สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
จากที่จขกทบอกนะคะเราคิดว่าร่างกายคุณปรับตัวเข้าสู่โหมด starvation แล้วค่ะ พอเข้าโหมดนี้ร่างกาย
จะสั่งให้สะสมไขมันเพิ่มและลดระดับการเผาผลาญพลังงานลง ต่อให้ออกกำลังกายมากแค่ไหน
ก็ไม่ช่วยอะไรแล้วค่ะ ยิ่งออกมากยิ่งสะสมไขมันมากขึ้นเท่านั้นค่ะถ้ายังไม่ปรับจุดนี้นะคะ
ร่างกายเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานและสำรองพลังงาน(ไขมัน)เพราะสิ่งที่คุณกินเข้าไปไม่เพียงพอ
ต่อการดำรงชีวิตของคุณ คุณกินน้อยอยู่แล้วๆยังไปออกกำลังกายหักโหมแน่นอนว่าพลังงานมัน
ไม่พอใช้ ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าก็คือไฟมาเลี้ยงไม่พอ เครื่องดับ แต่ร่างกายมีกลไกในการช่วยให้เรา
ยังมีชีวิตอยู่ได้โดยปรับโหมดเข้าสู่โหมด starvation พอร่างกายรับรู้ว่าพลังงานจากอาหารไม่พอ
ในการทำกิจกรรมมันจะเริ่มหวงแหนไขมันมากขึ้น เริ่มใช้พลังงานน้อยลง เริ่มสะสมไขมันเพราะ
กลัวว่าเดี๋ยวเราจะตาย
Starvation Mode คือสิ่งที่คนลดความอ้วนทุกคนควรจะหลีกเลี่ยง ดูจากน้ำหนักตัวและกิจกรรมที่ทำ
จขกทกินวันละ 2000 แคลอรี่ได้สบายๆเลยนะ แต่ที่คุณบอกมาดูแล้วเผลอๆไม่ถึง 1000 แคล เราหนัก
น้อยกว่าจขกทตั้งเยอะยังกินตั้ง 1600 -1800 แคลอรี่ต่อวันเลย เรามีแต่ผอมลงๆ (วัดจากรูปร่างไม่ได้วัดที่น้ำหนัก)
ตอนนี้เรียกว่าเข้าสู่ระยะวิกฤตแล้วนะคะ ถ้าไม่รีบแก้ไขจะแย่นะ วิธีแก้ไขคือให้ปรับการกินและการออกกำลังกายใหม่
- กินให้เยอะกว่า BMR แต่ให้น้อยกว่า TDEE เล็กน้อย
- ทานโปรตีนอย่างน้อย 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโล คาร์บให้มากกว่านั้นอย่างน้อย 2 เท่า
- เล่นเวทอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ (สำคัญมากเพราะกล้ามเนื้อจะช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญให้มากขึ้น)
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร
ช่วงแรกๆที่ปรับตัวใหม่แน่นอนว่าจะโยโย่นะคะ แต่มันจะได้ผลในระยะยาว คุณจะผอมโดยที่
ไม่ต้องลดอาหารเลยด้วยซ้ำ ท่องเอาไว้ค่ะว่ารากฐานที่ดีจะทำให้เราผอม "ตลอดไป" ไม่ต้อง
เจอกับปัญหายุบๆพองๆและต้องมานั่งลดความอ้วนใหม่ไม่สิ้นสุดอีก
จะสั่งให้สะสมไขมันเพิ่มและลดระดับการเผาผลาญพลังงานลง ต่อให้ออกกำลังกายมากแค่ไหน
ก็ไม่ช่วยอะไรแล้วค่ะ ยิ่งออกมากยิ่งสะสมไขมันมากขึ้นเท่านั้นค่ะถ้ายังไม่ปรับจุดนี้นะคะ
ร่างกายเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานและสำรองพลังงาน(ไขมัน)เพราะสิ่งที่คุณกินเข้าไปไม่เพียงพอ
ต่อการดำรงชีวิตของคุณ คุณกินน้อยอยู่แล้วๆยังไปออกกำลังกายหักโหมแน่นอนว่าพลังงานมัน
ไม่พอใช้ ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าก็คือไฟมาเลี้ยงไม่พอ เครื่องดับ แต่ร่างกายมีกลไกในการช่วยให้เรา
ยังมีชีวิตอยู่ได้โดยปรับโหมดเข้าสู่โหมด starvation พอร่างกายรับรู้ว่าพลังงานจากอาหารไม่พอ
ในการทำกิจกรรมมันจะเริ่มหวงแหนไขมันมากขึ้น เริ่มใช้พลังงานน้อยลง เริ่มสะสมไขมันเพราะ
กลัวว่าเดี๋ยวเราจะตาย
Starvation Mode คือสิ่งที่คนลดความอ้วนทุกคนควรจะหลีกเลี่ยง ดูจากน้ำหนักตัวและกิจกรรมที่ทำ
จขกทกินวันละ 2000 แคลอรี่ได้สบายๆเลยนะ แต่ที่คุณบอกมาดูแล้วเผลอๆไม่ถึง 1000 แคล เราหนัก
น้อยกว่าจขกทตั้งเยอะยังกินตั้ง 1600 -1800 แคลอรี่ต่อวันเลย เรามีแต่ผอมลงๆ (วัดจากรูปร่างไม่ได้วัดที่น้ำหนัก)
ตอนนี้เรียกว่าเข้าสู่ระยะวิกฤตแล้วนะคะ ถ้าไม่รีบแก้ไขจะแย่นะ วิธีแก้ไขคือให้ปรับการกินและการออกกำลังกายใหม่
- กินให้เยอะกว่า BMR แต่ให้น้อยกว่า TDEE เล็กน้อย
- ทานโปรตีนอย่างน้อย 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโล คาร์บให้มากกว่านั้นอย่างน้อย 2 เท่า
- เล่นเวทอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ (สำคัญมากเพราะกล้ามเนื้อจะช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญให้มากขึ้น)
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร
ช่วงแรกๆที่ปรับตัวใหม่แน่นอนว่าจะโยโย่นะคะ แต่มันจะได้ผลในระยะยาว คุณจะผอมโดยที่
ไม่ต้องลดอาหารเลยด้วยซ้ำ ท่องเอาไว้ค่ะว่ารากฐานที่ดีจะทำให้เราผอม "ตลอดไป" ไม่ต้อง
เจอกับปัญหายุบๆพองๆและต้องมานั่งลดความอ้วนใหม่ไม่สิ้นสุดอีก
ความคิดเห็นที่ 5
บางทีมาถามในฟอรั่ม อาจจะได้แค่แนวทางครับ
เพราะการออกกำลังกายสุดท้ายมันก็เป็นภาคปฏิบัติ รายละเอียดจริงๆ มีแค่ตัวเราเท่านั้นที่รู้
เช่นบางคนบอก
กินข้าว 1 ทัพพี ทัพแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
กินผัดผัก บางคนผัดน้ำมันเยิ้ม บางคนเลือกแบบมันน้อยๆ
บางคนบอกวิ่ง 45 นาที แต่ความเร็วแทบจะเหมือนเดิน มันก็ไม่เห็นผลเท่าที่ควร
การออกกำลังกาย คงแนะนำได้แค่ คำนึงไว้ 3 อย่าง หนักพอ นานพอ และ บ่อยพอ
เช่นวิ่ง/ว่ายน้ำ
หนักพอ คือความเร็ว/อัตราการเต้นหัวใจ
นานพอ คือ ระยะเวลา 30-45 นาที อะไรก็ว่าไป
บ่อยพอ คือ กี่วันต่อสัปดาห์
ลองปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองนะครับ
เพราะการออกกำลังกายสุดท้ายมันก็เป็นภาคปฏิบัติ รายละเอียดจริงๆ มีแค่ตัวเราเท่านั้นที่รู้
เช่นบางคนบอก
กินข้าว 1 ทัพพี ทัพแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
กินผัดผัก บางคนผัดน้ำมันเยิ้ม บางคนเลือกแบบมันน้อยๆ
บางคนบอกวิ่ง 45 นาที แต่ความเร็วแทบจะเหมือนเดิน มันก็ไม่เห็นผลเท่าที่ควร
การออกกำลังกาย คงแนะนำได้แค่ คำนึงไว้ 3 อย่าง หนักพอ นานพอ และ บ่อยพอ
เช่นวิ่ง/ว่ายน้ำ
หนักพอ คือความเร็ว/อัตราการเต้นหัวใจ
นานพอ คือ ระยะเวลา 30-45 นาที อะไรก็ว่าไป
บ่อยพอ คือ กี่วันต่อสัปดาห์
ลองปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองนะครับ
ความคิดเห็นที่ 59
เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ วิธีที่ทำถูกต้อง แต่ทำแล้วน้ำหนักไม่ลง ถ้าจะให้ได้คำแนะนำที่ดีที่สุด ต้องทำการตรวจมวลกาย หาปัญหาที่แท้จริง พอได้แล้วค่อยสร้างวิธีการลดน้ำหนัก วิธีนี้ต่างประเทศจะทำกันเยอะ ที่ไทยมีพวกสลิมอัพเซ็นเตอร์ที่ทำแบบเดียวกัน
แต่เบื้องต้นวิเคราะห์สาเหตุที่น้ำหนักไม่ลง เพราะเป็นจากไขมันสะสมตามมวลร่างกาย ถ้ายกตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์ที่มีมันแทรก เนื้อติดมันต่างๆ จะเห็นภาพง่ายขึ้น ส่วนนี้ถ้ากระตุ้นให้ร่างกายเอามาใช้ไม่ได้ ก็ต้องจัดการให้สลายออก และ ร่างกายจับว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมจนขับออกมาเอง
แต่เบื้องต้นวิเคราะห์สาเหตุที่น้ำหนักไม่ลง เพราะเป็นจากไขมันสะสมตามมวลร่างกาย ถ้ายกตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์ที่มีมันแทรก เนื้อติดมันต่างๆ จะเห็นภาพง่ายขึ้น ส่วนนี้ถ้ากระตุ้นให้ร่างกายเอามาใช้ไม่ได้ ก็ต้องจัดการให้สลายออก และ ร่างกายจับว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมจนขับออกมาเอง
ความคิดเห็นที่ 6
กินอย่างเดียว ไม่เกินความต้องการของแต่ละวัน นอนเฉยๆยังผอมเลย
แถมคุณยังออกกำลังกายเป็นประจำอีก มันจะไม่ลดได้อย่างไร
ไม่ต้องเต้นหรอกครับ ขี่จักรยานดีกว่า เอาวันละ 20-30 โล วันเว้นวัน วันไหนไม่ขี่ ก็ยกน้ำหนักเล่นก็ได้
อาหารก็คุมไป ผักเยอะๆ เนื้อเยอะๆ มันน้อยๆ ข้าวเอาแค่พอมีแรง ของหวานไม่เอา
กินขนมก็ กินน้ำหวาน ก็ดูฉลากข้างขวดข้างถุงบ้าง เห็นแล้วจะได้ไม่อยากกิน
จะยกน้ำส้มมากินสักขวด โอ้โห ต้องขี่จักรยานตั้งครึ่งชั่วโมง กว่าจะใช้พลังงานหมด หายอยากเลยครับ
แถมคุณยังออกกำลังกายเป็นประจำอีก มันจะไม่ลดได้อย่างไร
ไม่ต้องเต้นหรอกครับ ขี่จักรยานดีกว่า เอาวันละ 20-30 โล วันเว้นวัน วันไหนไม่ขี่ ก็ยกน้ำหนักเล่นก็ได้
อาหารก็คุมไป ผักเยอะๆ เนื้อเยอะๆ มันน้อยๆ ข้าวเอาแค่พอมีแรง ของหวานไม่เอา
กินขนมก็ กินน้ำหวาน ก็ดูฉลากข้างขวดข้างถุงบ้าง เห็นแล้วจะได้ไม่อยากกิน
จะยกน้ำส้มมากินสักขวด โอ้โห ต้องขี่จักรยานตั้งครึ่งชั่วโมง กว่าจะใช้พลังงานหมด หายอยากเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
สาเหตุที่น้ำหนักไม่ลดสักที ทั้งที่ออกกำลังกายและคุมอาหาร T_T
คือตอนนี้เป็นสมาชิก FF ได้เกือบปีแล้วค่ะ
ปัจจุบันอายุ 25 สุง 155 หนัก 79-80
ช่วงที่จ้าง PT ลงมาเหลือ 76 (ทำแค่20ชม.)
หลังจากนั้นก็เล่นเอง เพราะมีเพื่อนในคลาสเต้น พอมีเพื่อนเล่นเราก็สนุก ก็เลยเข้าแต่คลาสเต้นๆพวก jam zumba combat pump rpm gymball นานๆๆๆจะไปวิ่งบนลู่หรือพวกเวทเอง
ความถี่ในการออกกำลังกายแต่ละครั้งก็ 4 วัน / สัปดา ออกทีก็ 2-3คลาส ทำแบบนี่มาตั้งแต่ ส.ค.56 จนปัจจุบัน น้ำหนักก็ไม่ลง ทั้งๆที่อาหารก็คุม คือ ทานข้าวมื้อเช้า กลางวันทานน้อย เยนทานฝรั่งสด บางทีก็ดีน่างาดำ1กล่อง
ขนมหวาน ของทอด นานๆๆๆๆๆ จะเข้าปาก
จนรู้สึกท้อในการลดน้ำหนัก.....
ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าเราต้องทำอะไรเพิ่มเติมไหม ขอบคุณค่ะ^^