุดฟืนผิงไฟเพื่อไล่ความหนาว ระหว่างนี้เองก็เริ่มมีการตัดไม้ไผ่มาเผาข้าวหลาม ซึ่งกว่าจะรู้ว่าต้องใช้ไม้ไผ่อายุเท่าไรจึงจะเหมาะสมกับการเผาข้าวหลามคงลองผิดลองถูกกันหลายสิบปี จนกระทั่งมาพบว่าไม้ไผ่ที่เหมาะสมกับการเผาข้าวหลามนั้นต้องมีอายุประมาณ ๑ ปีเท่านั้น หากแก่หรืออ่อนกว่านี้เมื่อข้าวหลามสุกผ่าออกมาจากกระบอกเยื่อไผ่จะไม่ติดออกมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผากินเองในบ้านแล้ว ด้วยเหตุที่ชาวบ้านเป็นพุทธศาสนิกชน ก็นำข้าวหลามที่เผานั้นมาใส่บาตรในตอนเช้า เพื่อทำบุญให้แม่โพสพ และเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว เดิมทีนั้นพิธีตักบาตรข้าวหลามนั้นมีอยู่ ๓ วัด คือ วัดหนองโนเหนือ วัดหนองโนใต้ และวัดป๊อกแป๊ก แต่ด้วยเหตุที่ชาวหนองโนแต่งงานมีครอบครัวย้ายถิ่นฐานออกไป รวมทั้งมีคนจากถิ่นอื่นย้ายเข้ามา จนกลายเป็นว่า ปัจจุบันนี้เหลือเพียงที่วัดหนองโนใต้เพียงวัดเดียวเท่านั้น
credit : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้