อาทิตย์อับแสง (บทนำ) โดย มานัส

กระทู้สนทนา
อาทิตย์อับแสง (บทนำ)



อากาศหนาวในอุณหภูมิติดลบไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มในเสื้อโค้ทตัวยาวเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น และอาการโซเซเพียงเล็กน้อยเพราะฤทธ์เหล้าที่ดื่มไปในคืนนี้ ไม่ได้ทำให้การก้าวเท้าย่ำช้าลงแต่อย่างใด

มือใหญ่ภายใต้ถุงมือหนังสีดำที่สอดในกระเป๋าเสื้อโค้ทยาว ยังคงกำกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินไว้แน่น

แน่น…พอๆ กับการบีบของหัวใจ

บีบ…ด้วยความคิด ที่ทำให้ดวงหน้าคมคายของชายหนุ่มผิวขาวฉายรอยยิ้มบางๆ อ่อนโยน

สีสันช่วงเทศกาลคริสต์มาส ดูตระการตาจากการตกแต่งของถนนและบ้านเรือน จนกระทั่งเมื่อใกล้จะถึงอาคารสูงที่พักราคาแพงใจกลางมหานครนิวยอร์ค ร่างสูงจึงหยุดนิ่ง แบมือข้างหนึ่งออก พลางมองเกล็ดเล็กๆ ของหิมะสีขาวที่เพิ่งเริ่มตก ร่วงหล่นช้าๆ แล้ววางตัวมันลงอย่างแผ่วเบาบนถุงมือสีดำ

คนที่ชอบความสวยงามของหิมะสีขาวที่เพิ่งลงเกล็ดใหม่ๆ…บางเบา อ่อนโยน จะต้องมีความสุขมากๆ ในคืนนี้

เมื่อคิดเช่นนั้นชายหนุ่มจึงหยิบมือถือเครื่องเล็กทันสมัยออกมากดเรียกไปที่เบอร์…บ้าน ที่เป็นห้องพักบนตึกชั้นสูง

เพียงแต่…ที่รับสายกลับเป็นเครื่องรับอัตโนมัติ

“หิมะเริ่มตกแล้วระรินเห็นหรือยังจ๊ะ ถ้าระรินยังไม่หลับ เดี๋ยวเราออกมาเดินเล่นกันนะ” ทว่าก็ยังไม่มีใครรับสาย แม้เมื่อเขาได้บอก “ผมอยู่ที่หน้าตึกกำลังจะขึ้นไป”

เครื่องโทรศัพท์ถูกเก็บไปแล้ว ชายหนุ่มแหงนหน้ามองท้องฟ้าของฤดูหนาวภายใต้แสงไฟ รับรู้ถึงเกล็ดหิมะที่ตกมาเบาๆ บนเปลือกตา ก่อนที่จะเดินไปยังประตูทางเข้าของตึก

อากาศข้างในอบอุ่นด้วยเครื่องทำความร้อนที่เปิดเบาๆ ไม่ร้อนจัด

อบอุ่นพอดิบพอดี

หากคนที่กำลังกดเรียกลิฟท์รู้ว่าหัวใจของเขารุ่มร้อนยิ่งนัก มันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเขามาถึงหน้าห้องพัก การสูบลมหายใจเข้าอย่างแรงคล้ายว่าเจ้าตัวกำลังเตรียมตัวเตรียมใจในบางอย่าง มือของเขายังไม่คลายจากกล่องกำมะหยี่

จนเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ชายหนุ่มจึงไขกุญแจเปิดประตู ก่อนจะก้าวเข้ามาในห้องที่ปิดไฟมืดสนิท

ความมืดเช่นนี้เป็นเรื่องปรกติสำหรับค่ำคืนไหนที่เขากลับถึงบ้านในเวลาดึกที่เกือบเข้าช่วงเช้าของวันใหม่อย่างเช่นวันนี้

ในบางคืน เมื่อเปิดประตูเข้ามา เขาก็จะเห็นร่างเล็กนั่งตรงแกรนด์เปียโนใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง นิ้วเรียวจะไล่เล่นโน๊ตกล่อมยามราตรีด้วยเสียงเพลง


Moon River wider than a mile
I’m crossing you in style, some day…

[“Moon River” คำร้องโดย Johnny Mercer]


เพียงแต่ในวันนี้คนที่มักจะเล่นเปียโนคงหลับไปแล้ว ก็คงไม่ต่างจากค่ำคืนอื่นๆ ที่เขากลับมา…บ้าน ดึกดื่นเกินไป

ร่างสูงปิดประตูเบาๆ เปิดไฟในห้องโถงเล็กบริเวณทางเข้า ก่อนจะถอดรองเท้าหนังสีดำออก วางมันบนหิ้งชิดผนังอีกด้าน ที่มีรองเท้าราคาแพงวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ แล้วจึงถอดเสื้อโค้ทยาวบ่งบอกยี่ห้อดังจากอิตาลี แขวนมันไว้ในตู้เสื้อผ้าเล็ก คงเหลือเพียงสูทสีเข้มและเน็คไทสีน้ำเงินที่บัดนี้เขาคลายปมขมวดเรียบร้อยออกเพียงนิด แล้วเอื้อมมือเปิดไฟที่โคมใหญ่ใกล้โซฟายาวในบริเวณห้องนั่งเล่น

เขามองไปรอบๆ ห้องพักราคาแพงที่พลันดูคับแคบถ้าคิดเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน แต่มันก็กว้างขวางกว่าห้องของคนอีกสิบกว่าล้านคนในเมืองใหญ่

ห้องพักเพนท์เฮาส์ที่แสน ’คับแคบ’ ถูกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนชั้นดี พร้อมโทรทัศน์และเครื่องเสียงชุดใหญ่

ของตกแต่ง และของใช้ราคาแพงดูเยอะแยะ แต่เขามองมันทุกวันจนชินตา จนไม่คิดว่ามันไม่จำเป็น หรือดูรกสายตา

หากแต่ว่า…วันนี้ มีอะไรบางอย่างแปลกตาไป

ไม่คุ้นเคย

แม้แต่ไฟประดับต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่เพิ่งถูกจัดแต่งอย่างสนุกสนานเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ก็ไม่ได้เปิดทิ้งไว้ให้ระยิบระยับพราวตาเหมือนเช่นทุกๆ วัน

“ระริน…”

เสียงเรียกชะงักเมื่อชายหนุ่มก้าวเข้ามาภายในห้องนอนกว้าง

ปรกติในทุกคืน ร่างเล็กจะนอนหลับสนิทบนเตียงใหญ่ใต้ผ้าห่มนุ่มผืนหนา รอเขากลับมาปลุกเธอสุดแต่ว่าด้วยวิธีใด เพียงแต่ในคืนนี้ เตียงนอนที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวนั้นปราศจากร่างอุ่นๆ ที่คุ้นเคย จะมีก็เพียงกรอบรูปว่างเปล่าที่มีกระดาษสีครีมอยู่ใต้

มือใหญ่สั่นเล็กน้อย ยามที่วางกล่องกำมะหยี่ลงบนกรอบรูปสีน้ำตาลเข้ม แล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา

ดวงหน้าคมคายที่ปรกติแลดูชวนมอง บัดนี้ซ่อนความเจ็บปวดภายใต้สีหน้าเคร่งขึม นิ่งเฉย

เขาอ่านข้อความทวนซ้ำไปมาหลายรอบ

หัวใจกระตุกอย่างแรง


My Love, My Huckleberry Friend,

ฉันรักคุณ และรักเสมอมา รัก…แม้ไม่เคยแน่ใจเลยว่าคุณรักฉัน หรือว่ารักในสิ่งที่ฉันเป็น

หลายเดือนที่ผ่านมาฉันได้คิดในหลายสิ่ง หลายเรื่อง คิดเรื่องของเรา คิดถึง…อนาคตของเรา

และฉันคิดดีแล้วว่า การจาก…ครานี้มันคงดีที่สุดแล้วสำหรับเราทั้งสองคน

อย่าพยายามเข้าใจ อย่าพยายามหาเหตุผล

เหตุ…อยู่ที่ตัวฉันเอง เพราะฉันเอง

เราต่างมีเหตุผล มีความจำเป็น เราต่างมีความฝัน ความหวัง ที่ยังไม่สามารถบรรจบกันได้

ในวันนี้…อาจจะยัง

แต่วันข้างหน้า…may be.

และไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ขอให้คุณรู้ไว้เถอะว่า ฉันรักคุณเสมอ

ระริน



สายตาว่างเปล่า แน่นิ่ง จับจ้องกระดาษแผ่นนั้น เขาหยุดอ่านข้อความไปนานแล้ว

นานจนไม่แน่ใจว่า หยุด…ไปเมื่อไร

ไม่แน่ใจกระทั่งว่า เขาเอาเรี่ยวแรงมาจากที่ไหน เพื่อคว้ากล่องกำมะหยี่อันเล็ก แล้วเดินช้าๆ มาที่ริมหน้าต่าง

หิมะเริ่มลงหนักขึ้น แต่เกล็ดบางก็ยังคงละลายหายไปเช่นเดิม ทันที่ตกมาเกาะบนกระจกด้านนอก

ละลายเป็นเพียงหยดน้ำเล็กๆ ที่อีกไม่นานนักก็โดนเกล็ดหิมะที่ตกไล่ตามลงมากลบทับหายไป

…Oh, dream maker
You, heartbreaker
Whereever you’re going, I’m going your way.

[“Moon River” คำร้องโดย Johnny Mercer]


พลันกล่องกำมะหยี่ถูกเปิดออก เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดงาม ที่คนถือเพียงชำเลืองมองมันก่อนจะตวัดนิ้วปิดกล่องเล็กลงทันที

ไร้สิ้นเสียแล้ว…หนทางที่เราจะก้าวเดินด้วยกัน

จบแล้วหรือความหวัง…ที่เราจะอยู่ด้วยกันตราบจวบจนสิ้นลมหายใจสุดท้าย

ไม่มีอีกแล้ว!


=========================================================================
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่