สำหรับผมแล้ว หากมองแต่เนื้อหาคำพิพากษาเพียงอย่างเดียวโดยไม่เอาองค์ประกอบอื่นๆมาเจือปน ผมแบ่งคำพิพากษาออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของการกระทำผิดขั้นตอนของสภา และส่วนของสาระที่เป็นข้อกล่าวหาว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่
ในส่วนของข้อหาเรื่องล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย.......
คนเสื้อแดงจะต้องพยายามจัดเวทีเสวนาทางวิชาการให้กว้างขวางที่สุดทั่วประเทศ เรื่องที่จะไปฮึดฮัดด่าทอพวกตลก.คณะนี้ไร้ประโยชน์ครับ หรือเรื่องที่จะเดินหน้าลุยแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทันทีเพื่อตอบโต้เอาคืนผมคิดว่าเร็วเกินไปในตอนนี้ สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการ "เตรียมพร้อมประชาชน" ให้รู้เช่นเห็นชาติเครือข่าย "นักเลงขวางซอย" ที่พยายามจะปิดประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับมรดกเผด็จการนี้
ผมสังเกตุจากคนรอบๆตัวที่สัมผัสได้วิจารณ์กัน มีเกือบครึ่งหนึ่งที่โกรธและด่าตามๆกันไปโดยที่ยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าทำไมคำพิพากษาที่บอกว่าเป็นการล้มล้างฯจึงยอมรับไม่ได้ และอะไรคือสิ่งที่ส่อเจตนาจะบีบระบอบประชาธิปไตยให้อยู่ในมือ การใช้อารมณ์โกรธนำหน้าความเข้าใจจะทำให้การเคลื่อนไหวของมวลชนไม่แหลมคมและมีพลังพอครับ
แกนนำเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทยและแนวร่วมทั้งหลายจะต้องพยายามสร้างกระแสเรียนรู้เพื่อความเข้าใจอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญให้กว้างขวางที่สุด ผมเชื่อว่ายังมีคนที่คิดเหมือนอาจารย์สุขุมนวลสกุลอีกมากมาย การทำให้ "สังคมตื่นรู้" จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับพวกอนุรักษ์นิยม
ควรจะยอมรับความจริงว่าจิตใต้สำนึกของสังคมไทยนั้นกลัวและให้เกียรติอำนาจตุลาการฝังรากลึกมาตลอด มักจะคิดแบบเหมารวมว่าขึ้นชื่อว่าศาลแล้วต้องก้มหน้าฟังอย่างเดียว คนที่เข้าใจและกล้าประกาศว่า "ศาลรัฐธรรมนูญนั้นวิจารณ์ได้" อย่างอ.สุขุมนั้นยังมีน้อย คนที่จุดกระแสเก่งๆอย่างณัฐวุฒิน่าจะทุ่มเทเรื่องนี้ให้มาก เพราะหากมวลชนต้านคณะตลก.นี้ด้วยความเข้าใจจริงๆ จะมีพลังที่สร้างความกลัวแก่คนพวกนี้มากกว่าความเกรี้ยวกราดแต่ขาดความเข้าใจ ยิ่งพยายามจะข่มขู่พวกนี้นั่งยิ้มรอเลยครับ เพราะต้องการยั่วให้เกิดเหตุผลที่จะใช้อำนาจในมืออยู่แล้ว
การใช้แต่อารมณ์โต้ตอบจะไม่สามารถดึงมวลชนที่ในใจไม่เห็นด้วยกับคณะตลก.แต่กลัวความรุนแรงเข้ามาเป็นแนวร่วมได้ ต้องเชื่อมั่นในสติปัญญาของคนไทยด้วยกันนะครับว่าส่วนใหญ่แล้วเขารู้ผิดชอบชั่วดีด้วยกันทั้งสิ้น อย่ากีดกันพวกเขาออกไปเพียงเพราะคำท้วงติงบางอย่างที่ฟังไม่เข้าหูแล้วตีตราว่าเป็นสลิ่มไปเลย
สิ่งที่ต้องต่อต้านและสิ่งที่ควรยอมรับจากคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ 20/11/56
ในส่วนของข้อหาเรื่องล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย.......
คนเสื้อแดงจะต้องพยายามจัดเวทีเสวนาทางวิชาการให้กว้างขวางที่สุดทั่วประเทศ เรื่องที่จะไปฮึดฮัดด่าทอพวกตลก.คณะนี้ไร้ประโยชน์ครับ หรือเรื่องที่จะเดินหน้าลุยแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทันทีเพื่อตอบโต้เอาคืนผมคิดว่าเร็วเกินไปในตอนนี้ สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการ "เตรียมพร้อมประชาชน" ให้รู้เช่นเห็นชาติเครือข่าย "นักเลงขวางซอย" ที่พยายามจะปิดประตูการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับมรดกเผด็จการนี้
ผมสังเกตุจากคนรอบๆตัวที่สัมผัสได้วิจารณ์กัน มีเกือบครึ่งหนึ่งที่โกรธและด่าตามๆกันไปโดยที่ยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าทำไมคำพิพากษาที่บอกว่าเป็นการล้มล้างฯจึงยอมรับไม่ได้ และอะไรคือสิ่งที่ส่อเจตนาจะบีบระบอบประชาธิปไตยให้อยู่ในมือ การใช้อารมณ์โกรธนำหน้าความเข้าใจจะทำให้การเคลื่อนไหวของมวลชนไม่แหลมคมและมีพลังพอครับ
แกนนำเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทยและแนวร่วมทั้งหลายจะต้องพยายามสร้างกระแสเรียนรู้เพื่อความเข้าใจอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญให้กว้างขวางที่สุด ผมเชื่อว่ายังมีคนที่คิดเหมือนอาจารย์สุขุมนวลสกุลอีกมากมาย การทำให้ "สังคมตื่นรู้" จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับพวกอนุรักษ์นิยม
ควรจะยอมรับความจริงว่าจิตใต้สำนึกของสังคมไทยนั้นกลัวและให้เกียรติอำนาจตุลาการฝังรากลึกมาตลอด มักจะคิดแบบเหมารวมว่าขึ้นชื่อว่าศาลแล้วต้องก้มหน้าฟังอย่างเดียว คนที่เข้าใจและกล้าประกาศว่า "ศาลรัฐธรรมนูญนั้นวิจารณ์ได้" อย่างอ.สุขุมนั้นยังมีน้อย คนที่จุดกระแสเก่งๆอย่างณัฐวุฒิน่าจะทุ่มเทเรื่องนี้ให้มาก เพราะหากมวลชนต้านคณะตลก.นี้ด้วยความเข้าใจจริงๆ จะมีพลังที่สร้างความกลัวแก่คนพวกนี้มากกว่าความเกรี้ยวกราดแต่ขาดความเข้าใจ ยิ่งพยายามจะข่มขู่พวกนี้นั่งยิ้มรอเลยครับ เพราะต้องการยั่วให้เกิดเหตุผลที่จะใช้อำนาจในมืออยู่แล้ว
การใช้แต่อารมณ์โต้ตอบจะไม่สามารถดึงมวลชนที่ในใจไม่เห็นด้วยกับคณะตลก.แต่กลัวความรุนแรงเข้ามาเป็นแนวร่วมได้ ต้องเชื่อมั่นในสติปัญญาของคนไทยด้วยกันนะครับว่าส่วนใหญ่แล้วเขารู้ผิดชอบชั่วดีด้วยกันทั้งสิ้น อย่ากีดกันพวกเขาออกไปเพียงเพราะคำท้วงติงบางอย่างที่ฟังไม่เข้าหูแล้วตีตราว่าเป็นสลิ่มไปเลย