
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ - สถานการณ์ของรัฐบาลชินวัตรเข้าขั้นตรีทูตไปทุกขณะ โอกาสฟื้นกลับมารอดเหลือน้อยลงทุกที เพราะมวลประชาชนที่ออกมาต่อต้านและขับไล่มีจำนวนมากมายเหลือเกิน มากมายกว่ามวลชนคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้านขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 หลายเท่า ซึ่งครั้งนั้นยังทำให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่อาจฝืนอยู่ต่อไปได้ และต้องตัดสินใจประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดในเวลาต่อมา การต่อต้านจึงจบลง
ดังนั้นเมื่อเทียบกันที่พลังมวลชนที่ต่อต้าน ตรรกะก็บอกได้ว่ารัฐบาลชินวัตรไม่น่าแข็งขืนอยู่ต่อไปได้ แม้จะมีข้ออ้างว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและได้รับเสียงข้างมากจากประชาชน
นอกจากนี้ การต่อต้านรัฐบาลในครั้งนี้ยังมี “กระแสสังคม” จากหลายภาคส่วนสำคัญของประเทศที่แสดงออกถึงการปฏิเสธรัฐบาลอีกด้วย ขณะที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 ไม่มี “กระแสสังคม” มีแต่ปริมาณคนล้วนๆและใช้การก่อความรุนแรง ทั้งการก่อจลาจล และการเผาบ้านเผาเมือง
หากรัฐบาลจะเลือกใช้การยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนในตอนนี้ แบบเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์เลือกทำในตอนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือเสียหน้าอะไรแก่รัฐบาล ตรงกันข้ามกลับจะทำให้รัฐบาลได้ชื่อว่าเป็นผู้ยุติไม่ให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองมากไปกว่านี้ ด้วยการไม่ใช้ความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเข้าจัดการกับประชาชนผู้ต่อต้าน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลก็จะไม่มีเหตุผลใดๆทำการชุมนุมต่อไป หรือยกระดับการชุมนุมไปเป็นการใช้ความรุนแรงเพื่อนำไปสู่การโค่นล้มระบอบทักษิณ
แต่หากรัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเข้าจัดการกับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะใช้กฎหมาย หรือใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินก็จะต้องเกิดขึ้น แนวโน้มที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้ความรุนแรงตอบโต้กลับก็มีสูงหากพิจารณาไปที่เป้าหมายสูงสุดของการชุมนุมครั้งนี้ คือการกำจัดระบอบทักษิณ เพราะมีแต่การใช้ความรุนแรงเท่านั้นที่จะนำสถานการณ์ไปสู่การกำจัดระบอบทักษิณได้
สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเดิมพันไปกับการใช้ความรุนแรงเข้าจัดการกับผู้ชุมนุมคือ ระบอบทักษิณทั้งระบอบจะล่มสลายหรือไม่ก็อยู่ที่การตัดสินใจครั้งนี้ แต่สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเสียไปแน่นอนทันทีหากตัดสินใจใช้มาตรการรุนแรงคือ การได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลผู้ปราบปรามประชาชน ไม่ว่าจะในสายตาชาวโลกหรือคนไทย และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเสียไปอย่างแน่นอนคือ การพ้นสถานะเป็นรัฐบาลด้วยการถูกขับไล่ออกนอกประเทศ ซึ่งหมายถึงการสิ้นสุดระบอบทักษิณ
ม็อบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และม็อบกลุ่มอื่นๆที่ราชดำเนิน และที่ดาวกระจายไปยังที่ต่างๆ กำลังรอการตัดสินใจใช้มาตรการรุนแรงจากรัฐบาลด้วยความเต็มใจ และเริ่มแอบยิ้มและมองเห็นชัยชนะอยู่เบื้องหน้าแล้วพลันที่รัฐบาลขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง และออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
โดย – บิ๊กต้น
26 พฤศจิกายน 2556
http://peopleunitynews.com/web02/2013/hi-light-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AE%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%97-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%83-3/
Hi-Light // ทีฮูทีอิท ทีใครทีมัน ใครเสียมากกว่ากัน
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ - สถานการณ์ของรัฐบาลชินวัตรเข้าขั้นตรีทูตไปทุกขณะ โอกาสฟื้นกลับมารอดเหลือน้อยลงทุกที เพราะมวลประชาชนที่ออกมาต่อต้านและขับไล่มีจำนวนมากมายเหลือเกิน มากมายกว่ามวลชนคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้านขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 หลายเท่า ซึ่งครั้งนั้นยังทำให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่อาจฝืนอยู่ต่อไปได้ และต้องตัดสินใจประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดในเวลาต่อมา การต่อต้านจึงจบลง
ดังนั้นเมื่อเทียบกันที่พลังมวลชนที่ต่อต้าน ตรรกะก็บอกได้ว่ารัฐบาลชินวัตรไม่น่าแข็งขืนอยู่ต่อไปได้ แม้จะมีข้ออ้างว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและได้รับเสียงข้างมากจากประชาชน
นอกจากนี้ การต่อต้านรัฐบาลในครั้งนี้ยังมี “กระแสสังคม” จากหลายภาคส่วนสำคัญของประเทศที่แสดงออกถึงการปฏิเสธรัฐบาลอีกด้วย ขณะที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 ไม่มี “กระแสสังคม” มีแต่ปริมาณคนล้วนๆและใช้การก่อความรุนแรง ทั้งการก่อจลาจล และการเผาบ้านเผาเมือง
หากรัฐบาลจะเลือกใช้การยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนในตอนนี้ แบบเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์เลือกทำในตอนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือเสียหน้าอะไรแก่รัฐบาล ตรงกันข้ามกลับจะทำให้รัฐบาลได้ชื่อว่าเป็นผู้ยุติไม่ให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองมากไปกว่านี้ ด้วยการไม่ใช้ความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเข้าจัดการกับประชาชนผู้ต่อต้าน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลก็จะไม่มีเหตุผลใดๆทำการชุมนุมต่อไป หรือยกระดับการชุมนุมไปเป็นการใช้ความรุนแรงเพื่อนำไปสู่การโค่นล้มระบอบทักษิณ
แต่หากรัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเข้าจัดการกับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะใช้กฎหมาย หรือใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินก็จะต้องเกิดขึ้น แนวโน้มที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้ความรุนแรงตอบโต้กลับก็มีสูงหากพิจารณาไปที่เป้าหมายสูงสุดของการชุมนุมครั้งนี้ คือการกำจัดระบอบทักษิณ เพราะมีแต่การใช้ความรุนแรงเท่านั้นที่จะนำสถานการณ์ไปสู่การกำจัดระบอบทักษิณได้
สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเดิมพันไปกับการใช้ความรุนแรงเข้าจัดการกับผู้ชุมนุมคือ ระบอบทักษิณทั้งระบอบจะล่มสลายหรือไม่ก็อยู่ที่การตัดสินใจครั้งนี้ แต่สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเสียไปแน่นอนทันทีหากตัดสินใจใช้มาตรการรุนแรงคือ การได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลผู้ปราบปรามประชาชน ไม่ว่าจะในสายตาชาวโลกหรือคนไทย และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเสียไปอย่างแน่นอนคือ การพ้นสถานะเป็นรัฐบาลด้วยการถูกขับไล่ออกนอกประเทศ ซึ่งหมายถึงการสิ้นสุดระบอบทักษิณ
ม็อบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และม็อบกลุ่มอื่นๆที่ราชดำเนิน และที่ดาวกระจายไปยังที่ต่างๆ กำลังรอการตัดสินใจใช้มาตรการรุนแรงจากรัฐบาลด้วยความเต็มใจ และเริ่มแอบยิ้มและมองเห็นชัยชนะอยู่เบื้องหน้าแล้วพลันที่รัฐบาลขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคง และออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
โดย – บิ๊กต้น
26 พฤศจิกายน 2556
http://peopleunitynews.com/web02/2013/hi-light-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AE%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%97-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%83-3/