ไม่ใช่ของผม แต่เป็นคนที่ผมนับถือ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10200919465058373&set=a.1103728962928.2015030.1517863930&type=1&theater
ผมเป็นด็อกเตอร์ ผมเป็นที่ปรึกษาบริษัทมากว่ายี่สิบห้าแห่ง ปัจจุบันเป็นอยู่สิบสี่แห่งในสามประเทศ ผมสอนพนักงานมาร่วมเกินหมื่นคน
ผมมีที่ดินเกือบสองร้อยไร่ในเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ปากช่อง สระบุรี กรุงเทพ
ผมเสียภาษีขั้นสูงสุด ที่มีคนเสียกันอยู่สามหมื่นกว่าคน เพราะผมไม่หนี ไม่เลี่ยงภาษี เหมือนคนรวยๆบางคน (เป็นไปได้ไงทั้งประเทศคนรวยเต็มเมือง เสียภาษีขั้นสุดกันแค่สามหมื่นกว่าคน)
ผมเป็นเจ้าของบริษัทสามแห่ง ถือหุ้นในบริษัทมหาชนอีกยี่สิบสองบริษัท(เพราะบ้าซื้อเกินไป) มีบ้านและกระท่อมอยู่7 หลัง ทั่วไทย
แต่ผมมีสิทธิ์เลือกตั้งแค่สิทธิ์เดียว เท่ากับนางมา คนงานดูแลสวนลำไยผม เท่ากับสำลี แม่บ้านที่อยู่กันมานาน เท่ากับอ้ายมูล เท่ากับอ้ายสาม คนงานเฝ้าสวนยาง
ผมไม่มีสิทธิ์เหนือกว่าในประเทศนี้ และผมไม่เชื่อว่าผมจะมีสิทธิ์เหนือกว่า ทุกคนมีบัตรประชาชนใบเดียว ขนาดเท่ากัน ในวันที่ใช้สิทธิ์เลือกผู้แทนมาทำหน้าที่แทนเรา
ตอนนี้เอียนแทบอ้วก เวลาอ่านแนวคิดที่มองว่า ชนชั้นกลางควรมีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าคนจน หรือคนชนบท
ยังโชคดีที่ความคิดนี้อ่านมาจากพวกนักคิด นักวิชาการ แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนมากนักจากเพื่อนที่ผมรู้จัก
หวังว่าคนที่ผมรู้จักคงมีความคิด สติ เพียงพอ ที่จะไม่ไปดูถูกสิทธิ์ของคนจน
จะเชียร์ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ดี และเห็นด้วย
แต่เรื่องจำกัดสิทธิ์ประชาชนบางชนชั้นไม่ให้เลือกตั้งนี่ รับไม่ได้จริงๆ ถ้ามั่นใจในสิ่งที่คิดว่าเราทำถูกแล้ว
2 กพ. ออกไปแสดงพลังหนึ่งเสียงของแต่ละคน และเคารพในสิ่งที่จะเป็น ใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ได้ ผมยอมรับ บ้านเมืองจะได้ไปต่อเสียที แวะพักกันมาหลายเดือนแล้ว
ยืนยันหลักการ 1 คน 1 เสียง จากคนธรรมดาคนนึง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10200919465058373&set=a.1103728962928.2015030.1517863930&type=1&theater
ผมเป็นด็อกเตอร์ ผมเป็นที่ปรึกษาบริษัทมากว่ายี่สิบห้าแห่ง ปัจจุบันเป็นอยู่สิบสี่แห่งในสามประเทศ ผมสอนพนักงานมาร่วมเกินหมื่นคน
ผมมีที่ดินเกือบสองร้อยไร่ในเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ปากช่อง สระบุรี กรุงเทพ
ผมเสียภาษีขั้นสูงสุด ที่มีคนเสียกันอยู่สามหมื่นกว่าคน เพราะผมไม่หนี ไม่เลี่ยงภาษี เหมือนคนรวยๆบางคน (เป็นไปได้ไงทั้งประเทศคนรวยเต็มเมือง เสียภาษีขั้นสุดกันแค่สามหมื่นกว่าคน)
ผมเป็นเจ้าของบริษัทสามแห่ง ถือหุ้นในบริษัทมหาชนอีกยี่สิบสองบริษัท(เพราะบ้าซื้อเกินไป) มีบ้านและกระท่อมอยู่7 หลัง ทั่วไทย
แต่ผมมีสิทธิ์เลือกตั้งแค่สิทธิ์เดียว เท่ากับนางมา คนงานดูแลสวนลำไยผม เท่ากับสำลี แม่บ้านที่อยู่กันมานาน เท่ากับอ้ายมูล เท่ากับอ้ายสาม คนงานเฝ้าสวนยาง
ผมไม่มีสิทธิ์เหนือกว่าในประเทศนี้ และผมไม่เชื่อว่าผมจะมีสิทธิ์เหนือกว่า ทุกคนมีบัตรประชาชนใบเดียว ขนาดเท่ากัน ในวันที่ใช้สิทธิ์เลือกผู้แทนมาทำหน้าที่แทนเรา
ตอนนี้เอียนแทบอ้วก เวลาอ่านแนวคิดที่มองว่า ชนชั้นกลางควรมีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าคนจน หรือคนชนบท
ยังโชคดีที่ความคิดนี้อ่านมาจากพวกนักคิด นักวิชาการ แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนมากนักจากเพื่อนที่ผมรู้จัก
หวังว่าคนที่ผมรู้จักคงมีความคิด สติ เพียงพอ ที่จะไม่ไปดูถูกสิทธิ์ของคนจน
จะเชียร์ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ดี และเห็นด้วย
แต่เรื่องจำกัดสิทธิ์ประชาชนบางชนชั้นไม่ให้เลือกตั้งนี่ รับไม่ได้จริงๆ ถ้ามั่นใจในสิ่งที่คิดว่าเราทำถูกแล้ว
2 กพ. ออกไปแสดงพลังหนึ่งเสียงของแต่ละคน และเคารพในสิ่งที่จะเป็น ใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ได้ ผมยอมรับ บ้านเมืองจะได้ไปต่อเสียที แวะพักกันมาหลายเดือนแล้ว