เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์และพวกพ้องต้องพยายามฟัองศาลรัฐธรรมนูญ ในเรื่องที่มีการรับสมัครสส. กันตอนตีสาม (และเรื่องสถานที่ก็อาจจะโดนด้วย)
ถ้าถามว่าผิดไหม คนมีสติทั่วไปก็ต้องตอบว่าไม่ผิด เพราะสถานการณ์บริเวณจุดรับสมัครผู้แทนราษฎรถูกปิดล้อมจากม็อบ กปปส. (โดนขัดขวางซะขนาดนั้น)
ถึงขนาดผู้สมัครต้องไปแจ้งความลงบันทึกกันให้วุ่นวาย แต่ใครจะรู้ล่ะว่าถ้ามีการตัดสินจากตุลาการรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นออกมาว่าอย่างไร มีมติอย่างไร
อย่างที่เห็นๆขนาดม็อบสร้างความเดือดร้อนวุ่นวาย ตุลาการยังหน้าด้านวินิจฉัยบอกว่าไม่ผิด ผู้ชุมนุมมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา.....?!!!!
ยิ่งเหตุการณ์เหมือนย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 ที่เคยมีกรณี กกต."วาสนา เพิ่มลาภ" ถูกตัดสินจำคุกในข้อหา "หันคูหาผิดทิศ" ถึงแม้ต่อมาศาลฏีกาจะพิจารณายกฟ้อง
แต่ผลที่เกิดขึ้นคือการเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ ทั้งหมดก็พออนุมานสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้....ถือเป็นเรื่องโชคร้ายของประเทศไทย
ที่ความหวังเดียวในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในขณะนี้ อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม แต่ศาลรัฐธรรมนูญยังทำงานโดยอาศัยการตีความเข้าข้างพวกตัวเอง
และที่เลวร้ายกว่านั้นคือการที่ คนบางกลุ่มสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญให้เสมือนอยู่บนจุดสูงสุดของแวดวงศาลและตุลาการ หลังจากนี้ต่อให้มีผู้พากษา
หรือนักกฏหมายคนไหนมาชี้ว่าศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูกต้องอย่างไร เค้าก็ไม่เชื่อไม่ฟังกันแล้ว ฟังแต่ศาลรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวสุดท้ายต้องบอกตรงๆ
ผมยังมองไม่เห็นเลยว่าประเทศจะหาทางออกจากวิกฤติความขัดแย้งไปได้อย่างไร ในเมื่อความหวังทั้งหมดยังต้องฝากไว้กับระบบยุติธรรมที่ไม่เคยยุติธรรม
***แทนที่จะเป็นความหวังในการแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ แต่กลับเป็นการสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศซะมากกว่า***
ระวัง !!! ฝากเตือนไว้... เรื่องเล็กๆน้อยๆ อาจนำมาซึ่งปัญหาได้
ถ้าถามว่าผิดไหม คนมีสติทั่วไปก็ต้องตอบว่าไม่ผิด เพราะสถานการณ์บริเวณจุดรับสมัครผู้แทนราษฎรถูกปิดล้อมจากม็อบ กปปส. (โดนขัดขวางซะขนาดนั้น)
ถึงขนาดผู้สมัครต้องไปแจ้งความลงบันทึกกันให้วุ่นวาย แต่ใครจะรู้ล่ะว่าถ้ามีการตัดสินจากตุลาการรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นออกมาว่าอย่างไร มีมติอย่างไร
อย่างที่เห็นๆขนาดม็อบสร้างความเดือดร้อนวุ่นวาย ตุลาการยังหน้าด้านวินิจฉัยบอกว่าไม่ผิด ผู้ชุมนุมมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา.....?!!!!
ยิ่งเหตุการณ์เหมือนย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 ที่เคยมีกรณี กกต."วาสนา เพิ่มลาภ" ถูกตัดสินจำคุกในข้อหา "หันคูหาผิดทิศ" ถึงแม้ต่อมาศาลฏีกาจะพิจารณายกฟ้อง
แต่ผลที่เกิดขึ้นคือการเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ ทั้งหมดก็พออนุมานสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้....ถือเป็นเรื่องโชคร้ายของประเทศไทย
ที่ความหวังเดียวในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในขณะนี้ อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม แต่ศาลรัฐธรรมนูญยังทำงานโดยอาศัยการตีความเข้าข้างพวกตัวเอง
และที่เลวร้ายกว่านั้นคือการที่ คนบางกลุ่มสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญให้เสมือนอยู่บนจุดสูงสุดของแวดวงศาลและตุลาการ หลังจากนี้ต่อให้มีผู้พากษา
หรือนักกฏหมายคนไหนมาชี้ว่าศาลรัฐธรรมนูญทำไม่ถูกต้องอย่างไร เค้าก็ไม่เชื่อไม่ฟังกันแล้ว ฟังแต่ศาลรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวสุดท้ายต้องบอกตรงๆ
ผมยังมองไม่เห็นเลยว่าประเทศจะหาทางออกจากวิกฤติความขัดแย้งไปได้อย่างไร ในเมื่อความหวังทั้งหมดยังต้องฝากไว้กับระบบยุติธรรมที่ไม่เคยยุติธรรม
***แทนที่จะเป็นความหวังในการแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ แต่กลับเป็นการสร้างความขัดแย้งให้กับประเทศซะมากกว่า***