ผม พยายามทำเป็นโพล แต่ดูเหมือนลายระเอียดหายไป
ลัทธิฟาสซิสต์มีลักษณะพิเศษต่างจากลัทธิทางการเมืองอื่นๆ ดังนี้
ลัทธิฟาสซิสต์ไม่เชื่อในหลักเหตุผล ประชาชนทั่วไปไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหาในการดำรงชีวิตประจำวันได้ มีเพียงชนชั้นผู้นำเท่านั้นที่สามารถเข้าใจและใช้เหตุผลได้ ดังนั้นประชาชนทั่วไปจึงต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามที่ผู้นำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย และห้ามวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของผู้นำ เพราะประชาชนไม่มีสิทธิตัดสินว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก ผู้นำทำสิ่งใดย่อมถูกเสมอ
ลัทธิฟาสซิสต์ไม่เชื่อในความเท่าเทียมกันของมนุษย์ แต่เชื่อว่ามนุษย์มีระดับชั้น ผู้นำต้องอยู่เหนือกว่าผู้ตาม ผู้มีกำลังต้องสูงส่งกว่าผู้อ่อนแอ ผู้ชายต้องมีฐานะเหนือกว่าผู้หญิง ชาติพันธุ์ของตนย่อมดีและเด่นกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ
ลัทธิฟาสซิสต์นิยมการใช้กำลังและความรุนแรง ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของตนคือคนชั่วร้าย คนชั่วร้ายคือศัตรู และศัตรูต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก ไม่ว่าจะต้องใช้ความรุนแรงเท่าใดก็ตาม
ลัทธิฟาสซิสต์ถือว่าการปกครองที่ดีที่สุดนั้นต้องมาจากการปกครองโดยชนชั้นนำ ไม่ใช่โดยประชาชน ชนชั้นนำจะมีคุณสมบัติพิเศษบางประการที่ประชาชนทั่วไปไม่มีตามความเชื่อของลัทธิฟาสซิสต์ เช่น ชาติกำเนิด การศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความสามารถในการใช้หลักเหตุผล ดังนั้นชาติ - รัฐบาล - ผู้นำ จึงเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก
ลัทธิฟาสซิสต์มีลักษณะแบบเบ็ดเสร็จ คือ รวมเอาทุกด้านทั้งการเมืองและที่อยู่นอกเหนือจากการเมือง เช่น การดำรงชีวิต จารีตประเพณี ขนบธรรมเนียม การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม เป็นต้น เข้าด้วยกัน และทั้งหมดถูกบงการ ออกคำสั่งโดยผู้นำ แตกต่างจากลัทธิอำนาจนิยม (Anthoritarianism) ที่อำนาจนิยมจะมีขอบเขตของการกำกับอยู่เฉพาะในส่วนของรัฐบาลหรือด้านการเมืองการปกครองเท่านั้น
ลัทธิฟาสซิสต์ถือว่าชนชาติหรือชาติพันธุ์อื่นต่ำต้อยกว่าชาติพันธุ์ตน ดังนั้นจึงต้องถูกกำจัดออกไปให้หมดสิ้น เพื่อให้โลกมีแต่ชาติพันธุ์ที่ดีและสูงส่ง คือพวกตนเท่านั้น
สิ่งที่สุเทพต้องการ ลองดูซิว่า เหมือน หรือ ต่าง กับ ลัทธิ ฟาสซิสต์
ลัทธิฟาสซิสต์มีลักษณะพิเศษต่างจากลัทธิทางการเมืองอื่นๆ ดังนี้
ลัทธิฟาสซิสต์ไม่เชื่อในหลักเหตุผล ประชาชนทั่วไปไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหาในการดำรงชีวิตประจำวันได้ มีเพียงชนชั้นผู้นำเท่านั้นที่สามารถเข้าใจและใช้เหตุผลได้ ดังนั้นประชาชนทั่วไปจึงต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามที่ผู้นำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย และห้ามวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของผู้นำ เพราะประชาชนไม่มีสิทธิตัดสินว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก ผู้นำทำสิ่งใดย่อมถูกเสมอ
ลัทธิฟาสซิสต์ไม่เชื่อในความเท่าเทียมกันของมนุษย์ แต่เชื่อว่ามนุษย์มีระดับชั้น ผู้นำต้องอยู่เหนือกว่าผู้ตาม ผู้มีกำลังต้องสูงส่งกว่าผู้อ่อนแอ ผู้ชายต้องมีฐานะเหนือกว่าผู้หญิง ชาติพันธุ์ของตนย่อมดีและเด่นกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ
ลัทธิฟาสซิสต์นิยมการใช้กำลังและความรุนแรง ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของตนคือคนชั่วร้าย คนชั่วร้ายคือศัตรู และศัตรูต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก ไม่ว่าจะต้องใช้ความรุนแรงเท่าใดก็ตาม
ลัทธิฟาสซิสต์ถือว่าการปกครองที่ดีที่สุดนั้นต้องมาจากการปกครองโดยชนชั้นนำ ไม่ใช่โดยประชาชน ชนชั้นนำจะมีคุณสมบัติพิเศษบางประการที่ประชาชนทั่วไปไม่มีตามความเชื่อของลัทธิฟาสซิสต์ เช่น ชาติกำเนิด การศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความสามารถในการใช้หลักเหตุผล ดังนั้นชาติ - รัฐบาล - ผู้นำ จึงเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก
ลัทธิฟาสซิสต์มีลักษณะแบบเบ็ดเสร็จ คือ รวมเอาทุกด้านทั้งการเมืองและที่อยู่นอกเหนือจากการเมือง เช่น การดำรงชีวิต จารีตประเพณี ขนบธรรมเนียม การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม เป็นต้น เข้าด้วยกัน และทั้งหมดถูกบงการ ออกคำสั่งโดยผู้นำ แตกต่างจากลัทธิอำนาจนิยม (Anthoritarianism) ที่อำนาจนิยมจะมีขอบเขตของการกำกับอยู่เฉพาะในส่วนของรัฐบาลหรือด้านการเมืองการปกครองเท่านั้น
ลัทธิฟาสซิสต์ถือว่าชนชาติหรือชาติพันธุ์อื่นต่ำต้อยกว่าชาติพันธุ์ตน ดังนั้นจึงต้องถูกกำจัดออกไปให้หมดสิ้น เพื่อให้โลกมีแต่ชาติพันธุ์ที่ดีและสูงส่ง คือพวกตนเท่านั้น