ศาลได้แยกพิจารณาเรื่องนี้ไว้ 4 ประเด็น
1.ร่างที่แก้ไขนั้นไม่ตรงกับร่างเดิมที่ได้ยื่นต่อเลขาธิการสภาผู้แทนฯมีการแก้ไขและเปลี่ยนหลักการใหม่ไม่ตรงกับหลักการเดิม
2.ไม่ยอมให้ผู้ที่สงวนคำแปรญัตติเอาไว้อภิปรายในการประชุมวาระ 2 และยังนับย้อนหลัง 15 วันจากการพิจารณาตั้งแต่วาระที่ 1 ทั้งๆที่จะต้องนับวันเริ่มต้นจากวันที่มีการลงมติ
3.การเสียบบัตรแทนกันซึ่งมีหลักฐานจากคลิปวีดิทัศน์และพยานบุคคลที่ถือว่าเป็นการขัดต่อข้อบังคับการประชุมที่ให้สมาชิกมีสิทธิลงคะแนนได้
เพียงครั้งเดียว
4.ผิดหลักการถ่วงดุลและตรวจสอบระหว่างสภาผู้แทนฯกับวุฒิสภาเพราะมีการแก้ไขหลักการที่ให้ทั้ง 2 สภาแยกกันอย่างชัดเจนซึ่งถือเป็นหลักการและเจตนารมณ์ที่สำคัญ แต่กลับไปแก้ไขเพื่อให้เกิดสภา “ผัว-เมีย” เป็นการทำลายระบบการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ
ที่หยิบแยกสาระสำคัญมาบอกกล่าวกันนี้เป็นเพียงแค่เหตุผลที่เป็นหลัก แต่หากไปอ่านคำวินิจฉัยทั้งหมดจะเห็นความเป็นเหตุเป็นผลที่ชัดเจนกว่าการใช้เสียงข้างมากลากไปโดยไม่คำนึงถึงเสียงข้างน้อยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นี่คือความผิดที่เกิดขึ้น
แต่พยามยามไม่ให้คนสนใจที่มาของคำตัดสิน
ว่าเหตุใดจึงตัดสินอย่างนี้
กลับพยายามปลุกระดมให้คนเชื่อว่า
ศาลได่ปล้นอำนาจของประชาชน
ปล้นประชาธิปไตย
เพื่อไทยและ นปช พยายามบิดเบือนที่มาของคำตัดสิน เพื่อให้เข้าใจผิดว่า ศาลปล้นประชาธิปไตยไปจากปวงชน
1.ร่างที่แก้ไขนั้นไม่ตรงกับร่างเดิมที่ได้ยื่นต่อเลขาธิการสภาผู้แทนฯมีการแก้ไขและเปลี่ยนหลักการใหม่ไม่ตรงกับหลักการเดิม
2.ไม่ยอมให้ผู้ที่สงวนคำแปรญัตติเอาไว้อภิปรายในการประชุมวาระ 2 และยังนับย้อนหลัง 15 วันจากการพิจารณาตั้งแต่วาระที่ 1 ทั้งๆที่จะต้องนับวันเริ่มต้นจากวันที่มีการลงมติ
3.การเสียบบัตรแทนกันซึ่งมีหลักฐานจากคลิปวีดิทัศน์และพยานบุคคลที่ถือว่าเป็นการขัดต่อข้อบังคับการประชุมที่ให้สมาชิกมีสิทธิลงคะแนนได้
เพียงครั้งเดียว
4.ผิดหลักการถ่วงดุลและตรวจสอบระหว่างสภาผู้แทนฯกับวุฒิสภาเพราะมีการแก้ไขหลักการที่ให้ทั้ง 2 สภาแยกกันอย่างชัดเจนซึ่งถือเป็นหลักการและเจตนารมณ์ที่สำคัญ แต่กลับไปแก้ไขเพื่อให้เกิดสภา “ผัว-เมีย” เป็นการทำลายระบบการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ
ที่หยิบแยกสาระสำคัญมาบอกกล่าวกันนี้เป็นเพียงแค่เหตุผลที่เป็นหลัก แต่หากไปอ่านคำวินิจฉัยทั้งหมดจะเห็นความเป็นเหตุเป็นผลที่ชัดเจนกว่าการใช้เสียงข้างมากลากไปโดยไม่คำนึงถึงเสียงข้างน้อยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นี่คือความผิดที่เกิดขึ้น
แต่พยามยามไม่ให้คนสนใจที่มาของคำตัดสิน
ว่าเหตุใดจึงตัดสินอย่างนี้
กลับพยายามปลุกระดมให้คนเชื่อว่า
ศาลได่ปล้นอำนาจของประชาชน
ปล้นประชาธิปไตย