ปรัชญาเศรษฐศาสตร์เน้นการพัฒนายั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

กระทู้สนทนา
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์เน้นการพัฒนายั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง


สุขวิชโนมิกส์ (Sukhavichinomics)
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์เน้นการพัฒนายั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นปรัชญา
ของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการ ในช่วงปี 2537 - 2540 ในหลายรัฐบาล

สุขวิชโนมิกส์เป็นปรัชญาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง เมื่อนำมาใช้แก้ปัญหาของประเทศ เป็นแนวคิดบูรณาการการศึกษา การพัฒนาทุนมนุษย์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเสริมสร้างพลังอำนาจของประชาชน และการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ท้องถิ่นกับระดับชาติและระดับสากลเข้าด้วยกัน

แนวคิดหลักของ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์: การศึกษาและการพัฒนาทุนมนุษย์ 
สุขวิชโนมิกส์ให้ความสำคัญกับการศึกษาและการพัฒนาบุคลากร ที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ

การเสริมสร้างพลังอำนาจประชาชน : ปรัชญานี้เน้นการกระจายโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาในทุกระดับ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ

การเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นกับระดับชาติและสากล : สุขวิชโนมิกส์ส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง ท้องถิ่นและระดับประเทศ รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยง กับเศรษฐกิจโลก เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

การใช้กีฬาและวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือ :
สุขวิชโนมิกส์มองว่ากีฬาและวัฒนธรรมสามารถเป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการสร้างสันติภาพได้ และ คุณพ่อสุขวิช รังสิดพล
เป็นผู้คิดคำขวัญ Friendship beyond frontier หรือ มิตรภาพไร้พรมแดน ในฐานะประธานจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งสุดท้ายในประเทศไทย ก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคมืดครอบครองโดยระบบประชานิยม และสูญเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศและไม่ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์อีก

ตัวอย่างการนำปรัชญาสุขวิชโนมิกส์ไปใช้จริง

• การปฏิรูปสถาบันราชภัฏ : สุขวิชโนมิกส์มีบทบาทสำคัญในการยกระดับวิทยาลัยครูให้เป็นสถาบันราชภัฏ โดยมีเป้าหมายให้เป็น "People's MIT" หรือสถาบันเทคโนโลยีเพื่อประชาชน ตามกฎหมาย สถาบันราชภัฏ 2538

รวมทั้งตั้งสถาบันราชภัฏใหม่ 5 แห่ง กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด นครพนม และ ศรีสะเกษ เมื่อ 20 เมษายน 2540 เพื่อเป็นสถาบันราชภัฎนำร่อง เป็นสถาบัน MIT เพื่อปวงชน

• ย้อนกลับเป็นวิทยาลัยครูตามเดิม ตามกฎหมายเปลี่ยนสถาบันราชภัฏเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏในปี 2547และศูนย์วิทยาศาสตร์ของราชภัฎจึงหยุดอยู่ที่ 12แห่งไม่ได้มี17ตามเป้าหมายปี2538  และ ต่อเนื่องมีทุกแห่งเพื่อให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ในปี 2563

การก่อตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน 12 แห่ง (โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ)

• ก่อตั้งโดยโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ โมเดล หลังจากคุณลุงหมอ (ศาสตราจารย์ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ)นำเอกสารประกาศจัดตั้ง โรงเรียนมหิดลฯ มาให้คุณพ่อสุขวิช ท่านลงนามประกาศจัดตั้ง ปี 2538 คุณพ่อจึงขออนุญาตนำมหิดลวิทยานุสรณ์โมเดล มาก่อตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน (ชื่อโรงเรียนสมเด็จพระศรีฯเนื่องจากการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 อยู่ในห้วงเวลาเสด็จสวรรคต ทำนองเดียวกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงซึ่งก่อตั้งในยุคอภิวัฒน์การศึกษา2538 คือ ปีสวรรคตของสมเด็จพระศรีฯ หรือ แม่ฟ้าหลวง)

หลังจากการออกกฎหมายการศึกษาภาคบังคับ ปี 2545
นับอนุบาล 3 ปี รวมเป็นการศึกษาพื้นฐาน แทนอาชีวะ หรือ มัธยมปลาย จนกระทั่งปัจจุบัน
 
โรงเรียนมัธยมปลาย และอาชีวะจึงไม่ใช่สวนหนึ่งของการศึกษาพื้นฐาน ตามสิทธิของประชาชน ตั้งแต่ปี2545 งบประมาณถูกตัดโรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน ทั้ง 12 แห่ง จึงกลายเป็นโรงเรียนมัธยมปลาย ทั่วไปในปัจจุบัน (2568)

การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหารกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อใช้หนี้ IMF ด้วยการเพิ่มแรงงานอาชีวะ 2 ล้านคน จากครอบครัวเกษตรกรยากจน ในท้องถิ่น ทุรกันดาร และห่างไกล ในปี 2540 เรียนจบปี 2543 และ มัธยมศึกษาตอนต้น 1 ล้านคนจากครอบครัวยากจนเรียนฟรีจริงปี 2540 และจบปี 2546


วิธีการนี้ส่ะผลให้ประเทศไทย กลายเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเซีย และ ครัวโลก และสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ในห้วงเวลาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้ง คนจนผู้หลุดพ้นจากความยากจนในห้วงเวลานั้น โดยการตั้งสถาบันอาชีวะ 278 แห่ง เพื่อรับนักเรียนอายุ 15 - 17 ปี 2 ล้านคน จากครอบครัวเกษตรกรยากจนเข้าศึกษาแบบทวิภาคี (หรือสหกิจศึกษา ซึ่งภายหลังใช้เรียกการศึกษาแบบทวิภาคีในระดับอุดมศึกษา)เป็นครั้งแรก

และความร่วมมือกับอิสราเอล ด้วยการส่งนักเรียนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 44 แห่ง ประมง 3 แห่ง ประมาณ 30,000 คน ไปฝึกศึกษาประเภททวิภาคี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ประเทศอิสราเอลสนับสนุนค่าใช้จ่าย ทั้งหมด) เพื่อกลับมาพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและประมง ในประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 ตามเป้าหมายของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม

ด้วย PPP ( Private Public Partnership) ยกตัวอย่างเช่น :
ปี 2537 สะพานมิตรภาพไทยลาว ร่วมมือกับประเทศออสเตรเลีย
ปี 2537 MRT ร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น
ปี 2539 สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยการจัดตั้งบริษัททำอากาศยานนานาชาติกรุงเทพที่ 2 จำกัด (ปัจจุบันคือ AOT) เพื่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กำหนดเสร็จปี 2543
โดยร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น หลักฐาน https://www.jsce.or.jp/e/archive/project/pj17.html ภายหลังล่าช้า 7 ปีในรัฐบาลประชานิยม ใช้ได้จริง ปี 2550
 
การ PPP ด้านสาธารณสุข: สุขวิชโนมิกส์ด้านสาธารณสุข
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ในรัชกาลที่ 9
ระยะเวลาประมาณ 30 ปี หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานมูลนิธิสมเด็จพระยุพราช เมื่อครั้งยังเปินโรงพยาบาล 18 เดียง ในพื้นที่สีชมพู

2) โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต การระดมทุน
60 ล้าน 60 ชันษา

หลักฐานอ้างอิง https://books.
google.co.th/books?id=xKyTUE2sAVoC&q-
สุขวิช+รังผิดพล&dq-สุขวิช+รังสิตพล&hl-th&new-
bks-1&newbks_redir=O&source-gb_mobile_
search&sa-X&ved-2ahUKEwjoiMmf902NAx
UUTmwGHTEBBCw4ZBDoAXoECAMQAw

Sukavichinomics: Transforming Thammasat University https://encyclopedia.pub/entry/58579

สุขวิชโนมิกส์จึงเป็นปรัชญาซึ่งครอบคลุมและมีความสำคัญต่อการ พัฒนาประเทศในหลายๆ ด้าน โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ท้องถิ่น

3) ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
หลักฐานอ้างอิง Sukavichinomics and the Development of Thai Public Health: A Case Study of the Queen Sirikit Medical Center, Ramathibodi Hospital, Mahidol University
https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=5392642

4) อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระขนมพรรษาโรงพยาบาลพระมงกฎเกล้า ในความรับผิดชอบ ของ รองนายกรัฐมนตรีดูแลงานด้านสังคมในรัฐบาลต้มยำกุ้ง

PPP โรงกลั่นน้ำมัน :

1) โรงกลั่นไทยออยล์
หลักฐานอ้างอิง https://thestandard.co/thaioi-60-yearg/
2) โรงกลั่น SPAC
หลักฐานอ้างอิง http://goto.thestarto.com:780/news/
details.aspx?id-7122

PPP คือต้นแบบของการคิดค้นระบบโรงเรียนนิติบุคคล
หรือ Sukavichinomics School-Based Management model
หลักฐานอ้างอิง

1) Sukavichinomics: Administrative Reform https://eric.ed.gov/?id=ED674768
2) สุขวิชโนมิกส์/ Sukavichinomics: ระบบโรงเรียนนิติบุคคล/ Sukavichinomics — School Based Management System https://osf.io/preprints/edarxiv/8dbuj_v1


ผลงานการก่อตั้ง ห้องสมุดโรงเรียนมัธยม 2542 แห่ง พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุดประชาชนทั่วไทยรวมทั้ง สถานศึกษาของ คุณพ่อ สุขวิช รังสิตพล เพื่อติด ❝ อาวุธทางปัญญา ❞ ให้ประชาชน หลุดพ้นจาก ❝ ความยากจน ❞
และ ❝ ทำสงครามกับยาเสพติด ❞ อย่างเป็นรูปธรรมและ ยั่งยืนด้วยสันติวิธี


1)มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ดินดอยแง่ม 4997  ไร่ จังหวัดเชียงราย ด้วยงบประมาณผูกพัน ตั้งแต่ปี 2540เป็นมหาวิทยาลัยแห่งภูเขา ที่เป็นดัง "ประตูความรู้ของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง" และสัญลักษณ์ Soft  Power ทางการ ศึกษาและวัฒนธรรม


2) สถาบันราชกัฏใหม่ 5 แห่ง ได้แก่  กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด นครพนม และ ศรีสะเกษ เมื่อ 20 เมษายน 2540เพื่อให้คนชนบทได้เรียนสูงในถิ่นเกิด ไม่ต้องจากบ้านและครอบครัว


3) สถาบันอาชีวศึกษา 278 แห่ง ขยายโอกาสทางอาชีพสร้าง "ทักษะ" ให้เยาวขนไทยทั่วประเทศ ใช้แรงงานอย่างมีศักดิ์ศรี และไม่ตกเป็นเหยื่อของการค้ายาเสพติด


4) โรงเรียนมัธยมปลาย 
• สมเด็จพระศรีฯ 12 แห่ง เป้าหมายเดิมคือ โรงเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อปวงชน
จุฬาภรณราชวิทยาลัย 2 แห่ง
กาญจนาภิเษกวิทยาลัย 1 แห่ง
มหิตลวิทยานุสรณ์ 


5) โรงเรียนขยายโอกาส 2,685 แห่ง เปิดชั้น ม.1 - 3ให้เด็กชนบทเรียนจบมัธยมต้นในหมู่บ้าน ลดการออกจากโรงเรียนกลางทาง และปิดโอกาสยาเสพติดแทรกซึม


6) ศูนย์เด็กเล็ก 3,470 แห่ง (จากเดิมเพียง 74) บ่มเพาะ ปัญญาตั้งแต่วัยเยาว์ 


7) ศูนย์วิทยาศาสตร์ 17 แห่งในสถาบันราชภัฏ หรือ สถาบัน MIT เพื่อปวงชน


8) ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติกาญจนภิเษก 99 แห่งทั่วประเทศ เมื่อ 5 ธันวาคม2539


9) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ปี 2539


10) ห้องสมุดโรงเรียนมัธยม 2542 แห่ง รวมทั้ง อนุมัติให้จัดตั้ง พิพิธภัณฑ์ พื้นบ้าน และ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุดประชาชน เกิน 30000 แห่ง ทั่วไทยเพื่อให้สังค้มไทย เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ความสำเร็จเป็นรูปธรรมนี้เนื่องจาก ระบบโรงเรียนนิติบุคคล หรือ PPP ปิดโอการให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย


หลักฐานอ้างอิง School Reform: New Education Facilities Established through Sukavichinomics School-Based Management Model
https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=5275457


สุขวิชโนมิกส์ (Sukanichinomics) เคารพหมายและแก้ไขปัญหาโดยใช้กฎหมายทั้งเก่าและใหม่เป็นเครื่องมือเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่นการนำกฎหมาย ปี 2491 มาใช้เพื่อให้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเบิกจ่ายได้จริง เมื่อวันครู 16 มกราคม 2539


สุขวิชโนมิกส์ (Sukhavichinomics)


ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเน้นการพัฒนา ที่ยั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางปรัชญาของฯพณฯ สุขวิช รังสิดพล ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในหลายรัฐบาล ระหว่างปี 2537 - 2540 ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ สามารถนำมาใช้จริง โดยมี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8, การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538, โครงสร้างพื้นฐาน, รัฐธรรมนูญ2540 และ อื่น สำเร็จเป็นรูปธรรม ในห้วงเวลาดังกล่าว


ด้านการต่างประเทศ


1) ACMECS (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy)
เริ่มต้น 11 กรกฎาคม 1997 ในชื่อ กลุ่ม อนุภาคี ลุ่มแม่น้ําโขง
หลักฐานอ้างอิง https://www.unodc.org/unodc/en/press/releases/press_release_1997-07-11_1.html


2) การสนับสนุน IMT-GT (Indonesia-Malaysia-
Thailand Growth Triangle)


ด้าน โครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ


Sukavichinomics: The 1993 Mass Transit Systems in 8 Regional Cities / แผนแม่บทระบบ ขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ ปี 2536


Sukavichinomics: The 1994 High-Spood Rail
Master Plan/แผนแม่บทรถไฟความเร็วสูง 6 เส้นทาง
3400 กิโลเมตร ปี 2537



Sukavichinomics: The 1997 Asian Expressway
Master Plan/แผนแม่บททางพิเศษสายเอเชีย
12 เส้นทาง 6731 กิโลเมตร 28 กุมภาพันธ์ 2540



Sukavichinomics: The 1997 National Highway
Master Plan/แผนแม่บททางหลวง 13 เส้นทาง
4,150 กิโลเมตร 22 เมษายน 2540
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่