.....พ.ศ.2475 การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากวันนั้นถึงวันนี้ 82 ปีแล้ว
แต่ประเทศไทยก็ไม่เคยมีช่วงเวลาเดียวที่เป็นประชาธิปไตยได้อย่างหวัง เพราะอะไร?
เพราะประเทศนี้มีเหล่าผู้คลั่งอำนาจและยึดโยงสิทธิประชาธิปไตยที่ควรเป็นของปวงชนไปเป็นของตัวเอง 12 ครั้งกับการลากรถถังและแบกปืนออกมาปล้นอำนาจของประชาชนของเหล่าบรรดาผู้นำกองทัพ ทำกันซ้ำซาก บ่อยครั้งจนเกิดประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงเกิดความรู้สึกชินชา และรู้สึกว่า ประชาธิปไตยที่หวังไว้ อยู่ไกลจนเอื้อมไม่ถึง ราวกับว่าประเทศนี้ถูกสาปให้ประชาธิปไตยอยู่ในแดนสนธยา
อาจเป็นได้ว่า ตอนที่ประชาธิปไตยเกิดขึ้นในยุคนั้น เป็นยุคสมัยที่ประชาชนทั่วไป อาจจะยังไม่รู้สึกถึงสิทธิ เสรีภาพ ของตัวเอง จึงถูกพวกหน้าด้านแย่งชิงไปครอบครอง
มาวันนี้ ทศวรรษที่ 20 แล้ว ประชาชนล้วนรู้ถึงคุณค่าของอำนาจประชาธิปไตยที่ตัวเองเป็นเจ้าของสิทธิ แต่พวกคลั่งอำนาจกลุ่มเดิมก็ยังคงคอยจ้องหาโอกาสที่จะแย่งชิงอำนาจของปวงชนอีก คิดทำกันอย่างปราศจากความละอาย พร้อมเตรียม วาทะกรรม “เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ”มาเป็นเหตุผลในการปล้นชาติ
หรือว่าอำนาจประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนควรได้ครอบครอง มันเป็นเพียงของเล่นของคนถือปืนเช่นนั้นหรือ?
ปฏิวัติ รัฐประหาร 12 ครั้งที่ผ่านมา ขบวนการแย่งชิงอำนาจประชาชนก็มีการพัฒนาจากสัตว์เซลล์เดียว มาเป็นสัตว์ที่มีกระบวนการทางความคิด เห็นได้ชัดที่สุดคือการ รัฐประหารของคณะ คมช.เมื่อสมคบคิดกับฝ่ายตุลาการ ใช้กำลังทหารแย่งชิงอำนาจ และให้ฝ่ายตุลาการทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามหรือประชาชนเจ้าของสิทธิที่แท้จริง แต่ตั้งองค์รักษ์มาปกป้องอำนาจที่แย่งชิงมาได้ ไม่ว่าจะเป็น สว.แต่งตั้ง องค์กรอิสระเดิมของ กกต. ปปช. คณะกรรมสิทธิฯ และสถาปนาสถาบันใหม่ให้ยิ่งใหญ่กว่า 3 ฝ่ายสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ที่มี ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ สถาบันที่ว่านี้คือ ศาลรัฐธรรมนูญ
แกนนำฝ่ายตุลาการกลุ่มก้อนเดียวกับทหารที่ปล้นอำนาจประชาชน มาสิ่งสถิตอยู่ในสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำหน้าที่พิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญฉบับโจรปล้นประชาธิปไตยไว้อย่างเหนียวแน่น ใครจะเรียกรัฐธรรมนูญนี้ว่าฉบับประชาชนเพราะผ่านการลงมติรับรองของประชาชนก็เรียกไป แต่ผมจะเรียกว่า รัฐธรรมนูญฉบับโจรที่กลิ้งกลอกและตอแห.... เพราะก่อนลงมติก็บอกรับๆไปก่อน ค่อยมาแก้ทีหลัง แต่พอจะแก้ให้อำนาจกลับมาที่ประชาชน กลับถูกกีดกันจากสถาบันผู้พิทักษ์โจร อย่างศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้แก้
วันนี้ กำลังจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการแสดงออกจากเจ้าของอำนาจที่แท้จริงอย่างประชาชน เหล่าโจรชุดเขียวและองครักษ์โจร(องค์กรอิสระต่างๆ) ต่างออกมาข่มขู่พยายามจะทำให้ไม่เกิดการเลือกตั้ง เหล่าสาวกผู้สนับสนุนลัทธิปล้นชาติจากโจร อย่างมวลมหาประชาชน กปปส. ก็เฝ้าภาวนาขอให้เกิดการปฏิวัติทุกวันคืน
ประเทศนี้ เป็นบ้าไปแล้วหรือไร ที่สนับสนุนคนอื่นให้มาแย่งชิงสิทธิตัวเอง?
หรือเหล่าสาวกลัทธิโจรปล้นชาติ คิดว่า ตัวเองจะได้เป็นหุ่นเชิดของหัวหน้าโจร ทำการจัดตั้งสภาประชาชน เพื่อแย่งชิงสิทธิคนไทยไปชั่วกัลป์ สงสัยเหล่าสาวกลัทธิโจรปล้นชาติคงหวังไว้เช่นนี้
เกือบร้อยปีผ่านมา ประเทศนี้ก็ยังเหมือนเดิม เหมือนก่อนหน้าที่ยังไม่มีประชาธิปไตย เหลือบตามองย้อนไปในประวัติศาสตร์ มีช่วงเวลาไหนบ้าง ที่ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยอย่างที่หวัง มองไปช่วงเวลาใด ก็เห็นพวกคลั่งอำนาจลากรถถังออกมาแย่งชิงอำนาจประชาชนทุกที
คุณที่เข้ามาอ่านบทความของผม คิดว่าอย่างไร
ประเทศไทยมีประชาธิปไตยจริงไหม?
หรือประชาธิปไตยของประเทศนี้เป็นเรื่องหลอกเด็ก ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในแดนสนธยาที่ประชาชนมิอาจจับต้องได้
ประเทศไทย แดนสนธยาแห่งประชาธิปไตย
แต่ประเทศไทยก็ไม่เคยมีช่วงเวลาเดียวที่เป็นประชาธิปไตยได้อย่างหวัง เพราะอะไร?
เพราะประเทศนี้มีเหล่าผู้คลั่งอำนาจและยึดโยงสิทธิประชาธิปไตยที่ควรเป็นของปวงชนไปเป็นของตัวเอง 12 ครั้งกับการลากรถถังและแบกปืนออกมาปล้นอำนาจของประชาชนของเหล่าบรรดาผู้นำกองทัพ ทำกันซ้ำซาก บ่อยครั้งจนเกิดประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงเกิดความรู้สึกชินชา และรู้สึกว่า ประชาธิปไตยที่หวังไว้ อยู่ไกลจนเอื้อมไม่ถึง ราวกับว่าประเทศนี้ถูกสาปให้ประชาธิปไตยอยู่ในแดนสนธยา
อาจเป็นได้ว่า ตอนที่ประชาธิปไตยเกิดขึ้นในยุคนั้น เป็นยุคสมัยที่ประชาชนทั่วไป อาจจะยังไม่รู้สึกถึงสิทธิ เสรีภาพ ของตัวเอง จึงถูกพวกหน้าด้านแย่งชิงไปครอบครอง
มาวันนี้ ทศวรรษที่ 20 แล้ว ประชาชนล้วนรู้ถึงคุณค่าของอำนาจประชาธิปไตยที่ตัวเองเป็นเจ้าของสิทธิ แต่พวกคลั่งอำนาจกลุ่มเดิมก็ยังคงคอยจ้องหาโอกาสที่จะแย่งชิงอำนาจของปวงชนอีก คิดทำกันอย่างปราศจากความละอาย พร้อมเตรียม วาทะกรรม “เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ”มาเป็นเหตุผลในการปล้นชาติ
หรือว่าอำนาจประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนควรได้ครอบครอง มันเป็นเพียงของเล่นของคนถือปืนเช่นนั้นหรือ?
ปฏิวัติ รัฐประหาร 12 ครั้งที่ผ่านมา ขบวนการแย่งชิงอำนาจประชาชนก็มีการพัฒนาจากสัตว์เซลล์เดียว มาเป็นสัตว์ที่มีกระบวนการทางความคิด เห็นได้ชัดที่สุดคือการ รัฐประหารของคณะ คมช.เมื่อสมคบคิดกับฝ่ายตุลาการ ใช้กำลังทหารแย่งชิงอำนาจ และให้ฝ่ายตุลาการทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามหรือประชาชนเจ้าของสิทธิที่แท้จริง แต่ตั้งองค์รักษ์มาปกป้องอำนาจที่แย่งชิงมาได้ ไม่ว่าจะเป็น สว.แต่งตั้ง องค์กรอิสระเดิมของ กกต. ปปช. คณะกรรมสิทธิฯ และสถาปนาสถาบันใหม่ให้ยิ่งใหญ่กว่า 3 ฝ่ายสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ที่มี ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ สถาบันที่ว่านี้คือ ศาลรัฐธรรมนูญ
แกนนำฝ่ายตุลาการกลุ่มก้อนเดียวกับทหารที่ปล้นอำนาจประชาชน มาสิ่งสถิตอยู่ในสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำหน้าที่พิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญฉบับโจรปล้นประชาธิปไตยไว้อย่างเหนียวแน่น ใครจะเรียกรัฐธรรมนูญนี้ว่าฉบับประชาชนเพราะผ่านการลงมติรับรองของประชาชนก็เรียกไป แต่ผมจะเรียกว่า รัฐธรรมนูญฉบับโจรที่กลิ้งกลอกและตอแห.... เพราะก่อนลงมติก็บอกรับๆไปก่อน ค่อยมาแก้ทีหลัง แต่พอจะแก้ให้อำนาจกลับมาที่ประชาชน กลับถูกกีดกันจากสถาบันผู้พิทักษ์โจร อย่างศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้แก้
วันนี้ กำลังจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการแสดงออกจากเจ้าของอำนาจที่แท้จริงอย่างประชาชน เหล่าโจรชุดเขียวและองครักษ์โจร(องค์กรอิสระต่างๆ) ต่างออกมาข่มขู่พยายามจะทำให้ไม่เกิดการเลือกตั้ง เหล่าสาวกผู้สนับสนุนลัทธิปล้นชาติจากโจร อย่างมวลมหาประชาชน กปปส. ก็เฝ้าภาวนาขอให้เกิดการปฏิวัติทุกวันคืน
ประเทศนี้ เป็นบ้าไปแล้วหรือไร ที่สนับสนุนคนอื่นให้มาแย่งชิงสิทธิตัวเอง?
หรือเหล่าสาวกลัทธิโจรปล้นชาติ คิดว่า ตัวเองจะได้เป็นหุ่นเชิดของหัวหน้าโจร ทำการจัดตั้งสภาประชาชน เพื่อแย่งชิงสิทธิคนไทยไปชั่วกัลป์ สงสัยเหล่าสาวกลัทธิโจรปล้นชาติคงหวังไว้เช่นนี้
เกือบร้อยปีผ่านมา ประเทศนี้ก็ยังเหมือนเดิม เหมือนก่อนหน้าที่ยังไม่มีประชาธิปไตย เหลือบตามองย้อนไปในประวัติศาสตร์ มีช่วงเวลาไหนบ้าง ที่ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยอย่างที่หวัง มองไปช่วงเวลาใด ก็เห็นพวกคลั่งอำนาจลากรถถังออกมาแย่งชิงอำนาจประชาชนทุกที
คุณที่เข้ามาอ่านบทความของผม คิดว่าอย่างไร
ประเทศไทยมีประชาธิปไตยจริงไหม?
หรือประชาธิปไตยของประเทศนี้เป็นเรื่องหลอกเด็ก ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในแดนสนธยาที่ประชาชนมิอาจจับต้องได้