หัวใจของประชาธิปไตยประกอบด้วย สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ความเสมอภาคคือการความเท่าเทียมในการใช้สิทธิและเสรีภาพ ง่ายๆ เช่น ม๊อบที่ปิดถนนอยู่อ้างว่าใช้สิทธิและเสรีภาพ แต่การใช้สิทธิและเสรีภาพนั้นได้จำกัดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เพราะคนที่จะขับรถและเดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวไม่สามารถทำได้ อย่างนี้ก็ถือว่าผิดหลักประชาธิปไตย เพราะไม่เท่าเทียมในการใช้ทางสาธารณะ
สภาประชาชนที่เลือกจากตัวแทนวิชาชีพ ก็ไม่ต่างจากระบอบคอมมิวนิสตืจีน เพราะมีเพียงคนบางกลุ่มที่มีสิทธิและเสรีภาพในการคัดเลือกตัวแทนในสภาและการจัดตั้งรัฐบาล ในระบอบคอมมิวนิสต์จีนทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งจากสมาชิกเกือบ 90 ล้านคน โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเขาก็ใช้ชื่อสภาประชาชน เพราะเป็นการสวมสิทธิอ้างว่าสภานี้ก็มาจากประชาชน แต่ไม่ใช่ ไปดูได้ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เช่น สหรัฐฯ สภาชื่อ สภา Congress ไม่มีอ้างชื่อสภาว่าประชาชน การปกครองที่สุเทพอ้างในการปกครองสภาประชาชนจึงเป็นการให้สิทธิกับคนบางกลุ่ม และตัดสิทธิกับคนที่ไม่ได้เข้ากลุ่มวิชาชีพ ซึ่งไม่เป็นความเสมอภาคในการใช้สิทธิ เอาง่ายๆคือ อาชีพนักข่าว ถามว่ามีสมาชิกสมาคมกี่คน และนักข่าวอิสระมีกี่คน โดยปกติคนที่เข้าเป็นสมาชิกสมาคมในทุกวิชาชีพมีเพียงไม่เกินร้อยละ 5-10 เท่ากับเป็นการใช้คนเพียงส่วนน้อยของชาติในการปกครองประเทศ นี่ก็ไม่ต่างจากระบอบคอมมิวนิสต์ที่มักอ้างว่าตนเองมาจากคนส่วนใหญ่แล้ว
ประเทศไทยปกครองระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นต้องมีหัวใจสามอย่างคือ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะไม่เป็นประชาธิปไตย ง่ายๆ ถ้าขาดสิทธิและเสรีภาพ ก็ย่อมเป็นระบอบเผด็จการ ถ้าขาดความเสมอภาค ก็ย่อมเป็นคอมมิวนิสต์
วันนี้คนไทยมีสิทธิในการเลือก เราจะเลือกคำพูดหรูๆ ว่า สภาประชาชน แต่ไม่ให้สิทธิประชาชนเท่าเทียมกันอย่างนั้นหรือ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนไทยควรแก้ไขในการมี สว สรรหาด้วยซ้ำ และทุกพรรคการเมืองควรสนับสนุนด้วย ถามว่า วันนี้ใครเลือก สว สรรหา และ สว สรรหา มาจากตัวแทนประชาชนกี่คน ผมกล้าตอบว่า ไม่ถึงหนึงพันคนที่มีส่วนในการสรรหา และเป็นตัวแทนในการเกี่ยวข้องกับการสรรหา สว อย่างนี้ขาดความเสมอภาค คนไทยควรจะสนับสนุนให้เกิดประชาธิปไตยจริงๆ คือมีความเท่าเทียมกันด้วย ไม่มีอภิสิทธิชนแบบนี้
สภาประชาชนที่สุเทพเสนอคือระบอบคอมมิวนิสต์ในจีน เพราะขาดหัวใจของประชาธิปไตยเรื่องความเสมอภาค
สภาประชาชนที่เลือกจากตัวแทนวิชาชีพ ก็ไม่ต่างจากระบอบคอมมิวนิสตืจีน เพราะมีเพียงคนบางกลุ่มที่มีสิทธิและเสรีภาพในการคัดเลือกตัวแทนในสภาและการจัดตั้งรัฐบาล ในระบอบคอมมิวนิสต์จีนทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งจากสมาชิกเกือบ 90 ล้านคน โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเขาก็ใช้ชื่อสภาประชาชน เพราะเป็นการสวมสิทธิอ้างว่าสภานี้ก็มาจากประชาชน แต่ไม่ใช่ ไปดูได้ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เช่น สหรัฐฯ สภาชื่อ สภา Congress ไม่มีอ้างชื่อสภาว่าประชาชน การปกครองที่สุเทพอ้างในการปกครองสภาประชาชนจึงเป็นการให้สิทธิกับคนบางกลุ่ม และตัดสิทธิกับคนที่ไม่ได้เข้ากลุ่มวิชาชีพ ซึ่งไม่เป็นความเสมอภาคในการใช้สิทธิ เอาง่ายๆคือ อาชีพนักข่าว ถามว่ามีสมาชิกสมาคมกี่คน และนักข่าวอิสระมีกี่คน โดยปกติคนที่เข้าเป็นสมาชิกสมาคมในทุกวิชาชีพมีเพียงไม่เกินร้อยละ 5-10 เท่ากับเป็นการใช้คนเพียงส่วนน้อยของชาติในการปกครองประเทศ นี่ก็ไม่ต่างจากระบอบคอมมิวนิสต์ที่มักอ้างว่าตนเองมาจากคนส่วนใหญ่แล้ว
ประเทศไทยปกครองระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นต้องมีหัวใจสามอย่างคือ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะไม่เป็นประชาธิปไตย ง่ายๆ ถ้าขาดสิทธิและเสรีภาพ ก็ย่อมเป็นระบอบเผด็จการ ถ้าขาดความเสมอภาค ก็ย่อมเป็นคอมมิวนิสต์
วันนี้คนไทยมีสิทธิในการเลือก เราจะเลือกคำพูดหรูๆ ว่า สภาประชาชน แต่ไม่ให้สิทธิประชาชนเท่าเทียมกันอย่างนั้นหรือ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนไทยควรแก้ไขในการมี สว สรรหาด้วยซ้ำ และทุกพรรคการเมืองควรสนับสนุนด้วย ถามว่า วันนี้ใครเลือก สว สรรหา และ สว สรรหา มาจากตัวแทนประชาชนกี่คน ผมกล้าตอบว่า ไม่ถึงหนึงพันคนที่มีส่วนในการสรรหา และเป็นตัวแทนในการเกี่ยวข้องกับการสรรหา สว อย่างนี้ขาดความเสมอภาค คนไทยควรจะสนับสนุนให้เกิดประชาธิปไตยจริงๆ คือมีความเท่าเทียมกันด้วย ไม่มีอภิสิทธิชนแบบนี้