จากการติดตามมากมายหลายกระทู้ อยากเปิดประเด็นหาทางออกที่เป็นไปได้..
กระทู้อ้างอิง..(ต้นเรื่อง)
http://pantip.com/topic/31329261
ในมุมมองที่เฝ้าตามดู ข้อมูลข่าวสารทั้งหลายๆ ด้าน *ย้ำ* กรุณาใช้วิจารณญานในการตอบกระทู้
โปรดอย่า โยนสี หรือสาดสีกันไปมา อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบ หรือกระทู้เที่ยวทะเลไปเสีย
เจตนารมย์ ของกระทู้นี้ อยากให้มาร่วมพิจารณาถึงทางออกร่วมกัน *ย้ำ*
สมมุติกัน..(สมมุติว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของ "ทางออก")
ถ้าเราตั้งกฏเกณฑ์ว่า แต่ละสาขาให้เลือกตัวแทนมาสาขาละคนโดยวิธีเลือกตั้ง หรือถ้ากลัวว่าจะมีกลุ่มแอบสอดไส้ งั้นก็เปิดตัวมาเลยว่า
ให้ส่งตัวแทนกลุ่มมากลุ่มละหนึ่งคนต่อทุกสาขาอาชีพ มี 900 อาชีพ ก็ 900 คนต่อกลุ่มการเมือง เป็นต้น
เช่น ตัวอย่าง เรารู้อยู่ว่าปัจจุบันมีกลุ่มการเมืองใหญ่ๆ สามพวก งั้นแทนที่จะมาจัดเลือกตั้งเอาตัวแทนประชาชน เพราะเลือกยังไงก็ไม่ถูกใจ
ทั้งหมดงั้นก็ให้ แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาเลยคนละสาขาอาชีพ สมมุติว่า ทุกสาขาในเมืองไทยมี 900 สาขาอาชีพ (เอาแบบเต็มที่เลยนะ)
ตั้งแต่ชาวนายันอาชีพหมอ, ทนาย, พยาบาล, ฯลฯ
แทนที่จะมาเสียเวลาเลือกตัวย่อยหาตัวแทน เพราะถึงเลือกมา 900 คน เดี๋ยวมันก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม งั้นเอาแบบให้แต่ละกลุ่มส่งมาเลย
ก็จะเป็น 2,700 คน (900x3 กลุ่ม) คงไม่มากหรอก แค่นี้เอง ถ้าจะเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งชาติ นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ มีเงินเดือนให้ด้วยเอ้า
โดยให้เงินเดือนที่เหมาะสม (ทีคอรัปชั่นยังมากกว่านี้หลายร้อยเท่า แค่นี้จิ๊บๆ)
แล้วแยกสภาประชาชน (สปชช.) ออกจาก สภา สส. สว. ไปเลย โดยให้สภาประชาชนมีบทบาทชัดเจนในเรื่องการคานบริบท ของการออก
กฏหมายที่ไม่สอดคล้องต่อประชาชน หรือเป็นคัวแทนในการดำเนินการทำประชาพิจารณ์ในการปฏิบัติของ สส.ก็ยังได้
เมื่อพบว่ากฏหมายใดๆ ที่ไม่ส่งเสริม หรือเป็นประโยชน์ต่อ ประชาชนโดยรวม ให้สภาประชาชน ส่งเรื่องยื่นฟ้องต่อ ศาล จะศาลไหนก็แล้ว
แต่เรื่องนั้นๆ ที่เกิดผลกระทบตามสิทธิ เพื่อวินิจฉัย แน่นอนว่า กว่าจะส่งเสริม หรือยิ่นฟ้องตัวบริบทนั้นๆ คงมีการถกเถียงกันที่สภาประชาชน
ก่อนแล้ว แต่มันก็ชี้ให้เห็นชัดเจนไม่ใช่หรือ ว่าตัวแทน 900 คนในแต่ละกลุ่มนี้ ตกลงเข้าไปเป็นตัวแทนเพื่อประชาชน หรือเพื่อกลุ่ม เพราะ
ทุกครั้งที่มีการถกเถียง ให้เปิดประเด็นกันไปเลย ถ่ายทอดไปเลย
หากพบว่าสภาประชาชน ยังเอียงอีก.. กลไกในการจัดการจะเป็นอย่างไรต่อ... เช่นนี้ไม่น่าสนใจหรือ..???
เพราะกลไก สส. สว.. ในปัจจุบัน มันไม่ตอบรับความต้องการของประชาชน รวมทั้งสามารถซื้อสิทธฺิ ขายเสียงกันได้ (จากข้อเท็จจริง
และคำกล่าวหาทุกกรณี)
แสดงว่าปริมาณ ของกลุ่มเสียงข้างน้อย ไม่อาจคาน อำนาจการต่อรองในกรณี ซื้อสิทธิขายเสียงได้ พูดง่ายๆ คนมันน้อย เลยสามารถ
ใช้เงินซื้อสิทธิได้.
ส่วนองค์กร อิสระที่มีอยู่ ก็ควรคงสภาพไว้เช่นเดิม เพราะแต่ละองค์กร ก็น่าจะมีบทบาทตามวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งทั้งสิ้น.. ถ้าไม่เข้ม
แข็งก็ควรดำเนินการให้มันเข้มแข็ง เพราะหน้าที่การตรวจสอบ เป็นหน้าที่แต่เดิมขององค์กรนี้ หรือจะให้สภาประชาชนเข้าร่วมในการ
ตรวจสอบก็ยังสามารถกระทำได้
แถมให้อีก ถ้ากลัวว่า กลไก ของสภาประชาชนจะเอียงอีก..
งั้นการตั้งสภาประชาชน ให้ยึดหลักตามพื้นที่ หรือ ตามความหนาแน่นของประชากรไปด้วยก็ได้..
เช่น กี่คนทุกอาชีพต่อพื้นที่ต่อกลุ่มไปเลย (จะได้ไม่ต้องมาแบ่งข้าง) ให้ทุกข้างเข้าไปให้หมด (จับปูใส่กระด้ง) ทีนี้เวลาใครจะเถียงอะไร
เป็นประโยชน์หรือไม่ ก็ให้เปิดวิปประชุมแบบ ถ่ายทอดไปเลย เรื่องๆ หนึ่งจะเถียงซัก วันสองวันไปเลย ทีนี้หละ กฏหมาย หรือบริบทบางข้อ
ไม่น่าที่จะตอบสนอง ทุกกลุ่มทุกอาชีพได้หรอก เผลอๆ กลุ่มเดียวกัน ทะเลาะกันผ่านสื่อ อาจมีให้เห็นก็ได้
ทีนี้คงเห็นไส้ เห็นพุงกันหมด. จริงไหม (ผมยินดีเข้าร่วม สภาประชาชนฯ นี้นะ..)
"สภาประชาชน" กระทู้เสนอ ทางออก (ไร้สี)
กระทู้อ้างอิง..(ต้นเรื่อง)
http://pantip.com/topic/31329261
ในมุมมองที่เฝ้าตามดู ข้อมูลข่าวสารทั้งหลายๆ ด้าน *ย้ำ* กรุณาใช้วิจารณญานในการตอบกระทู้
โปรดอย่า โยนสี หรือสาดสีกันไปมา อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบ หรือกระทู้เที่ยวทะเลไปเสีย
เจตนารมย์ ของกระทู้นี้ อยากให้มาร่วมพิจารณาถึงทางออกร่วมกัน *ย้ำ*
สมมุติกัน..(สมมุติว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของ "ทางออก")
ถ้าเราตั้งกฏเกณฑ์ว่า แต่ละสาขาให้เลือกตัวแทนมาสาขาละคนโดยวิธีเลือกตั้ง หรือถ้ากลัวว่าจะมีกลุ่มแอบสอดไส้ งั้นก็เปิดตัวมาเลยว่า
ให้ส่งตัวแทนกลุ่มมากลุ่มละหนึ่งคนต่อทุกสาขาอาชีพ มี 900 อาชีพ ก็ 900 คนต่อกลุ่มการเมือง เป็นต้น
เช่น ตัวอย่าง เรารู้อยู่ว่าปัจจุบันมีกลุ่มการเมืองใหญ่ๆ สามพวก งั้นแทนที่จะมาจัดเลือกตั้งเอาตัวแทนประชาชน เพราะเลือกยังไงก็ไม่ถูกใจ
ทั้งหมดงั้นก็ให้ แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาเลยคนละสาขาอาชีพ สมมุติว่า ทุกสาขาในเมืองไทยมี 900 สาขาอาชีพ (เอาแบบเต็มที่เลยนะ)
ตั้งแต่ชาวนายันอาชีพหมอ, ทนาย, พยาบาล, ฯลฯ
แทนที่จะมาเสียเวลาเลือกตัวย่อยหาตัวแทน เพราะถึงเลือกมา 900 คน เดี๋ยวมันก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม งั้นเอาแบบให้แต่ละกลุ่มส่งมาเลย
ก็จะเป็น 2,700 คน (900x3 กลุ่ม) คงไม่มากหรอก แค่นี้เอง ถ้าจะเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งชาติ นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ มีเงินเดือนให้ด้วยเอ้า
โดยให้เงินเดือนที่เหมาะสม (ทีคอรัปชั่นยังมากกว่านี้หลายร้อยเท่า แค่นี้จิ๊บๆ)
แล้วแยกสภาประชาชน (สปชช.) ออกจาก สภา สส. สว. ไปเลย โดยให้สภาประชาชนมีบทบาทชัดเจนในเรื่องการคานบริบท ของการออก
กฏหมายที่ไม่สอดคล้องต่อประชาชน หรือเป็นคัวแทนในการดำเนินการทำประชาพิจารณ์ในการปฏิบัติของ สส.ก็ยังได้
เมื่อพบว่ากฏหมายใดๆ ที่ไม่ส่งเสริม หรือเป็นประโยชน์ต่อ ประชาชนโดยรวม ให้สภาประชาชน ส่งเรื่องยื่นฟ้องต่อ ศาล จะศาลไหนก็แล้ว
แต่เรื่องนั้นๆ ที่เกิดผลกระทบตามสิทธิ เพื่อวินิจฉัย แน่นอนว่า กว่าจะส่งเสริม หรือยิ่นฟ้องตัวบริบทนั้นๆ คงมีการถกเถียงกันที่สภาประชาชน
ก่อนแล้ว แต่มันก็ชี้ให้เห็นชัดเจนไม่ใช่หรือ ว่าตัวแทน 900 คนในแต่ละกลุ่มนี้ ตกลงเข้าไปเป็นตัวแทนเพื่อประชาชน หรือเพื่อกลุ่ม เพราะ
ทุกครั้งที่มีการถกเถียง ให้เปิดประเด็นกันไปเลย ถ่ายทอดไปเลย
หากพบว่าสภาประชาชน ยังเอียงอีก.. กลไกในการจัดการจะเป็นอย่างไรต่อ... เช่นนี้ไม่น่าสนใจหรือ..???
เพราะกลไก สส. สว.. ในปัจจุบัน มันไม่ตอบรับความต้องการของประชาชน รวมทั้งสามารถซื้อสิทธฺิ ขายเสียงกันได้ (จากข้อเท็จจริง
และคำกล่าวหาทุกกรณี)
แสดงว่าปริมาณ ของกลุ่มเสียงข้างน้อย ไม่อาจคาน อำนาจการต่อรองในกรณี ซื้อสิทธิขายเสียงได้ พูดง่ายๆ คนมันน้อย เลยสามารถ
ใช้เงินซื้อสิทธิได้.
ส่วนองค์กร อิสระที่มีอยู่ ก็ควรคงสภาพไว้เช่นเดิม เพราะแต่ละองค์กร ก็น่าจะมีบทบาทตามวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งทั้งสิ้น.. ถ้าไม่เข้ม
แข็งก็ควรดำเนินการให้มันเข้มแข็ง เพราะหน้าที่การตรวจสอบ เป็นหน้าที่แต่เดิมขององค์กรนี้ หรือจะให้สภาประชาชนเข้าร่วมในการ
ตรวจสอบก็ยังสามารถกระทำได้
แถมให้อีก ถ้ากลัวว่า กลไก ของสภาประชาชนจะเอียงอีก..
งั้นการตั้งสภาประชาชน ให้ยึดหลักตามพื้นที่ หรือ ตามความหนาแน่นของประชากรไปด้วยก็ได้..
เช่น กี่คนทุกอาชีพต่อพื้นที่ต่อกลุ่มไปเลย (จะได้ไม่ต้องมาแบ่งข้าง) ให้ทุกข้างเข้าไปให้หมด (จับปูใส่กระด้ง) ทีนี้เวลาใครจะเถียงอะไร
เป็นประโยชน์หรือไม่ ก็ให้เปิดวิปประชุมแบบ ถ่ายทอดไปเลย เรื่องๆ หนึ่งจะเถียงซัก วันสองวันไปเลย ทีนี้หละ กฏหมาย หรือบริบทบางข้อ
ไม่น่าที่จะตอบสนอง ทุกกลุ่มทุกอาชีพได้หรอก เผลอๆ กลุ่มเดียวกัน ทะเลาะกันผ่านสื่อ อาจมีให้เห็นก็ได้
ทีนี้คงเห็นไส้ เห็นพุงกันหมด. จริงไหม (ผมยินดีเข้าร่วม สภาประชาชนฯ นี้นะ..)