สศช.หั่นประมาณการเศรษฐกิจใหม่ คาดปีนี้โตเหลือ 3% เหตุส่งออกร่วงหนักจากเศรษฐกิจโลกซบเซา คาดโต 0% หวังปีหน้าฟื้นตามเศรษฐกิจโลก
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ใหม่ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี)จะขยายตัว 3.0% จากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.8-4.3% และปี 2557 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.0-5.0%
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อจีดีพีในปีนี้มากที่สุดคือภาคส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยมูลค่าส่งออกในรูปเงินดอลลาร์ไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ส่วนอื่นปรับขึ้นเล็กน้อย ทั้งการลงทุนรวมและการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่าในการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 วานนี้ (18 พ.ย.) ว่า สศช.ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2556 จากเดิมที่ 3.8-4.3% เหลือ 3%
"การส่งออกในปีนี้ทั้งปีคาดว่าอัตราการขยายตัวจะเป็นศูนย์ หรือไม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการส่งออกในรูปเงินดอลลาร์"
การส่งออกในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่าสินค้ารวม 57,964 ล้านดอลลาร์ หดตัว 1.8% ซึ่งหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า แต่สินค้าส่งออกของไทยที่ยังส่งออกได้สูง คือ ยานยนต์ 7.2% แผงวงจรรวมและชิ้นส่วน 18.7% ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 9.6% และเคมีภัณฑ์ 4.6% ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรหดตัวเล็กน้อย 0.2% จากสินค้าหลัก คือ ยางพารา แม้ว่าการส่งออกข้าว และมันสำปะหลังจะกลับมาขยายตัว
ทั้งนี้ 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกเท่ากับ 169,708 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 0.2% ในขณะที่ มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทลดลง 2.4%
นายอาคมกล่าวว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้สามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยหลักคือในเรื่องของการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาสที่ 3 มีจำนวน 6.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.1% และมีรายได้ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2556 ขยายตัว 2.7% ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 2.9% ในไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อปรับฤดูกาลออก ขยายตัว 1.3% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
"การชุมนุมประท้วงอาจจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทยได้"นายอาคม กล่าว
ในปี 2557 สศช.คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามแนวโน้มที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ที่ 3.5% โดย สศช.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทย อยู่ที่ 4-5% และคาดว่าส่งออกจะขยายตัว 7%
credit : credit :
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20131119/544119/เศรษฐกิจโลกทรุดฉุดส่งออกโต0.html
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยังจำได้อยู่เลยว่า ตอนที่พรบ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทเข้าสภาในวาระแรก มีคนถามว่า ถ้าเศรษฐกิจไทยไม่โตตามสมมติฐาน จะทำอย่างไร (หมายถึง หนี้ก็จะเพิ่มสูงขึ้น (เพราะดอกเบี้ย) และไทยจะเป็นหนี้ยาวมากกว่า 50 ปี ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้) รมต.กิติรัตน์ก็ชี้แจงว่า ตนมีประสพการณ์ในเจอวิกฤตเศรษฐกิจมากมาย จึงสามารถรักษาจัดการกับเหตุการณ์ใดๆ ได้
แล้วนี่ ยังไม่ได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แค่มีเรื่องทางการเมือง และเศรษฐกิจโลกไม่โตตามคาด การส่งออกก็จะไม่โตแล้ว ทั้งๆ ที่จีนซึ่งมีสินค้าคล้ายคลึงกับไทยสามารถขายของได้เพิ่มประมาณ 7% ทำไมไทยกลับขายไม่ได้ - มันแสดงกึ๋นของรัญบาลไทยชุดนี้ใช่หรือไม่ (แถมการผลักดันให้ใช้งบประมาณก็ทำได้แค่ราว 90% ทั้งๆ ที่ 5 ปีก่อน ทำได้ในระดับ 94%) จะให้เชื่อมือความสามารถขงรมต.กิติรัตน์ และ ครม.เศรษฐกิจชุดนี้ได้อย่างไร ? และสามารถเห็นอนาคตได้เลยว่า โครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้าน จะมีอนาคตที่ประชาชนชาวไทยต้องรับเคราะห์และรับหนี้ไปอีกยาวกว่า 50 ปีแน่นอน
โดยที่การสร้างก็กุดๆ มีไปถึงเชียงใหม่ที่เป็น 'เมืองหลวง' คนเสื้อแดงที่เดียว นอกจากนั้น ตะวันออกก็ไปถึงแค่ชลบุรี, ตะวันออกเฉียงเหนือถึงแค่โคราช ทิศใต้ถึงหัวหิน
ถ้าจะเชื่อมต่อไปหนองคาย และไปถึงใต้สุดของสยามเพื่อเชื่อมอาเซี่ยนเข้าด้วยกัน จะต้องเป็นหนี้หัวโตกันอีกเท่าไหร่ ?
เศรษฐกิจโลกทรุดฉุดส่งออกโต0%+เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2556 ขยายตัว 2.7% ชะลอตัวจากไตรมาสก่อน – ไหนกิติรัตน์บอกว่าจัดการได้
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ใหม่ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี)จะขยายตัว 3.0% จากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.8-4.3% และปี 2557 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.0-5.0%
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อจีดีพีในปีนี้มากที่สุดคือภาคส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยมูลค่าส่งออกในรูปเงินดอลลาร์ไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ส่วนอื่นปรับขึ้นเล็กน้อย ทั้งการลงทุนรวมและการใช้จ่ายภาคครัวเรือน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่าในการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 วานนี้ (18 พ.ย.) ว่า สศช.ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2556 จากเดิมที่ 3.8-4.3% เหลือ 3%
"การส่งออกในปีนี้ทั้งปีคาดว่าอัตราการขยายตัวจะเป็นศูนย์ หรือไม่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการส่งออกในรูปเงินดอลลาร์"
การส่งออกในไตรมาสที่ผ่านมามีมูลค่าสินค้ารวม 57,964 ล้านดอลลาร์ หดตัว 1.8% ซึ่งหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า แต่สินค้าส่งออกของไทยที่ยังส่งออกได้สูง คือ ยานยนต์ 7.2% แผงวงจรรวมและชิ้นส่วน 18.7% ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 9.6% และเคมีภัณฑ์ 4.6% ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรหดตัวเล็กน้อย 0.2% จากสินค้าหลัก คือ ยางพารา แม้ว่าการส่งออกข้าว และมันสำปะหลังจะกลับมาขยายตัว
ทั้งนี้ 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกเท่ากับ 169,708 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 0.2% ในขณะที่ มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทลดลง 2.4%
นายอาคมกล่าวว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้สามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยหลักคือในเรื่องของการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาสที่ 3 มีจำนวน 6.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.1% และมีรายได้ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2556 ขยายตัว 2.7% ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 2.9% ในไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อปรับฤดูกาลออก ขยายตัว 1.3% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
"การชุมนุมประท้วงอาจจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทยได้"นายอาคม กล่าว
ในปี 2557 สศช.คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามแนวโน้มที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอยู่ที่ 3.5% โดย สศช.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทย อยู่ที่ 4-5% และคาดว่าส่งออกจะขยายตัว 7%
credit : credit : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20131119/544119/เศรษฐกิจโลกทรุดฉุดส่งออกโต0.html
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยังจำได้อยู่เลยว่า ตอนที่พรบ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทเข้าสภาในวาระแรก มีคนถามว่า ถ้าเศรษฐกิจไทยไม่โตตามสมมติฐาน จะทำอย่างไร (หมายถึง หนี้ก็จะเพิ่มสูงขึ้น (เพราะดอกเบี้ย) และไทยจะเป็นหนี้ยาวมากกว่า 50 ปี ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้) รมต.กิติรัตน์ก็ชี้แจงว่า ตนมีประสพการณ์ในเจอวิกฤตเศรษฐกิจมากมาย จึงสามารถรักษาจัดการกับเหตุการณ์ใดๆ ได้
แล้วนี่ ยังไม่ได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แค่มีเรื่องทางการเมือง และเศรษฐกิจโลกไม่โตตามคาด การส่งออกก็จะไม่โตแล้ว ทั้งๆ ที่จีนซึ่งมีสินค้าคล้ายคลึงกับไทยสามารถขายของได้เพิ่มประมาณ 7% ทำไมไทยกลับขายไม่ได้ - มันแสดงกึ๋นของรัญบาลไทยชุดนี้ใช่หรือไม่ (แถมการผลักดันให้ใช้งบประมาณก็ทำได้แค่ราว 90% ทั้งๆ ที่ 5 ปีก่อน ทำได้ในระดับ 94%) จะให้เชื่อมือความสามารถขงรมต.กิติรัตน์ และ ครม.เศรษฐกิจชุดนี้ได้อย่างไร ? และสามารถเห็นอนาคตได้เลยว่า โครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้าน จะมีอนาคตที่ประชาชนชาวไทยต้องรับเคราะห์และรับหนี้ไปอีกยาวกว่า 50 ปีแน่นอน
โดยที่การสร้างก็กุดๆ มีไปถึงเชียงใหม่ที่เป็น 'เมืองหลวง' คนเสื้อแดงที่เดียว นอกจากนั้น ตะวันออกก็ไปถึงแค่ชลบุรี, ตะวันออกเฉียงเหนือถึงแค่โคราช ทิศใต้ถึงหัวหิน ถ้าจะเชื่อมต่อไปหนองคาย และไปถึงใต้สุดของสยามเพื่อเชื่อมอาเซี่ยนเข้าด้วยกัน จะต้องเป็นหนี้หัวโตกันอีกเท่าไหร่ ?