ราตรีสีอำพัน (18)
อาดัมกับมูซา ลูกน้องคู่ใจของท่านชายขับรถตู้คันใหม่เอี่ยม สีบรอนซ์ทอง มาขนของหมอเติ้ล
แต่เช้า เธอลงมาดู ทั้งสองยิ้มให้ในใจคิดเหมือนกันว่า”คุณหมอคนใหม่ที่มาแทนคุณหมอจานีน ชาวฟิลิปปินส์ สวยงาม ดูสง่ามาก”
หมอเติ้ลกล่าวทัก “อัสสลามมอะลัยกุม” (สันติสุขจงมีแด่ท่าน)
เขายิ้มอย่างแปลกใจที่หมอเอ่ยทักเป็นภาษาอาหรับ ทั้งสองก้มศีรษะ
แล้วตอบคุณหมอเติ้ลกลับมาว่า”วะอะลัยกุมสสลาม”( สันติสุขจงมีแด่ท่านเช่นกัน)
วันนี้หมอเติ้ลใส่ชุดลูกไม้เนื้อหนาสีน้ำเงินเข้ม คอกลมแขนกระบอกยาวลงมาถึงข้อมือ
เป็นชุดติดกันเข้ารูปปล่อยช่วงกระโปรงลงมาบานพอดีเหนือตาตุ่มประมาณคืบหนึ่ง
สีชุดและสร้อยมุกที่หมอใส่ ขับผิวขาวละเอียดให้ดูเด่นขึ้น
สร้อยเส้นนี้ป๋าซื้อให้เมื่อครั้งหมอเติ้ลจบกายภาพบำบัด ป๋าสั่งตรงจากแหล่งที่ภูเก็ต
ซึ่งเจ้าของเป็นเพื่อนสนิทป๋า ”เส้นนี้ช่วยคัดเกรดหน่อยจะให้เป็นของขวัญลูกสาว “
มุกแต่ละเม็ดมีโทนสีใกล้เคียงกันมาก ขนาดกำลังดี ยาวเลยช่วงคอเสื้อลงมาเล็กน้อย มีจี้ทำด้วยทองคำขาวเป็นรูปหัวใจ ตรงกลางห้อยมุกเม็ดใหญ่สีเดียวกัน
คุณลุงปรีชา และคุณป้าตามลงมาดูการขนย้าย
“โอ้โฮ คุณหมอดูสวยผ่องในชุดนี้มากเลย นะคะคุณพี่ “ คุณลุงมองแล้วยิ้ม สีหน้าภาคภูมิใจ
ดูท่านเบาใจที่หาคนซึ่งน่าจะดีที่สุดสำหรับทำหน้าที่หมอ แถมสวยสง่าอีกต่างหาก
หมอเติ้ลเดินเข้าไปหาลูกน้องท่านชายอะซันทั้งสอง
“ฉันติดรถไปด้วยเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลาท่านชายต้องมารับ” “โอ้!ไม่ได้ครับ
ท่านชายกำชับมาแล้วว่าจะมารับคุณหมอเองตรงเวลาครับ” ทั้งสองก้มศีรษะ แล้วขึ้นรถขับออกไป
“เอาเถอะค่ะคุณหมอ ถือว่าเจ้าบ้านเขาให้เกียรติมารับเอง ทำใจสบายๆนะคะ เราเข้าไปข้างในก่อนดีกว่า”
“คุณลุงคุณป้าจะรับกาแฟไหมคะ เติ้ลจะไปเอากาแฟเพิ่มอีกแก้ว”
“ไม่ดีกว่าครับ เราอยู่ที่นี่เลยติดธรรมเนียมเขา กว่าจะเริ่มอาหารเช้าก็แปดโมงครึ่ง
อาหารเที่ยงบ่ายสอง อาหารค่ำก็แล้วแต่บ้านไหนจะเริ่มจากสองทุ่ม บ้างบ้านกินเอาตอนสี่ทุ่มก็ยังมีเลยครับ” ท่านทูตอธิบาย
หมอเติ้ลยิ้มให้แล้วกลับมาพร้อมกาแฟหอมกรุ่น “โดนพี่สะอ้านทักว่าดื่มกาแฟมากๆระวังแก่เร็วนะ” เธอหัวเราะ เบาๆ
ขณะบอกทั้งสองท่านที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
กาแฟหมดแก้วเธอดื่มน้ำตามแก้วใหญ่ “ดีๆคุณหมอดื่มน้ำเยอะจะดี โดยเฉพาะหน้าแล้ง อากาศจะแห้งมาก ต้องดื่มน้ำมากๆค่ะ”
“คุณหญิง” เสียงท่านทูตปรามเบาๆ “เขาเป็นหมอนะครับ”
“เอ้อ! ป้าขอโทษมันเคยตัว” “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าเป็นคนมีน้ำใจที่บอกเพราะเป็นห่วงเติ้ล”
“เติ้ลเองต้องขอบพระคุณ และขอบพระคุณทั้งสองท่านสำหรับทุกอย่างและที่พัก
พอย้ายไปหากมีวันหยุดเติ้ลจะแวะมาเยี่ยมคงไม่รบกวนนะค่ะ”
“ไม่ๆหรอกครับ มาได้ตลอด อ้อ! นี่นามบัตรผม ถ้ามาแท็กซี่ส่งนามบัตรให้เขาๆก็พามาถูกครับ”
สั่งเสียเสร็จเหมือนนกรู้ ท่านชายอะซันก็มาถึง “ ผมมารับคุณหมอครับผม”
“คิดว่าคงพร้อมแล้ว” วันนี้ท่านชายอยู่ในชุดลำลองสวมสูททับเสื้อสีส้มสด กางเกงยีนรองเท้ากีฬา
“พร้อมแล้วค่ะ”
รถเบนซ์สปอร์ตสีดำขับออกจากบ้านท่านทูตวิ่งตรงไปตามถนนใหญ่ ได้ครู่หนึ่ง
“นั่งเงียบเลย กังวลอะไรหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงดูอ่อนโยนขึ้น วันนี้คุณหมอดูสวยสง่าในชุดสีน้ำเงินเข้ม
ผมที่ปล่อยสลวยเป็นเงายามต้องแสงตะวัน เขามองแล้วคิด
แต่หมอเติ้ลยังขุ่นใจในเรื่องเมื่อคืนไม่หายน้ำเสียงและคำพูดที่ตอบกลับมาแบบกวนๆ
“ไม่นี่ทำไมค่ะ ไปอยู่บ้านคุณต้องมีเรื่องกังวลด้วยหรือไง” ศรีตราตอบคำถามเสียงสะบัดน้อยๆ
“ผมถามด้วยความเป็นห่วงแต่คุณดูเหมือนยังขุ่นใจอะไรอยู่นะ”
“อ้อ! เรื่องเมื่อคืนหรือครับ ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ เห็นพูดอังกฤษปร๋อก็นึกว่าไม่ถือ”
“บ้า!”เสียงหมอเติ้ลดังขึ้นสีหน้าบึ้งแต่ก็ยังดูงาม ท่านชายคิด
“โอ้แม่เจ้า!แม่เสือเราดีๆนี่เอง มีท่านแม่ที่กล้าดุหรือเสียงดังใส่ข้า นางมิได้เกรงกลัวสิ่งใดเลย ดีๆ” ท่านชายดูจะสนุกกับการทำให้หมอเติ้ลโกรธ
“จำไว้นะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นท่านชาย คุณไม่ได้แตกต่างไปกับผู้ชายมักได้คนอื่นเลย
ฉันนึกว่าชาติตระกูลดีๆอย่างคุณ คงไม่ทำอะไรแบบนี้กับผู้หญิง
และจำไว้ผู้หญิงไทยไม่ใช่ของเล่น และการเข้ามาถูกเนื้อต้องตัว เขาถือกันเข้าไจ๊!”
ท่านชายถึงกับอึ้ง “สาวน้อยเธอเก่งจริงๆนะ ว่าฉันแรงเกินไป จำไว้ฉันจะให้บทเรียนเธอแน่นอน
จะได้รู้ว่ารวงรังที่เธอจะไปอยู่เป็นดินแดนของฉัน ทรายทุกเม็ด สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งเป็นของๆฉัน”
หมอเติ้ลจ้องหน้าท่านชายอะซัน ตาคมโตที่เคยมีแววหวานดูดุดั่งแม่เสือร้าย
รถวิ่งมาถึงประตูรั้ว ทหารรกดรีโมท เปิดประตู เธอเห็นที่ริมรั้ว มีกล้องวงจรปิด เขาทำความเคารพท่านชาย ทั้งสองงคนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพราะอีกไม่กี่นาทีท่านชายจะต้องพาคุณหมอเข้าพบท่านแม่ “ฮึ” เสียงท่านชายเปล่งออกมาให้รู้ว่าเล่นกันหนักนะคนสวย
รถขับเลยเข้ามาเป็นถนนยาวพอควรมองเห็นตัวบ้านทำจาก Limestone
สีของหินสวยด้วยตัวมันเอง โดยไม่ต้องทาสี ด้านหน้าส่วนที่ติดประตูรั้วเป็นรั้วไม้สีขาว
สูงระดับเอว เป็นลานกว้าง หมอเติ้ลคิกว่าน่าจะเป็นที่สำหรับฝึกขี่ม้า
หรือสนามเล่นกีฬาอะไรสักอย่าง มีม้าพันธุ์อาหรับร่างสูง เรียวขาแข็งแรง กล้ามเนื้อเด่นชัด แผงคอเป็นเงางาม ผูกไว้สองตัว
สีน้ำตาลเข้ม และสีดำสนิท
ขนานไปกับถนนปลูกต้นมะกอกเป็นแนวสวย อากาศค่อนข้างเย็นเพราะเข้าฤดูหนาวแล้ว
รถขับมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ รูปแบตัวอาคราทันสมัยเรียบแต่เก๋
ท่านชายอ้อมไปเปิดรถให้คุณหมอ ประตูไม้บานใหญ่ เนื้อไม้สีเข้มแต่งด้วยกระจกสี
ไล่จากสีเข้มมาเป็นสีอ่อนตรงกลางเป็นรูปวงเดือน ถูกเปิดออกมา
หญิงสูงวัยสามคนยืนรออยู่ที่ประตู ทุกคนอยู่ในชุดเดรสยาวสีดำแขนยาวจรดข้อมือ
ลายปักแบบอาหรับสีสันสวยงามบนตัวเสื้อ ดูจากอายุคนที่อายุน้อยสุดคือท่านแม่ของคุณอะซัน อายุเท่าๆมะของหมอเติ้ล
อีกสองคนมีอายุสูงขึ้นจนถึงคนสุดท้ายซึ่งที่มีรูปร่างสูงโปร่งกว่าคนอื่น
ผมเป็นสีขาวเต็มศีรษะ
หมอเติ้ลยกมือไหว้ พร้อมกล่าวคำทักทาย”อัสสลามมะอะลัยกุม” แล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มหวาน
ทำให้ทั้งสามท่านยิ้มตอบพร้อมตอบรับ”วะอะลัยกุมสะล่าม” เมื่อหมอเติ้ลเดินเข้ามา
ท่านป้าคนโตมองมาด้วยสายตาฉงนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็เบิกตากว้างใบหน้าซีดเผือด
เสียงอุทานเบาๆ “โอ้พระเจ้า”
ราตรีสีอำพัน (18)
อาดัมกับมูซา ลูกน้องคู่ใจของท่านชายขับรถตู้คันใหม่เอี่ยม สีบรอนซ์ทอง มาขนของหมอเติ้ล
แต่เช้า เธอลงมาดู ทั้งสองยิ้มให้ในใจคิดเหมือนกันว่า”คุณหมอคนใหม่ที่มาแทนคุณหมอจานีน ชาวฟิลิปปินส์ สวยงาม ดูสง่ามาก”
หมอเติ้ลกล่าวทัก “อัสสลามมอะลัยกุม” (สันติสุขจงมีแด่ท่าน)
เขายิ้มอย่างแปลกใจที่หมอเอ่ยทักเป็นภาษาอาหรับ ทั้งสองก้มศีรษะ
แล้วตอบคุณหมอเติ้ลกลับมาว่า”วะอะลัยกุมสสลาม”( สันติสุขจงมีแด่ท่านเช่นกัน)
วันนี้หมอเติ้ลใส่ชุดลูกไม้เนื้อหนาสีน้ำเงินเข้ม คอกลมแขนกระบอกยาวลงมาถึงข้อมือ
เป็นชุดติดกันเข้ารูปปล่อยช่วงกระโปรงลงมาบานพอดีเหนือตาตุ่มประมาณคืบหนึ่ง
สีชุดและสร้อยมุกที่หมอใส่ ขับผิวขาวละเอียดให้ดูเด่นขึ้น
สร้อยเส้นนี้ป๋าซื้อให้เมื่อครั้งหมอเติ้ลจบกายภาพบำบัด ป๋าสั่งตรงจากแหล่งที่ภูเก็ต
ซึ่งเจ้าของเป็นเพื่อนสนิทป๋า ”เส้นนี้ช่วยคัดเกรดหน่อยจะให้เป็นของขวัญลูกสาว “
มุกแต่ละเม็ดมีโทนสีใกล้เคียงกันมาก ขนาดกำลังดี ยาวเลยช่วงคอเสื้อลงมาเล็กน้อย มีจี้ทำด้วยทองคำขาวเป็นรูปหัวใจ ตรงกลางห้อยมุกเม็ดใหญ่สีเดียวกัน
คุณลุงปรีชา และคุณป้าตามลงมาดูการขนย้าย
“โอ้โฮ คุณหมอดูสวยผ่องในชุดนี้มากเลย นะคะคุณพี่ “ คุณลุงมองแล้วยิ้ม สีหน้าภาคภูมิใจ
ดูท่านเบาใจที่หาคนซึ่งน่าจะดีที่สุดสำหรับทำหน้าที่หมอ แถมสวยสง่าอีกต่างหาก
หมอเติ้ลเดินเข้าไปหาลูกน้องท่านชายอะซันทั้งสอง
“ฉันติดรถไปด้วยเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลาท่านชายต้องมารับ” “โอ้!ไม่ได้ครับ
ท่านชายกำชับมาแล้วว่าจะมารับคุณหมอเองตรงเวลาครับ” ทั้งสองก้มศีรษะ แล้วขึ้นรถขับออกไป
“เอาเถอะค่ะคุณหมอ ถือว่าเจ้าบ้านเขาให้เกียรติมารับเอง ทำใจสบายๆนะคะ เราเข้าไปข้างในก่อนดีกว่า”
“คุณลุงคุณป้าจะรับกาแฟไหมคะ เติ้ลจะไปเอากาแฟเพิ่มอีกแก้ว”
“ไม่ดีกว่าครับ เราอยู่ที่นี่เลยติดธรรมเนียมเขา กว่าจะเริ่มอาหารเช้าก็แปดโมงครึ่ง
อาหารเที่ยงบ่ายสอง อาหารค่ำก็แล้วแต่บ้านไหนจะเริ่มจากสองทุ่ม บ้างบ้านกินเอาตอนสี่ทุ่มก็ยังมีเลยครับ” ท่านทูตอธิบาย
หมอเติ้ลยิ้มให้แล้วกลับมาพร้อมกาแฟหอมกรุ่น “โดนพี่สะอ้านทักว่าดื่มกาแฟมากๆระวังแก่เร็วนะ” เธอหัวเราะ เบาๆ
ขณะบอกทั้งสองท่านที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
กาแฟหมดแก้วเธอดื่มน้ำตามแก้วใหญ่ “ดีๆคุณหมอดื่มน้ำเยอะจะดี โดยเฉพาะหน้าแล้ง อากาศจะแห้งมาก ต้องดื่มน้ำมากๆค่ะ”
“คุณหญิง” เสียงท่านทูตปรามเบาๆ “เขาเป็นหมอนะครับ”
“เอ้อ! ป้าขอโทษมันเคยตัว” “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าเป็นคนมีน้ำใจที่บอกเพราะเป็นห่วงเติ้ล”
“เติ้ลเองต้องขอบพระคุณ และขอบพระคุณทั้งสองท่านสำหรับทุกอย่างและที่พัก
พอย้ายไปหากมีวันหยุดเติ้ลจะแวะมาเยี่ยมคงไม่รบกวนนะค่ะ”
“ไม่ๆหรอกครับ มาได้ตลอด อ้อ! นี่นามบัตรผม ถ้ามาแท็กซี่ส่งนามบัตรให้เขาๆก็พามาถูกครับ”
สั่งเสียเสร็จเหมือนนกรู้ ท่านชายอะซันก็มาถึง “ ผมมารับคุณหมอครับผม”
“คิดว่าคงพร้อมแล้ว” วันนี้ท่านชายอยู่ในชุดลำลองสวมสูททับเสื้อสีส้มสด กางเกงยีนรองเท้ากีฬา
“พร้อมแล้วค่ะ”
รถเบนซ์สปอร์ตสีดำขับออกจากบ้านท่านทูตวิ่งตรงไปตามถนนใหญ่ ได้ครู่หนึ่ง
“นั่งเงียบเลย กังวลอะไรหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงดูอ่อนโยนขึ้น วันนี้คุณหมอดูสวยสง่าในชุดสีน้ำเงินเข้ม
ผมที่ปล่อยสลวยเป็นเงายามต้องแสงตะวัน เขามองแล้วคิด
แต่หมอเติ้ลยังขุ่นใจในเรื่องเมื่อคืนไม่หายน้ำเสียงและคำพูดที่ตอบกลับมาแบบกวนๆ
“ไม่นี่ทำไมค่ะ ไปอยู่บ้านคุณต้องมีเรื่องกังวลด้วยหรือไง” ศรีตราตอบคำถามเสียงสะบัดน้อยๆ
“ผมถามด้วยความเป็นห่วงแต่คุณดูเหมือนยังขุ่นใจอะไรอยู่นะ”
“อ้อ! เรื่องเมื่อคืนหรือครับ ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ เห็นพูดอังกฤษปร๋อก็นึกว่าไม่ถือ”
“บ้า!”เสียงหมอเติ้ลดังขึ้นสีหน้าบึ้งแต่ก็ยังดูงาม ท่านชายคิด
“โอ้แม่เจ้า!แม่เสือเราดีๆนี่เอง มีท่านแม่ที่กล้าดุหรือเสียงดังใส่ข้า นางมิได้เกรงกลัวสิ่งใดเลย ดีๆ” ท่านชายดูจะสนุกกับการทำให้หมอเติ้ลโกรธ
“จำไว้นะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นท่านชาย คุณไม่ได้แตกต่างไปกับผู้ชายมักได้คนอื่นเลย
ฉันนึกว่าชาติตระกูลดีๆอย่างคุณ คงไม่ทำอะไรแบบนี้กับผู้หญิง
และจำไว้ผู้หญิงไทยไม่ใช่ของเล่น และการเข้ามาถูกเนื้อต้องตัว เขาถือกันเข้าไจ๊!”
ท่านชายถึงกับอึ้ง “สาวน้อยเธอเก่งจริงๆนะ ว่าฉันแรงเกินไป จำไว้ฉันจะให้บทเรียนเธอแน่นอน
จะได้รู้ว่ารวงรังที่เธอจะไปอยู่เป็นดินแดนของฉัน ทรายทุกเม็ด สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งเป็นของๆฉัน”
หมอเติ้ลจ้องหน้าท่านชายอะซัน ตาคมโตที่เคยมีแววหวานดูดุดั่งแม่เสือร้าย
รถวิ่งมาถึงประตูรั้ว ทหารรกดรีโมท เปิดประตู เธอเห็นที่ริมรั้ว มีกล้องวงจรปิด เขาทำความเคารพท่านชาย ทั้งสองงคนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพราะอีกไม่กี่นาทีท่านชายจะต้องพาคุณหมอเข้าพบท่านแม่ “ฮึ” เสียงท่านชายเปล่งออกมาให้รู้ว่าเล่นกันหนักนะคนสวย
รถขับเลยเข้ามาเป็นถนนยาวพอควรมองเห็นตัวบ้านทำจาก Limestone
สีของหินสวยด้วยตัวมันเอง โดยไม่ต้องทาสี ด้านหน้าส่วนที่ติดประตูรั้วเป็นรั้วไม้สีขาว
สูงระดับเอว เป็นลานกว้าง หมอเติ้ลคิกว่าน่าจะเป็นที่สำหรับฝึกขี่ม้า
หรือสนามเล่นกีฬาอะไรสักอย่าง มีม้าพันธุ์อาหรับร่างสูง เรียวขาแข็งแรง กล้ามเนื้อเด่นชัด แผงคอเป็นเงางาม ผูกไว้สองตัว
สีน้ำตาลเข้ม และสีดำสนิท
ขนานไปกับถนนปลูกต้นมะกอกเป็นแนวสวย อากาศค่อนข้างเย็นเพราะเข้าฤดูหนาวแล้ว
รถขับมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ รูปแบตัวอาคราทันสมัยเรียบแต่เก๋
ท่านชายอ้อมไปเปิดรถให้คุณหมอ ประตูไม้บานใหญ่ เนื้อไม้สีเข้มแต่งด้วยกระจกสี
ไล่จากสีเข้มมาเป็นสีอ่อนตรงกลางเป็นรูปวงเดือน ถูกเปิดออกมา
หญิงสูงวัยสามคนยืนรออยู่ที่ประตู ทุกคนอยู่ในชุดเดรสยาวสีดำแขนยาวจรดข้อมือ
ลายปักแบบอาหรับสีสันสวยงามบนตัวเสื้อ ดูจากอายุคนที่อายุน้อยสุดคือท่านแม่ของคุณอะซัน อายุเท่าๆมะของหมอเติ้ล
อีกสองคนมีอายุสูงขึ้นจนถึงคนสุดท้ายซึ่งที่มีรูปร่างสูงโปร่งกว่าคนอื่น
ผมเป็นสีขาวเต็มศีรษะ
หมอเติ้ลยกมือไหว้ พร้อมกล่าวคำทักทาย”อัสสลามมะอะลัยกุม” แล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มหวาน
ทำให้ทั้งสามท่านยิ้มตอบพร้อมตอบรับ”วะอะลัยกุมสะล่าม” เมื่อหมอเติ้ลเดินเข้ามา
ท่านป้าคนโตมองมาด้วยสายตาฉงนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็เบิกตากว้างใบหน้าซีดเผือด
เสียงอุทานเบาๆ “โอ้พระเจ้า”