แถลงการ อภิสิทธิ์

กระทู้สนทนา


มติ ปชป. สู้คู่ขนาน ใชสถานะส.ส.จับมือ ปชช.โค่นระบอบทักษิณ มาร์ค สั่งลุยเต็มที่หลังปิดประชุมสภา ให้ส.ส.เคลื่อนไหวเต็มสูบ ปลุก ปชช.ออกมาสุ้รัฐไร้ความชอบธรรม บีบ ปู แสดงความรับผิดชอบ ชนะเสียงในสภาแต่หนีความรับผิดชอบไม่ได้ ก่อนก้าวสู่การปฏิรูปประเทศ ยัน ไม่ขัดแย้งกับผู้ชุมนุม เหตุเป้าหมายเดียวกัน เตือนสติ วิธีการต่างอย่าให้เป็นชนวนขัดแย้งกันเอง วอน ผนึกกำลังสู้รัฐหน้าด้าน เย้ย เพื่อไทยใช้ยุทธศาสตร์ ไทยเฉย ไปไม่รอด เจอ ปชช.ต่อต้านจนบริหารประเทศไม่ได้ มั่นใจ สู้ยืดเยื้อไม่เป็นปัญหา เชื่อเวลาอยู่ข้างคนดี

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม กรรมการบริหารพรรคและส.ส.ร่วมกันแถลงจุดยืนพรรคภายหลังการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองหลังเสร็จสิ่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจและมีการเคลื่อนไหวของประชาชนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคยืนยันเดินหน้าล้มล้างระบอบทักษิณโดยสมาชิกและกรรมการทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าการเดินหน้าล้มล้างระบอบทักษิณนั้น พรรคจะต้องเคลื่อนไหวเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ยืนยันคือจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาของประเทศซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การปฏิรูปประเทศจะต้องเริ่มต้นจากการยอมรับก่อนว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หมดความชอบธรรมแล้ว แม้จะชนะเสียงในสภาแต่ไม่สามารถหนีความรับผิดชอบต่อประชาชนได้ เพราะมีการกระทำที่ประชาชนไม่ยอมรับหลายประการคือ 1 ความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคนโกง คนเผาคนฆ่า โดยที่รัฐบาลไม่สามารถทำให้กฎหมายหายไปจากระบบของรัฐสภา 2 มีการประกาศไม่รับอำนาจศาล กระตุ้นให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความรู้สึกว่าเมื่อรัฐบาลไม่รับอำนาจศาลมีเหตุผลอะไรที่ประชาชนจะต้องรับอำนาจรัฐบาล

นายอภสิทธิ์ ยังแสดงความเสียใจต่อถ้อยแถลงของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่เรียกร้องให้ประช่าชนยุติการชุมนุมโดยเห็นว่าไม่ได้แสดงถึงความเข้าใจหรือความสำนึกต่อความเลวร้ายที่รัฐบาลก่อขึ้นและยังคงปฏิบัติต่อไป

“เรายืนยันว่านายกฯไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ใครยุติการชุมนุม เมื่อเขาชุมนุมเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญเนื่องจากเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 69 เพราะไม่ปรากฏว่ามีผู้ชุมนุมคนใดที่จะไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม แตกต่างจากพฤติกรรมของรัฐบาลที่พยายามล้างผิดตัวเองประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล และพรรคพร้อมเคลื่อนไหวสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนที่จะเรียกร้องความถูกต้องชอบธรรมตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ แต่ทุกคนต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบตามกฎหมาย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพรรคหลังปิดสมัยประชุมสภาว่า พรรคจะสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสื่อสารถึงรัฐบาลว่าประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาลที่ไม่ยอมรับอำนาจศาล และเรียกร้องว่าประชาชนที่รักความถูกต้องหากทำกิจกรรมที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญพรรคพร้อมที่จะร่วมทำกิจกรรมด้วย ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวของอดีตส.ส.ของพรรคนั้นขอยืนยันว่า ทุกคนลาออกจากส.ส.เพื่อเป็นอิสระทางความคิดในการเคลื่อนไหว โดยพรรคยังสนับสนุนทุกการเคลื่อนไหวที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และในฐานะส.ส.มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนในทุกสถานที่ว่าได้รับการดูแลมีความปลอดภัย โดยสามารถเข้าไปอำนวยความสะดวกได้ตามหน้าที่ที่กำหนดในกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเกี่ยวกับการปฏิรูปพรรคโดยมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าการปรับโครงสร้างพรรคจะเดินต่อ จัดประชุมใหญ่รองรับข้อบังคับพรรคใหม่ เพื่อเปิดพรรคให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจการของพรรคได้ พรรคจะอาศัยการปฏิรูปพรรคเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปประเทศ โดยพรรคยืนยันว่าพรรคการเมืองในการสนับสนุนปฏิรูปประเทศด้วยเช่นเดียวกันจึงขอเชิญชวนบุคคลใดก็ตามที่มีแนวคิดปฏิรูปประเทศให้อาศัยกลไกของพรรคเป็นแนวร่วมแห่งชาติปฏิรูปประเทศในระบบพรรคการเมือง ซึ่งจะมีการเดินสายเชิญชวนให้คนที่มีแนวคิดปฏิรูปประเทศเข้ามาสู่กลไกในการเป็นหุ้นส่วนบริหารพรรคไปพร้อม ๆ กัน จึงขอยืนยันว่าพรรคจะเดินหน้าต่อต้านล้มระบอบทักษิณ และรัฐบาลหมดความชอบธรรมเพราะไม่ยอมรับอำนาจศาล ผลักดันกฎหมายที่เป็นอันตรายต่อประเทศ มีการทำลายนิติรัฐ นิติธรรม มีการสกัดกั้นการแสดงออกของประชาชน อีกทั้งหัวหน้ารัฐบาลยังปราศจากสำนึกต่อการกระทำผิดของตัวเอง จึงเห็นว่านายกไม่มีสิทธิเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาเพราะเป็นศูนย์กลางของปัญหาขณะนี้ต้องหลบไปก่อนสังคมจึงจะเดินหน้าได้

“การต่อสู้คู่ขนานนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่เป็นไปตามรูปแบบของระบบรัฐสภา พรรคและส.ส.จะไม่รับตำแหน่งใด ๆ จากผลพวงการต่อสู้นั้น นอกจากระบอบรัฐสภาตามปกติ เพื่อให้เกิดความสบายใจในการต่อสู่คู่ขนานว่าไม่เกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองและพรรคจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปประเทศอย่างแน่นอน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่าในที่ประชุมได้มีการหารือว่ามีความจำเป็นที่จะต้องลาออกจากส.ส.เพื่อต่อสู้กับระบอบทักษิณหรือไม่ โดยยังเห็นว่าในขณะนี้พรรคสามารถต่อสู้ได้ในระบบ แต่หากการลาออกจะนำไปสู่ความสำเร็จในการต่อสู้ก็ไม่ลังเลที่จะลาออกจากการเป็นส.ส. โดยยังไม่ขอเปิดเผยว่าเงื่อนไขและปัจจัยใดที่จะทำให้การลาออกจากส.ส.นำไปสู่ความสำเร็จในการต่อสู้ ถ้ามีเงื่อนไขหรือจังหวะเวลาที่เห็นว่าการลาออกจะนำไปสู่ความสำเร็จในการล้มล้างระบอบทักษิณก็พร้อมที่จะทำ ณ วันนี้ยังเห็นว่าบทบาทการเป็นส.ส.ยังสามารถเคลื่อนไหวคู่ขนานได้ การดำรงตำแหน่งส.ส.ไม่ได้หมายถึงการยอมรับความชอบธรรมของรัฐบาล เพราะการลงมติไม่ไว้วางใจชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ยอมรับความชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้ จึงอยากให้เข้าใจว่าการทำงานของสภาเป็นคนละส่วนกับฝ่ายบริหาร และฝากถึงรัฐบาลว่าพรรคจะระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้ เพราะใครที่เชื่อว่าการล้มอำนาจศาล หรือการออกกฎหมายล้างผิดการทุจิตทำไม่ได้ ก็ขอให้ออกมาสู้กับเรา

เมื่อถามว่าจะมีความแตกแยกระหว่างแกนนำผู้ชุมนุมกับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่มีความแตกแยกระหว่างพรรคกับการเคลื่อนไหวภาคประชาชน ท่ามกลางความยากลำบากในการต่อสู้ของประชาชนแม้ว่าในช่วงสองสามวันหลังจะถูกตอบโต้จากรัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ แต่พรรคขอเป็นกำลังใจให้คนทั้งประเทศได้เห็นความจริงข้อนี้ว่าประชาชนต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ซึ่งตนมองจุดร่วมที่มีเป้าหมายเดียวกัน ไม่ได้เอารายละเอียดที่มีความแตกต่างเกี่ยวกับวิธีการ และขั้นตอนการปฏิรูปมาเป็นความขัดแย้งระหว่างกัน ทั้งนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าการโค่นล้มระบอบทักษิณจะสำเร็จได้ภายในช่วงเวลาที่ปิดสมัยประชุมสภาหรือไม่ เพราะพัฒนาการการเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก และยังไม่พบพฤติกรรมที่แสดงถึงความละอายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีคนเสื้อแดงปทุมธานีทำร้ายคนที่เห็นต่างทางการเมืองว่า นายกรัฐมนตรีและนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นคนพูดในสภาว่าขึ้นเวทีเสื้อแดงในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และจากพฤติกรรมของระบอบทักษิณทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจนักการเมืองซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คือผู้เสียหายจากผลพวงของระบอบทักษิณ และอยากฝากถึงทุกภาคส่วนว่าการปฏิรูปประเทศไม่ว่าจะทำในวิธีการใดก็ตามสุดท้ายก็ต้องมีนักการเมือง พรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบในการบริหารประเทศ จึงขอให้ไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ พวกเราเป็นพรรคการเมืองต้องอยู่ในระบบ นอกจากทำให้พรรคหายไปซึ่งก็ทำไม่ได้ แต่ยืนยันว่าพรรคจะไม่เป็นอุปสรรคหรือขัดขวางการปฏิรูปใด ๆ และยืนยันว่าหากการปฏิรูปมาจากนอกระบบก็จะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในขณะนี้คือ “ไทยเฉย” ทำให้ผู้เคลื่อนไหวอ่อนแรง เกิดแรงกดดันเพื่อลดความเข้มข้นการเคลื่อนไหวลง โดยรัฐบาลคิดว่าจะนิ่งเฉยไปเรื่อย ๆ จึงขอเตือนว่ารัฐบาลอาจจะทำนิ่งเฉยได้แต่ไม่สามารถลบล้างความรู้สึกต่อต้านของประชาชนได้ ดังนั้นการทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ใช่ทางออก เพราะในขณะนี้การชุมนุมของประชาชนไม่จำเป็นต้องนัดหมายแค่มีคนเดินออกมานำก็มีประชาชนเข้าร่วมแล้ว สะท้อนว่ารัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศในสภาวะแบบนี้ได้

“ให้ม้นรุ้ไปว่าคนหน้าด้านจะทนต่อสำนึกของสังคมได้ ฉะนั้นประชาชนต้องออกมาร่วมกันมาก ๆ บ้านเมืองมีปัญหาที่สลับซับซ้อนจึงไม่อยากให้มองข้ามความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล นายกไม่มีสิทธิเป็นเจ้าภาพในการเจรจาใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นตัวปัญหา หากจะมีการเจรจาจะเชิญผมหรือนายสุเทพ ตัวแทนใครก็ตามต้องให้คนเป็นกลางหรือสื่อเป็นเจ้าภาพก็ได้ เพราะการปฏิรูปประเทศครั้งนี้พรรคตั้งเป้าปฎิรูปตำรวจ และสื่อมวลชนด้วย แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียด ซึ่งส่วนใหญ่กรอบความคิดก็ตรงกับที่มีการเสนอในการชุมนุมของประชาชน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางของพรรคยึดตามระบบแต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมรับการลาออกและการยุบสภาแล้วจะหาจุดร่วมกันอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กระแสกการปฏิรูปประเทศจะสำเร็จได้มีคนเข้าร่วมมากเท่าไหร่ยิ่งดี พรรคการเมืองเป็นส่วนหนึ่งถ้าพรรคใดไม่สนใจปล่อยเขาไป แต่มีพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนกระบวนการปฏิรูปไม่ครอบงำ ไม่แทรกแซงแนวคิดของประชาชน ส่วนที่มีการปรามาสว่าหากยุบสภาพรรคประชาธิปัตย์ก็จะแพ้การเลือกตั้งทำให้ไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้นั้น ตนเห็นว่าไม่มีใครบอกได้ว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ และยุบแล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่ตนเป็นนักการเมืองต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกระบวนการปฏิรูปประเทศ แต่ถ้าแพ้การเลือกตั้งพรรคก็เป็นฝ่ายค้านแต่คนชนะเลือกตั้งก็ไม่มีสิทธิทำชั่วทำเลวเหมือนที่รัฐบาลนี้ทำ เพราะถ้าทำอีกก็เจอปัญหาอีก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ทิศทางการปฏิรูปประเทศของพรรคและภาคประชาชนเป็นเป้าหมายเดียวกันจึงไม่ควรเอารายละเอียด และวิธีการมาเป็นอุปสรรคในการไปสู่เป้าหมายเพราะยังมีอุปสรรคใหญ่กว่าขวางอยู่คือรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมและระบอบทักษิณที่ต้องขจัดออกไปก่อนและตนเชื่อว่าไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน เวลาจะอยู่ข้างคนดีไม่ใช่คนชั่ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่