เมื่อวาน (24 ธ.ค. 56) ผมได้มีโอกาสพานักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 20 คน เพื่อไปแข่งขันละครประวัติศาสตร์ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 63 ระดับภาคกลางและภาคตะวันออก ณ โรงเรียนหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีจันธ์
ก่อนที่จะพูดถึงปัญหา ขอเชิญดูเกณฑ์การแข่งขันที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดก่อนนะครับ

อ้างอิงจากหน้า 13 :
http://www.sillapa.net/rule56/social.pdf
เกณฑ์ระบุว่า คุณสมบัติของผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งมีอยู่ข้อเดียว คือ
นักเรียนระดับชั้น ป.1-6 , ม.1-6

และให้ข้ามไปดูหมายเหตุข้อที่ 2. ที่ระบุไว้ว่า
คณะกรรมการจะตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าประกวด หากไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด

ผมลองตีความตามตัวอักษรด้วยความคิดของตนเอง ได้ความว่า ถ้าผมแข่งขันในระดับ ม.1-6 แล้วผมส่งนักเรียนระดับที่ไม่ใช้ ม.1-6 ไปแข่ง ผมจะถูกตัดสิทธิ์ ตรงนี้ผมตีความถูกใช่ไหมครับ
แต่ปัญหาที่พบ คือ ในหัวข้อที่ 3. วิธีดำเนินการและรายละเอียดหลักเกณฑ์การแข่งขัน หัวข้อย่อย 3.3 ที่ระบุว่า
ให้ส่งเค้าโครงเรื่องและขอบข่ายการดำเนินเรื่องให้กรรมการล่วงหน้าก่อนการแข่งขัน 2 สัปดาห์

หัวข้อนี้ ผมยอมรับเลยว่า โรงเรียนผมไม่ได้ส่งไปก่อนการแข่งขัน 2 สัปดาห์
ซึ่งผมคิดจะไปส่งหน้างานในเช้าวันที่แข่งขัน
แต่พอไปถึง กรรมการที่ควบคุมการแข่งขันกลับบอกว่า โรงเรียนผมถูกตัดสิทธิ์การแข่งขัน เนื่องจากไม่ได้ส่งเค้าโครงงานเรื่องมาล่วงหน้า
ผมจึงนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับกรรมการที่ตัดสินการแข่งขัน
กรรมการบอกว่า ขอให้ไปคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหิน ซึ่งเป็นประธานศูนย์การแข่งขัน ถ้าทางประธานศูนย์ฯ อนุญาต ทางกรรมการที่ควบคุมการแข่งขัน และกรรมการที่ตัดสินการแข่งขัน ก็ไม่ขัดข้องที่จะให้โรงเรียนผมลงแข่งขัน
ผมจึงไปคุยกับประธานศูนย์ฯ
ประธานศูนย์ฯ แจ้งว่า โรงเรียนผมทำผิดในหัวข้อย่อย 3.3 ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ตามหมายเหตุข้อ 2.
ผมจึงแย้งไปว่า หมายเหตุข้อ 2. ระบุว่า โรงเรียนจะถูกตัดสิทธิ์ถ้าไม่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด ซึ่งคุณสมบัติมีแค่ข้อเดียว คือ ผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นนักเรียนระดับชั้น ม.1-6 ส่วนในหัวข้อย่อย 3.3 ไม่ใช่หัวข้อคุณสมบัติ เพราะฉะนั้นทางศูนย์ฯ ไม่สามารถตัดสิทธิ์โรงเรียนผมได้
แต่ทางประธานศูนย์ฯ ก็ให้เหตุผลว่า "เป็นเกณฑ์ที่ สพฐ. กำหนด" หรือ "เป็นมติที่ประชุมของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.)"
สุดท้าย โรงเรียนผมก็ไม่ได้เข้าแข่งขัน ต้องเดินทางกลับโรงเรียน
คืนนั้นผมกลับมาถึงโรงเรียนจึงลองเปิดเข้าเว็บไซต์ของงานดู เพื่อหาหนังสือราชการหรือประกาศเกี่ยวกับหัวข้อย่อย 3.3 และหมายเหตุข้อ 2. ดู แต่พบว่า ไม่มีหนังสือราชการหรือประกาศเกี่ยวกับประเด็นนี้แต่อย่างใด
สรุปปัญหาที่พบ...
1. ศูนย์ฯ ตีความเกณฑ์การแข่งขันคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง โดยไปเอาหัวข้อย่อย 3.3 รวมกับคุณสมบัติหรือหัวข้อ 1. ทั้งที่ในเกณฑ์การแข่งขัน คือ คนละหัวข้อกัน
2. ถ้ามีการประชุมเกี่ยวกับหัวข้อย่อย 3.3 จริง ทำไมไม่มีหนังสือราชการหรือประกาศแจ้งเกี่ยวกับประเด็นนี้ เพื่อให้โรงเรียนที่ทำผิดหัวข้อย่อย 3.3 ได้ทราบ โรงเรียนจะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียงบประมาณ ฝึกซ้อมและพานักเรียนเดินทางไปแข่งขัน
3. ศูนย์ฯ ไม่มีผู้ประสานงานหรือความล้มเหลวของการประสานงาน ณ วันและเวลาที่ผมตั้งกระทู้อยู่นี้ มีโรงเรียนที่จะถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันรายการนี้อีก 9 โรงเรียน และในวันพรุ่งนี้อีกเกือบ 10 โรงเรียน ซึ่งไม่ทราบว่า ทางศูนย์ได้ประสานไปไหมว่า โรงเรียนเหล่านี้ถูกตัดสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่แจ้งไปโรงเรียนเหล่านี้ก็จะเสียเวลาและงบประมาณโดยสูญเปล่าเหมือนที่โรงเรียนผมพบเจอ
ในฐานะที่ผมเป็นบุคลากรทางการศึกษาคนหนึ่ง ที่แสดงความคิดเห็นมาทั้งหมด ก็ไม่ได้หวังที่จะเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันหรือเรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อเอาผิดกับใคร แต่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์และเอาไว้เป็นบทเรียนให้แก่โรงเรียนหลายโรงเรียนที่ในปีต่อ ๆ ไปต้องคอยเปิดเว็บไซต์อัพเดทรายละเอียดก่อนการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา (เพราะไม่รู้จะมีการแก้ไขรายละเอียดการแข่งขันวันไหน) และสุดท้าย คือ หวังให้ทาง สพฐ. ปรับปรุง-พัฒนาการจัดการแข่งขันในปีต่อ ๆ ไป
ปัญหาจากการแข่งขันละครประวัติศาสตร์ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 63 ระดับภาคกลางและภาคตะวันออก
ก่อนที่จะพูดถึงปัญหา ขอเชิญดูเกณฑ์การแข่งขันที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดก่อนนะครับ
อ้างอิงจากหน้า 13 : http://www.sillapa.net/rule56/social.pdf
เกณฑ์ระบุว่า คุณสมบัติของผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งมีอยู่ข้อเดียว คือ นักเรียนระดับชั้น ป.1-6 , ม.1-6
และให้ข้ามไปดูหมายเหตุข้อที่ 2. ที่ระบุไว้ว่า คณะกรรมการจะตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าประกวด หากไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด
ผมลองตีความตามตัวอักษรด้วยความคิดของตนเอง ได้ความว่า ถ้าผมแข่งขันในระดับ ม.1-6 แล้วผมส่งนักเรียนระดับที่ไม่ใช้ ม.1-6 ไปแข่ง ผมจะถูกตัดสิทธิ์ ตรงนี้ผมตีความถูกใช่ไหมครับ
แต่ปัญหาที่พบ คือ ในหัวข้อที่ 3. วิธีดำเนินการและรายละเอียดหลักเกณฑ์การแข่งขัน หัวข้อย่อย 3.3 ที่ระบุว่า ให้ส่งเค้าโครงเรื่องและขอบข่ายการดำเนินเรื่องให้กรรมการล่วงหน้าก่อนการแข่งขัน 2 สัปดาห์
หัวข้อนี้ ผมยอมรับเลยว่า โรงเรียนผมไม่ได้ส่งไปก่อนการแข่งขัน 2 สัปดาห์
ซึ่งผมคิดจะไปส่งหน้างานในเช้าวันที่แข่งขัน
แต่พอไปถึง กรรมการที่ควบคุมการแข่งขันกลับบอกว่า โรงเรียนผมถูกตัดสิทธิ์การแข่งขัน เนื่องจากไม่ได้ส่งเค้าโครงงานเรื่องมาล่วงหน้า
ผมจึงนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับกรรมการที่ตัดสินการแข่งขัน
กรรมการบอกว่า ขอให้ไปคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหิน ซึ่งเป็นประธานศูนย์การแข่งขัน ถ้าทางประธานศูนย์ฯ อนุญาต ทางกรรมการที่ควบคุมการแข่งขัน และกรรมการที่ตัดสินการแข่งขัน ก็ไม่ขัดข้องที่จะให้โรงเรียนผมลงแข่งขัน
ผมจึงไปคุยกับประธานศูนย์ฯ
ประธานศูนย์ฯ แจ้งว่า โรงเรียนผมทำผิดในหัวข้อย่อย 3.3 ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ตามหมายเหตุข้อ 2.
ผมจึงแย้งไปว่า หมายเหตุข้อ 2. ระบุว่า โรงเรียนจะถูกตัดสิทธิ์ถ้าไม่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด ซึ่งคุณสมบัติมีแค่ข้อเดียว คือ ผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นนักเรียนระดับชั้น ม.1-6 ส่วนในหัวข้อย่อย 3.3 ไม่ใช่หัวข้อคุณสมบัติ เพราะฉะนั้นทางศูนย์ฯ ไม่สามารถตัดสิทธิ์โรงเรียนผมได้
แต่ทางประธานศูนย์ฯ ก็ให้เหตุผลว่า "เป็นเกณฑ์ที่ สพฐ. กำหนด" หรือ "เป็นมติที่ประชุมของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.)"
สุดท้าย โรงเรียนผมก็ไม่ได้เข้าแข่งขัน ต้องเดินทางกลับโรงเรียน
คืนนั้นผมกลับมาถึงโรงเรียนจึงลองเปิดเข้าเว็บไซต์ของงานดู เพื่อหาหนังสือราชการหรือประกาศเกี่ยวกับหัวข้อย่อย 3.3 และหมายเหตุข้อ 2. ดู แต่พบว่า ไม่มีหนังสือราชการหรือประกาศเกี่ยวกับประเด็นนี้แต่อย่างใด
สรุปปัญหาที่พบ...
1. ศูนย์ฯ ตีความเกณฑ์การแข่งขันคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง โดยไปเอาหัวข้อย่อย 3.3 รวมกับคุณสมบัติหรือหัวข้อ 1. ทั้งที่ในเกณฑ์การแข่งขัน คือ คนละหัวข้อกัน
2. ถ้ามีการประชุมเกี่ยวกับหัวข้อย่อย 3.3 จริง ทำไมไม่มีหนังสือราชการหรือประกาศแจ้งเกี่ยวกับประเด็นนี้ เพื่อให้โรงเรียนที่ทำผิดหัวข้อย่อย 3.3 ได้ทราบ โรงเรียนจะได้ไม่ต้องเสียเวลา เสียงบประมาณ ฝึกซ้อมและพานักเรียนเดินทางไปแข่งขัน
3. ศูนย์ฯ ไม่มีผู้ประสานงานหรือความล้มเหลวของการประสานงาน ณ วันและเวลาที่ผมตั้งกระทู้อยู่นี้ มีโรงเรียนที่จะถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันรายการนี้อีก 9 โรงเรียน และในวันพรุ่งนี้อีกเกือบ 10 โรงเรียน ซึ่งไม่ทราบว่า ทางศูนย์ได้ประสานไปไหมว่า โรงเรียนเหล่านี้ถูกตัดสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่แจ้งไปโรงเรียนเหล่านี้ก็จะเสียเวลาและงบประมาณโดยสูญเปล่าเหมือนที่โรงเรียนผมพบเจอ
ในฐานะที่ผมเป็นบุคลากรทางการศึกษาคนหนึ่ง ที่แสดงความคิดเห็นมาทั้งหมด ก็ไม่ได้หวังที่จะเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันหรือเรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อเอาผิดกับใคร แต่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์และเอาไว้เป็นบทเรียนให้แก่โรงเรียนหลายโรงเรียนที่ในปีต่อ ๆ ไปต้องคอยเปิดเว็บไซต์อัพเดทรายละเอียดก่อนการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา (เพราะไม่รู้จะมีการแก้ไขรายละเอียดการแข่งขันวันไหน) และสุดท้าย คือ หวังให้ทาง สพฐ. ปรับปรุง-พัฒนาการจัดการแข่งขันในปีต่อ ๆ ไป