ดิฉันต้องขอแจ้งก่อนว่าดิฉันไม่ได้มาต่อว่าเพียงแต่ขอมาแสดงความรู้สึกและขอความกรุณาผู้ชุมนุมที่หยาบคายก็ได้ค่ะ
และทนไม่ไหวแล้วค่ะ ที่ต้องเผชิญกับคำพูดที่กอปรด้วยอารมณ์เพียงอย่างเดียว
ดิฉันตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สี่และจะไม่ตั้งกระทู้เกี่ยวกับการเมืองอีกเลย เพราะทราบดีว่าแค่เสียงเล็กๆคงไม่มีความหมายอะไรในเหตุการณ์ลักษณะนี้
กระทู้แรกที่ดิฉันตั้ง คือ กลัว
กลัวในที่นี้ไม่ได้กลัวม๊อบ แต่กลัวบ้านเมืองจะเสียหาย
มันเป็นความรู้สึกกลัวที่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้และวันต่อๆไปจะเกิดอะไรขึ้น
กระทู้ที่สองที่ดิฉันตั้ง คือ ถ้าถูกบังคับให้เลือกฝ่ายเลือกข้างโดยคำพูดที่ก้าวร้าวหยาบคาย จะสามารถเอาผิดได้มั๊ย
ความรู้สึกตอนนั้นคือ นี่มันอะไรกัน ลูกเล็กเด็กแดงเป็นอะไรกันไปหมด
กระทู้ที่สามที่ตั้งคือ อ้าวไหงเป็นแบบนี้ คือมีเด็กอยู่คนนึงเค้าระบายในเฟสบุ๊คเค้า แต่เพื่อนในเฟสบุ๊คดิฉันแชร์มา
และเพื่อนบ้างคนก็ยังโพสต์ก้าวร้าวกระทบกระทั่ง หาว่าที่เงียบเพราะรอดูว่าฝ่ายไหนชนะก็จะไปเข้าข้างฝ่ายนั้น
อารมณ์ตอนนั้นมันปี๊ดที่สุดเลยค่ะ เหมือนกับเรายังให้เกียรติในการตัดสินใจของเค้า แต่ทำไมเค้าถึงไม่ให้เกียรติเราบ้างเลย
คำก็ควาย สองคำก็โง่ สามคำก็เป็นพวกฝ่ายตรงข้าม เป็นขี้ข้า ภาษาที่พูดเคาะพิมพ์เดียวกันออกมาเป๊ะเลยค่ะ
ขอโทษเถอะนะคะ ดิฉันประกอบอาชีพเป็นครูสอนเด็กๆ ความก้าวร้าวระดับเด็กๆยังพอรับได้
แต่ความก้าวร้าวระดับผู้ใหญ่ บอกตรงๆต่อให้ใจเย็นแค่ไหนก็ปรี๊ดแตกได้
ที่ดิฉันมาตั้งกระทู้ครั้งนี้ตั้งใจจะบอกกล่าวผู้ชุมนุมนะคะ
"หยุดก้าวร้าว หยุดหยาบคาย หยุดโมโหโทโส แล้วตั้งสติดีๆ ไม่มีใครที่โง่ ควาย เป็นขี้ข้า หรือรอดูฝ่ายไหนชนะก็เข้าข้างฝ่ายนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่เรามีมุมมองในการมองเหตุการณ์ที่ต่างกัน คนที่ไม่เลือกข้าง ไม่เลือกสี ไม่สนับสนุนใครเลย ไม่ได้แปลว่า เค้าเป็นขี้ข่าใคร ไม่ได้แปลว่าเค้านิ่งดูดาย หรือไม่เดือดร้อน บางทีเค้าอาจรักประเทศชาตจนไม่อาจจะขาดสติหักดิบทำร้ายประเทศชาติก็เป็นได้ ถ้ามีข้าศึกมาโจมตีหรือบุกรุกประเทศชาติ ไม่แน่นะคะ คนที่พวกคุณไปกล่าวคำหยาบคายต่อเค้า เค้าอาจจะเป็นคนหยิบดาบแทนนกหวีดกระโหลกกะลาไปเผชิญหน้ากับข้าศึกก็ได้ (แต่ยุคนี้คงไม่มี) แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ใช่เรายอมรับ ยอมให้ใครก็ได้ที่เรียกตัวว่าเป็นนักการเมือง มาฉ้อโกงพวกเรา บางคนไปโพสต์ต่อว่านักการเมืองท่านหนึ่งให้แสดงความคิดเห็น พอเค้าแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกับใจพวกคุณ พวกคุณก็จะใช้คำพูดเดิมๆ กล่าวโต้ตอบเค้า ลองคิดดูนะคะ แค่เค้าเห็นต่างจากคุณ คุณก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อารมณ์นั้นมันคืออารมณ์รักชาติ รักความยุติธรรม รักประชาธิปไตยจริงหรือเปล่าคะ ขอร้องนะคะ คุณมีสิทธิเลือกที่จะออกไปชุมนุม เราก็มีสิทธิที่จะไม่ออกไป ไม่เลือกข้าง ไม่เลือกฝ่าย ได้เหมือนๆกัน ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ยังไม่ล้มเลิกระบอบการปกครอง ดิฉันและคนอื่นๆที่ไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง มีสิทธิเท่าเทียมกับพวกคุณ แต่ดิฉันและคนอื่นๆจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยกฎหมายค่ะ"
ถ้าหากกระทู้นี้สร้างความไม่พอใจให้ท่านใด ดิฉันต้องกราบขออภัยด้วยนะคะ แต่ดิฉันและอีกหลายท่านมีความคิดเห็นแบบนี้จริงๆ
จากไม่เลือกข้าง เริ่มจะเกลียดและกลัว
และทนไม่ไหวแล้วค่ะ ที่ต้องเผชิญกับคำพูดที่กอปรด้วยอารมณ์เพียงอย่างเดียว
ดิฉันตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สี่และจะไม่ตั้งกระทู้เกี่ยวกับการเมืองอีกเลย เพราะทราบดีว่าแค่เสียงเล็กๆคงไม่มีความหมายอะไรในเหตุการณ์ลักษณะนี้
กระทู้แรกที่ดิฉันตั้ง คือ กลัว
กลัวในที่นี้ไม่ได้กลัวม๊อบ แต่กลัวบ้านเมืองจะเสียหาย
มันเป็นความรู้สึกกลัวที่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้และวันต่อๆไปจะเกิดอะไรขึ้น
กระทู้ที่สองที่ดิฉันตั้ง คือ ถ้าถูกบังคับให้เลือกฝ่ายเลือกข้างโดยคำพูดที่ก้าวร้าวหยาบคาย จะสามารถเอาผิดได้มั๊ย
ความรู้สึกตอนนั้นคือ นี่มันอะไรกัน ลูกเล็กเด็กแดงเป็นอะไรกันไปหมด
กระทู้ที่สามที่ตั้งคือ อ้าวไหงเป็นแบบนี้ คือมีเด็กอยู่คนนึงเค้าระบายในเฟสบุ๊คเค้า แต่เพื่อนในเฟสบุ๊คดิฉันแชร์มา
และเพื่อนบ้างคนก็ยังโพสต์ก้าวร้าวกระทบกระทั่ง หาว่าที่เงียบเพราะรอดูว่าฝ่ายไหนชนะก็จะไปเข้าข้างฝ่ายนั้น
อารมณ์ตอนนั้นมันปี๊ดที่สุดเลยค่ะ เหมือนกับเรายังให้เกียรติในการตัดสินใจของเค้า แต่ทำไมเค้าถึงไม่ให้เกียรติเราบ้างเลย
คำก็ควาย สองคำก็โง่ สามคำก็เป็นพวกฝ่ายตรงข้าม เป็นขี้ข้า ภาษาที่พูดเคาะพิมพ์เดียวกันออกมาเป๊ะเลยค่ะ
ขอโทษเถอะนะคะ ดิฉันประกอบอาชีพเป็นครูสอนเด็กๆ ความก้าวร้าวระดับเด็กๆยังพอรับได้
แต่ความก้าวร้าวระดับผู้ใหญ่ บอกตรงๆต่อให้ใจเย็นแค่ไหนก็ปรี๊ดแตกได้
ที่ดิฉันมาตั้งกระทู้ครั้งนี้ตั้งใจจะบอกกล่าวผู้ชุมนุมนะคะ
"หยุดก้าวร้าว หยุดหยาบคาย หยุดโมโหโทโส แล้วตั้งสติดีๆ ไม่มีใครที่โง่ ควาย เป็นขี้ข้า หรือรอดูฝ่ายไหนชนะก็เข้าข้างฝ่ายนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่เรามีมุมมองในการมองเหตุการณ์ที่ต่างกัน คนที่ไม่เลือกข้าง ไม่เลือกสี ไม่สนับสนุนใครเลย ไม่ได้แปลว่า เค้าเป็นขี้ข่าใคร ไม่ได้แปลว่าเค้านิ่งดูดาย หรือไม่เดือดร้อน บางทีเค้าอาจรักประเทศชาตจนไม่อาจจะขาดสติหักดิบทำร้ายประเทศชาติก็เป็นได้ ถ้ามีข้าศึกมาโจมตีหรือบุกรุกประเทศชาติ ไม่แน่นะคะ คนที่พวกคุณไปกล่าวคำหยาบคายต่อเค้า เค้าอาจจะเป็นคนหยิบดาบแทนนกหวีดกระโหลกกะลาไปเผชิญหน้ากับข้าศึกก็ได้ (แต่ยุคนี้คงไม่มี) แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ใช่เรายอมรับ ยอมให้ใครก็ได้ที่เรียกตัวว่าเป็นนักการเมือง มาฉ้อโกงพวกเรา บางคนไปโพสต์ต่อว่านักการเมืองท่านหนึ่งให้แสดงความคิดเห็น พอเค้าแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกับใจพวกคุณ พวกคุณก็จะใช้คำพูดเดิมๆ กล่าวโต้ตอบเค้า ลองคิดดูนะคะ แค่เค้าเห็นต่างจากคุณ คุณก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อารมณ์นั้นมันคืออารมณ์รักชาติ รักความยุติธรรม รักประชาธิปไตยจริงหรือเปล่าคะ ขอร้องนะคะ คุณมีสิทธิเลือกที่จะออกไปชุมนุม เราก็มีสิทธิที่จะไม่ออกไป ไม่เลือกข้าง ไม่เลือกฝ่าย ได้เหมือนๆกัน ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ยังไม่ล้มเลิกระบอบการปกครอง ดิฉันและคนอื่นๆที่ไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง มีสิทธิเท่าเทียมกับพวกคุณ แต่ดิฉันและคนอื่นๆจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยกฎหมายค่ะ"
ถ้าหากกระทู้นี้สร้างความไม่พอใจให้ท่านใด ดิฉันต้องกราบขออภัยด้วยนะคะ แต่ดิฉันและอีกหลายท่านมีความคิดเห็นแบบนี้จริงๆ