อาจจะเกริ่นยาวซักหน่อย แต่ทั้งนี้ก็เพื่ออยากจะให้ผู้ที่อ่านได้เบรคตัวเองก่อนที่มีมีอคติกับเราและคนอื่น ๆ ที่อาจจะเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งอาจจะทำให้บรรยากาศแห่งการคุยกันเพื่อการสร้างสรรค์ต้องเสียไปเหมือนหลาย ๆ กระทู้ ที่มีแต่การประชดประชันกัน ถึงแม้จะพยายามเขียนให้สั้นที่สุด เพื่อที่จะสื่อถึงประเด็นที่สำคัญเท่านั้น ขออภัยหากใครไม่อยากอ่าน ก็แค่ผ่านเลยไปก็ได้นะ แต่อย่ามาบ่นว่ายาวเลย เราไม่สามารถเขียนให้สั้นกว่านี้ได้อีกแล้ว
ต้องขอออกตัวก่อนนะ ว่าเราไม่ได้มีความรู้ทางการเมืองมาก แต่จากการอ่านห้องราชดำเนิน ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นเสื้อแดง (สำหรับคนที่อาจจะเถียงว่าไม่จริง ขอให้เปิดใจ ลองถามคนห้องอื่น ๆ ดูก็ได้ ว่าห้องราชดำเนิน คือห้องที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะพอแสดงความคิดเห็นอะไรก็ตามที่ไม่เข้าทางของเสื้อแดง ก็จะถูกคนส่วนใหญ่ในราชดำเนินเรียกว่า สลิ่ม หรือ แมลงสาบ) และการดูทีวีข่อง Blue Sky เพราะที่บ้านเปิด (รู้ตรงนี้แล้วก็อย่าเพิ่งมีอคติกัน แล้วอย่ามาเรียกเราว่าสลิ่ม หรือ แมลงสาบ เราไม่ได้เป็นคนเปิดทีวี บางทีเราก็ต้องหนีมาอยู่ห้องเรา เพราะเราขี้เกียจดู Blue Sky เหมือนกัน แต่พอดีว่าแม่เปิด เลยไม่อยากขัดใจ)
สิ่งที่เราพยายามจะบอกต่อไปก็คือ จากการที่เราเปิดรับข้อมูลทั้ง 2 ฝั่ง มันทำให้เราเข้าใจและเห็นใจคนทั้ง 2 ฝั่ง คือรัฐบาล(กับคนเสื้อแดง) และฝั่งของผู้ชุมนุม (จริง ๆ ไม่ได้อยากจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งหรอกนะ เพราะระดับความเข้มข้นของสีในแต่ละคนมันก็ต่างกันออกไปอีก แต่ปัญหาของประเทศในตอนนี้มันเกิดจากทิฎฐิมานะของคนที่สีเข้มเกินไปของทั้ง 2 ฝั่ง และผลประโยชน์ของแกนนำของทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งทิฏฐิมานะและผลประโยชน์นี่แหละที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองต้องชนะเท่านั้น แพ้ไม่ได้)
ขอให้ผู้ที่กำลังอ่านกระทู้ของเรา เมื่ออ่านแล้ว อย่าผลักเราไปเป็นฝ่ายไหน ขอให้อ่านด้วยใจที่เปิดรับ ขอให้ใช้ใจในการอ่าน หากเห็นด้วยก็ช่วยกันผลักดัน หรือช่วยปรับปรุงแก้ไขแนวทาง หรือประสานงาน เพื่อช่วยให้แนวทางนี้ สามารถทำได้จริง หรือทำอะไรก็ได้เพื่อช่วยประเทศของเราให้มันดีขึ้นมา
และอยากจะขอร้องอีกเรื่องนึงก็คือ ขอให้การแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ เป็นไปเพื่อการสร้างสรรค์ เพื่อการหาทางออกให้ประเทศเท่านั้น เพราะฉะนั้น ขอให้งดใช้คำที่เสียดสี ประชดประชัน คนอื่น เช่น สลิ่ม ควายแดง แมลงสาบ หากมีผู้ใดที่แสดงความคิดเห็นที่ไม่สุภาพ หรือสิ่งที่ท่านคิดว่าผู้อื่นพูดไม่ถูกต้อง อาจจะใช้วิธีแจ้งลบ หรือแสดงความเอื้ออาทรต่อเค้าด้วยคำพูดที่เป็นมิตร แทนการประชดประชัน เพราะการประชดประชันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น นอกจากจะสุมไฟแห่งความเกลียดชังให้แรงขึ้นเท่านั้น
และในกระทู้นี้ขอให้งดการขุดคุ้ยเอาข้อเสียและการคอรัปชั่นของทั้ง 2 ฝ่ายออกมาโต้เถียงกัน เพราะมันเถียงกันไม่จบไม่สิ้น จากกระทู้อื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าถ้ามีการคุยกันเรื่อง ฝ่ายนี้โกง อีกฝ่ายก็จะบอกว่า ฝ่ายเอ็งโกงกว่า เถียงกันไม่จบไม่สิ้น เอาเป็นว่า ต่างฝ่ายต่างรู้กันอยู่ว่า อีกฝ่ายนึงโกงยังไง และคุยกันไปมากแล้ว กระทู้นี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาคุยเรื่องนั้น ขอให้ไปคุยในกระทู้อื่นดีกว่า
ต่อไป ขอเริ่มประเด็นที่กำลังจะเสนอ สิ่งที่เรามองเห็นก็คือ
ในฝั่งของผู้ชุมนุม สิ่งที่เกิดขึ้นกับเค้าก็คือ ความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล เนื่องจากสิ่งที่รัฐบาลได้กระทำคือการแอบออกกฏหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยแทบทุกวงการออกมาเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่รัฐบาลเอาอำนาจที่มีไปใช้ทำสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นถูก
ในฝั่งของรัฐบาลและคนเสื้อแดง ก็คือ ยุบสภาแล้ว จะเอาอะไรอีก ทำไมไม่ไปรอใช้สิทธิ์ตอนเลือกตั้ง
เอาล่ะ ปัญหาของตอนนี้ก็คือ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็ต้องการที่จะเอาชนะกัน
เพราะอะไร........
เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก... และอีกฝ่ายผิด...
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ตัวเองก็จะต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อความถูกต้อง ที่ตัวเองคิดว่ามันถูกต้อง มันดีต่อชาติบ้านเมือง
ฝ่ายผู้ชุมนุมก็คิดว่า รัฐบาลทำผิดขนาดนี้ ควรจะสำนึกผิดได้แล้ว เพราะหมดความชอบธรรมแล้ว แม้แต่การรักษาการก็ไม่ควรเป็น ฝ่ายผู้ชุมนุมจึงคิดว่าตัวเองต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้รัฐบาลที่โกงกินนี้มีอำนาจต่อไป รวมทั้งระบอบทางการเมืองในปัจจุบันที่มันยังเอื้อต่อนักการเมืองพวกนี้ ก็เลยอยากจะให้ปฏิรูปประเทศ
ฝ่ายรัฐบาลและเสื้อแดงก็คิดว่า นี่มันคือเผด็จการ ทำไมไม่ยึดตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมันคือประชาธิปไตยที่วีรชน เดือนตุลา อุตส่าห์เลียเลือดเสียเนื้อมา กว่าจะได้มา อยู่ดี ๆ ผู้ชุมนุมก็จะมาฉีกกฏกติกา แล้วมาตั้งกติกาเองใหม่ได้ยังไง
การคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่ถูก อีกฝ่ายผิด จะนำมาซึ่งการมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู แล้วจะต้องต่อสู้กันเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ
เอาล่ะ ทีนี้มาถึงทางออกที่อยากจะเสนอ ซึ่งมันอาจจะดูเป็นอุดมคติ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่ามันไม่สามารถจะทำได้จริง ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะคิดนะ เราแค่อยากจะเสนอทางออกที่เราคิดว่าทำได้ หากใครที่พอจะคิดอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้แนวทางนี้มันดีขึ้น เอาไปใช้ได้จริง และใครที่พอจะมีอำนาจ มีเครือข่าย มีองค์กร อะไรก็ตามที่พอจะผลักดันสิ่งเหล่านี้ได้ ก็ขอให้ช่วยกัน
1. ขอให้ทั้งสองฝ่ายมาให้ปฏิญญาพร้อมกัน ต่อสาธารณชน โดยขอให้สื่อทุกช่องได้เป็นผู้ที่ทำการถ่ายทอดการให้ปฏิญญาในครั้งนี้
- รัฐบาลจะไม่มองว่า แกนนำ กปปส. และผู้ชุมนุม คือกบฏ แต่คือผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติที่ต้องการให้ประเทศชาติได้รับการปฏิรูปเพื่อกำจัดการคอร์รัปชั่นในประเทศให้หมดไปหรือน้อยลงให้มากที่สุด
- กปปส. เองก็ต้องไม่มองว่ารัฐบาลและคนเสื้อแดงเป็นศัตรูที่จะต้องเอาชนะ แต่คือผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติที่ต้องการให้ประเทศชาติมีความก้าวหน้า และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
แค่ข้อแรก หลายคนก็คงคิดว่ายากแล้วล่ะ ไม่มีทางเป็นไปได้ หรือทำได้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะมันคงไม่ได้ออกมาจากใจจริง ๆ ของทั้งสองฝ่าย ก็ไม่เป็นไรนะ มันเป็นแค่สิ่งที่เราอยากจะเสนอ เพราะเราคิดว่ามันจะสร้างบรรยากาศแห่งการหาทางออกร่วมกัน แทนการเอาชนะกันในปัจจุบัน
2. เมื่อทั้งสองฝ่ายให้ปฏิญญากันแล้ว ก็อยากจะให้
- กปปส.ได้เสนอแนวความคิดของตัวเอง ในแง่ของรูปธรรม ให้คนเห็นภาพได้ชัดเจน ว่าที่บอกว่าจะต้องมีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เพื่อแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่น จะต้องทำอย่างไร ขอให้มีแนวทางที่ชัดเจนมากกว่าแค่การบอกว่าต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง
- รัฐบาลเอง เมื่อยืนยันที่จะเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป ก็ควรจะเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุม ได้ ชี้แจงว่าผู้ชุมนุมมีความคลางแคลงใจในเรื่องใดที่เห็นว่ารัฐบาล สามารถใช้อำนาจเพื่อโกงการเลือกตั้งได้ แล้วรัฐบาลจะทำให้มันโปร่งใสได้อย่างไร อันนี้คงต้องใช้เวลากันพอสมควร ในการที่จะคุยกันให้เป็นรูปธรรมเพื่อการแก้ปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส
ข้อนี้ทำเพื่ออะไร ทำเพื่อที่จะให้ทั้งสองฝ่ายได้รับฟังซึ่งกันและกัน ปัจจุบันนี้ ทั้งสองฝ่าย ต่างก็พูดแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ไม่เคยฟังกันเลย ขอให้ทั้งสองฝ่าย ฟัง และเปิดใจซึ่งกันและกัน
3. จากข้อ 2 ถ้าได้แนวทางอะไรบ้างแล้ว ก็มาทำประชาพิจารณ์ หรือจะเลือกตั้ง หรือจะอะไรต่อไปก็แล้วแต่ ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากข้อ 2
ก็บอกไปแล้วเนอะ ว่าสิ่งที่เราเสนอไปมันอาจจะเป็นสึ่งที่เป็นไปได้ยาก เพราะมีตัวแปรอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจากสมมติฐานของเราก็คือ ทุกฝ่ายหวังดีกับประเทศชาติ แต่ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ของประเทศ หวังดีกับประเทศชาติจริง แต่คนส่วนน้อย (แต่ดันเป็นหัวโจกของทั้งสองฝ่าย) มีผลประโยชน์ และไม่ได้หวังดีกับประเทศชาติอย่างแท้จริง
ปัญหาคือเราจะทำอย่างไรให้ผู้ที่หวังดีกับประเทศชาติอย่างแท้จริงของทั้งสองฝ่าย ได้มาคุยกัน และแก้ปัญหาเพื่อนำพาประเทศชาติต่อไปได้
เราคงต้องช่วยกัน....
หวังว่าสิ่งที่เราเสนอ อาจจะเป็นแรงบันดาลใจ หรืออาจจะแค่สะกิดใจ ของใครก็ตามที่อาจจะอยากแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ และคนคนนั้นมีอำนาจ มีเครือข่าย มีอะไรก็ตามที่จะช่วยได้ ก็ขอให้เอาสิ่งที่เราเสนอไปช่วยพิจารณาและปรับปรุงให้มันมีแนวทางที่สามารถทำได้จริงด้วย
ก่อนที่อะไร ๆ จะสายไปกว่านี้...
อยากจะเสนอทางออกให้บ้านเมือง
ต้องขอออกตัวก่อนนะ ว่าเราไม่ได้มีความรู้ทางการเมืองมาก แต่จากการอ่านห้องราชดำเนิน ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นเสื้อแดง (สำหรับคนที่อาจจะเถียงว่าไม่จริง ขอให้เปิดใจ ลองถามคนห้องอื่น ๆ ดูก็ได้ ว่าห้องราชดำเนิน คือห้องที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะพอแสดงความคิดเห็นอะไรก็ตามที่ไม่เข้าทางของเสื้อแดง ก็จะถูกคนส่วนใหญ่ในราชดำเนินเรียกว่า สลิ่ม หรือ แมลงสาบ) และการดูทีวีข่อง Blue Sky เพราะที่บ้านเปิด (รู้ตรงนี้แล้วก็อย่าเพิ่งมีอคติกัน แล้วอย่ามาเรียกเราว่าสลิ่ม หรือ แมลงสาบ เราไม่ได้เป็นคนเปิดทีวี บางทีเราก็ต้องหนีมาอยู่ห้องเรา เพราะเราขี้เกียจดู Blue Sky เหมือนกัน แต่พอดีว่าแม่เปิด เลยไม่อยากขัดใจ)
สิ่งที่เราพยายามจะบอกต่อไปก็คือ จากการที่เราเปิดรับข้อมูลทั้ง 2 ฝั่ง มันทำให้เราเข้าใจและเห็นใจคนทั้ง 2 ฝั่ง คือรัฐบาล(กับคนเสื้อแดง) และฝั่งของผู้ชุมนุม (จริง ๆ ไม่ได้อยากจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งหรอกนะ เพราะระดับความเข้มข้นของสีในแต่ละคนมันก็ต่างกันออกไปอีก แต่ปัญหาของประเทศในตอนนี้มันเกิดจากทิฎฐิมานะของคนที่สีเข้มเกินไปของทั้ง 2 ฝั่ง และผลประโยชน์ของแกนนำของทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งทิฏฐิมานะและผลประโยชน์นี่แหละที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองต้องชนะเท่านั้น แพ้ไม่ได้)
ขอให้ผู้ที่กำลังอ่านกระทู้ของเรา เมื่ออ่านแล้ว อย่าผลักเราไปเป็นฝ่ายไหน ขอให้อ่านด้วยใจที่เปิดรับ ขอให้ใช้ใจในการอ่าน หากเห็นด้วยก็ช่วยกันผลักดัน หรือช่วยปรับปรุงแก้ไขแนวทาง หรือประสานงาน เพื่อช่วยให้แนวทางนี้ สามารถทำได้จริง หรือทำอะไรก็ได้เพื่อช่วยประเทศของเราให้มันดีขึ้นมา
และอยากจะขอร้องอีกเรื่องนึงก็คือ ขอให้การแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ เป็นไปเพื่อการสร้างสรรค์ เพื่อการหาทางออกให้ประเทศเท่านั้น เพราะฉะนั้น ขอให้งดใช้คำที่เสียดสี ประชดประชัน คนอื่น เช่น สลิ่ม ควายแดง แมลงสาบ หากมีผู้ใดที่แสดงความคิดเห็นที่ไม่สุภาพ หรือสิ่งที่ท่านคิดว่าผู้อื่นพูดไม่ถูกต้อง อาจจะใช้วิธีแจ้งลบ หรือแสดงความเอื้ออาทรต่อเค้าด้วยคำพูดที่เป็นมิตร แทนการประชดประชัน เพราะการประชดประชันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น นอกจากจะสุมไฟแห่งความเกลียดชังให้แรงขึ้นเท่านั้น
และในกระทู้นี้ขอให้งดการขุดคุ้ยเอาข้อเสียและการคอรัปชั่นของทั้ง 2 ฝ่ายออกมาโต้เถียงกัน เพราะมันเถียงกันไม่จบไม่สิ้น จากกระทู้อื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าถ้ามีการคุยกันเรื่อง ฝ่ายนี้โกง อีกฝ่ายก็จะบอกว่า ฝ่ายเอ็งโกงกว่า เถียงกันไม่จบไม่สิ้น เอาเป็นว่า ต่างฝ่ายต่างรู้กันอยู่ว่า อีกฝ่ายนึงโกงยังไง และคุยกันไปมากแล้ว กระทู้นี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาคุยเรื่องนั้น ขอให้ไปคุยในกระทู้อื่นดีกว่า
ต่อไป ขอเริ่มประเด็นที่กำลังจะเสนอ สิ่งที่เรามองเห็นก็คือ
ในฝั่งของผู้ชุมนุม สิ่งที่เกิดขึ้นกับเค้าก็คือ ความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล เนื่องจากสิ่งที่รัฐบาลได้กระทำคือการแอบออกกฏหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยแทบทุกวงการออกมาเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่รัฐบาลเอาอำนาจที่มีไปใช้ทำสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นถูก
ในฝั่งของรัฐบาลและคนเสื้อแดง ก็คือ ยุบสภาแล้ว จะเอาอะไรอีก ทำไมไม่ไปรอใช้สิทธิ์ตอนเลือกตั้ง
เอาล่ะ ปัญหาของตอนนี้ก็คือ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็ต้องการที่จะเอาชนะกัน
เพราะอะไร........
เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก... และอีกฝ่ายผิด...
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ตัวเองก็จะต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อความถูกต้อง ที่ตัวเองคิดว่ามันถูกต้อง มันดีต่อชาติบ้านเมือง
ฝ่ายผู้ชุมนุมก็คิดว่า รัฐบาลทำผิดขนาดนี้ ควรจะสำนึกผิดได้แล้ว เพราะหมดความชอบธรรมแล้ว แม้แต่การรักษาการก็ไม่ควรเป็น ฝ่ายผู้ชุมนุมจึงคิดว่าตัวเองต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้รัฐบาลที่โกงกินนี้มีอำนาจต่อไป รวมทั้งระบอบทางการเมืองในปัจจุบันที่มันยังเอื้อต่อนักการเมืองพวกนี้ ก็เลยอยากจะให้ปฏิรูปประเทศ
ฝ่ายรัฐบาลและเสื้อแดงก็คิดว่า นี่มันคือเผด็จการ ทำไมไม่ยึดตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมันคือประชาธิปไตยที่วีรชน เดือนตุลา อุตส่าห์เลียเลือดเสียเนื้อมา กว่าจะได้มา อยู่ดี ๆ ผู้ชุมนุมก็จะมาฉีกกฏกติกา แล้วมาตั้งกติกาเองใหม่ได้ยังไง
การคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่ถูก อีกฝ่ายผิด จะนำมาซึ่งการมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู แล้วจะต้องต่อสู้กันเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ
เอาล่ะ ทีนี้มาถึงทางออกที่อยากจะเสนอ ซึ่งมันอาจจะดูเป็นอุดมคติ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่ามันไม่สามารถจะทำได้จริง ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะคิดนะ เราแค่อยากจะเสนอทางออกที่เราคิดว่าทำได้ หากใครที่พอจะคิดอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้แนวทางนี้มันดีขึ้น เอาไปใช้ได้จริง และใครที่พอจะมีอำนาจ มีเครือข่าย มีองค์กร อะไรก็ตามที่พอจะผลักดันสิ่งเหล่านี้ได้ ก็ขอให้ช่วยกัน
1. ขอให้ทั้งสองฝ่ายมาให้ปฏิญญาพร้อมกัน ต่อสาธารณชน โดยขอให้สื่อทุกช่องได้เป็นผู้ที่ทำการถ่ายทอดการให้ปฏิญญาในครั้งนี้
- รัฐบาลจะไม่มองว่า แกนนำ กปปส. และผู้ชุมนุม คือกบฏ แต่คือผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติที่ต้องการให้ประเทศชาติได้รับการปฏิรูปเพื่อกำจัดการคอร์รัปชั่นในประเทศให้หมดไปหรือน้อยลงให้มากที่สุด
- กปปส. เองก็ต้องไม่มองว่ารัฐบาลและคนเสื้อแดงเป็นศัตรูที่จะต้องเอาชนะ แต่คือผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติที่ต้องการให้ประเทศชาติมีความก้าวหน้า และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
แค่ข้อแรก หลายคนก็คงคิดว่ายากแล้วล่ะ ไม่มีทางเป็นไปได้ หรือทำได้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะมันคงไม่ได้ออกมาจากใจจริง ๆ ของทั้งสองฝ่าย ก็ไม่เป็นไรนะ มันเป็นแค่สิ่งที่เราอยากจะเสนอ เพราะเราคิดว่ามันจะสร้างบรรยากาศแห่งการหาทางออกร่วมกัน แทนการเอาชนะกันในปัจจุบัน
2. เมื่อทั้งสองฝ่ายให้ปฏิญญากันแล้ว ก็อยากจะให้
- กปปส.ได้เสนอแนวความคิดของตัวเอง ในแง่ของรูปธรรม ให้คนเห็นภาพได้ชัดเจน ว่าที่บอกว่าจะต้องมีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เพื่อแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่น จะต้องทำอย่างไร ขอให้มีแนวทางที่ชัดเจนมากกว่าแค่การบอกว่าต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง
- รัฐบาลเอง เมื่อยืนยันที่จะเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป ก็ควรจะเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุม ได้ ชี้แจงว่าผู้ชุมนุมมีความคลางแคลงใจในเรื่องใดที่เห็นว่ารัฐบาล สามารถใช้อำนาจเพื่อโกงการเลือกตั้งได้ แล้วรัฐบาลจะทำให้มันโปร่งใสได้อย่างไร อันนี้คงต้องใช้เวลากันพอสมควร ในการที่จะคุยกันให้เป็นรูปธรรมเพื่อการแก้ปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส
ข้อนี้ทำเพื่ออะไร ทำเพื่อที่จะให้ทั้งสองฝ่ายได้รับฟังซึ่งกันและกัน ปัจจุบันนี้ ทั้งสองฝ่าย ต่างก็พูดแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ไม่เคยฟังกันเลย ขอให้ทั้งสองฝ่าย ฟัง และเปิดใจซึ่งกันและกัน
3. จากข้อ 2 ถ้าได้แนวทางอะไรบ้างแล้ว ก็มาทำประชาพิจารณ์ หรือจะเลือกตั้ง หรือจะอะไรต่อไปก็แล้วแต่ ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากข้อ 2
ก็บอกไปแล้วเนอะ ว่าสิ่งที่เราเสนอไปมันอาจจะเป็นสึ่งที่เป็นไปได้ยาก เพราะมีตัวแปรอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจากสมมติฐานของเราก็คือ ทุกฝ่ายหวังดีกับประเทศชาติ แต่ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ของประเทศ หวังดีกับประเทศชาติจริง แต่คนส่วนน้อย (แต่ดันเป็นหัวโจกของทั้งสองฝ่าย) มีผลประโยชน์ และไม่ได้หวังดีกับประเทศชาติอย่างแท้จริง
ปัญหาคือเราจะทำอย่างไรให้ผู้ที่หวังดีกับประเทศชาติอย่างแท้จริงของทั้งสองฝ่าย ได้มาคุยกัน และแก้ปัญหาเพื่อนำพาประเทศชาติต่อไปได้
เราคงต้องช่วยกัน....
หวังว่าสิ่งที่เราเสนอ อาจจะเป็นแรงบันดาลใจ หรืออาจจะแค่สะกิดใจ ของใครก็ตามที่อาจจะอยากแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ และคนคนนั้นมีอำนาจ มีเครือข่าย มีอะไรก็ตามที่จะช่วยได้ ก็ขอให้เอาสิ่งที่เราเสนอไปช่วยพิจารณาและปรับปรุงให้มันมีแนวทางที่สามารถทำได้จริงด้วย
ก่อนที่อะไร ๆ จะสายไปกว่านี้...