ความไร้เดียงสาของม็อบชนชั้นกลาง

ความไร้เดียงสาของม็อบชนชั้นกลาง เป็นสิ่งที่ยืนยันความกลวงของระบอบประชาธิปไตยในประเทศจริงๆ

ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตกลัวการเลือกตั้ง
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตอับอายเมื่อตนพ่ายแพ้การเลือกตั้ง
เมื่อชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตแพ้บ่อยครั้งเข้า ความอับอายก็กลายเป็นอคติ และต้องหาเหตุผลมารองรับความพ่ายแพ้นั้น ว่าคนที่ชนะ ชนะด้วยการโกง

ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตจึงคิดว่าการเลือกตั้งไม่สามารถแก้ปัญหาให้พวกเขาได้
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตจึงบอกว่าการเลือกตั้งชนะได้ด้วยเงิน
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตจึงบอกว่าการเลือกตั้งชนะได้ด้วยคนโง่ความรู้น้อย
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตจึงบอกว่าประเทศไทยไม่พร้อมและไม่รู้จักคำว่าประชาธิปไตยโดยพระมหากษัตริย์ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตมองภาพดาราและเหล่าศิลปินที่ตนเองชื่นชอบเป็นตัวแทนของความถูกต้อง
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตมองผู้มีการศึกษา เช่นหมอ ทนายความ นักวิชาการ ครูอาจารย์ เป็นผู้มีความรู้และการกระทำของคนกลุ่มนี้มีความเป็นปัญญาชน
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตจึงยืนยันว่าสิ่งที่ตนกำลังทำได้ผ่านกระบวนการคิดแบบปัญญาชนและถูกต้อง
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตคิดว่าสมควรแล้วที่ต้องยอมเสียสละเพื่อประเทศชาติ
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตจึงต้องหยิบยกความดีมาเป็นข้ออ้างในการกระทำชั่ว
ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริตจึงมองคนที่นิ่งเฉยว่าโง่ เป็นคนเลวทำร้ายประเทศ ไม่รักชาติและเห็นแก่ตัว

ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริต เชื่อว่าการถ่ายรูปอัพเฟสบุค อินสตราแกรมขณะชุมนุมประท้วง เป็นการทำให้สังคมตระหนักถึงปริมาณผู้ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศดัดจริตมีมากแค่ไหน
และการกดไลค์และแชร์ข้อความเหล่านั้นให้มากที่สุด จะบ่งบอกถึงชัยชนะทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในแบบของตนเอง
.
.
.

แต่ชนชั้นกลางในประเทศดัดจริต จะเปลี่ยนความคิดข้างต้นทั้งหมดทันที เมื่อคนของตนได้เป็นรัฐบาล

เครดิต[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/stopdadjarit2