สรุปราคา iPhone 17 Series ที่เพิ่งเปิดตัว
โดยจะเปิดให้จองพร้อมกันวันแรก วันที่ 12 กันยายน 2568 และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันที่ 19 กันยายน 2568
https://www.facebook.com/share/p/19auJy1fLS/?mibextid=wwXIfr
-
iPhone 17
256GB ราคา 29,900 บาท
512GB ราคา 37,900 บาท
-
iPhone 17 Air
256GB ราคา 39,900 บาท
512GB ราคา 47,900 บาท
1TB ราคา 55,900 บาท
-
iPhone 17 Pro
256GB ราคา 43,900 บาท
512GB ราคา 51,900 บาท
1TB ราคา 59,900 บาท
-
iPhone 17 Pro Max
256GB ราคา 48,900 บาท
512GB ราคา 56,900 บาท
1TB ราคา 64,900 บาท
2TB ราคา 80,900 บาท
__________________________
รายละเอียดของ iPhone 17 Series แต่ละรุ่น
เริ่มต้นกันที่ iPhone 17 และ iPhone 17 Air
-
หน้าจอ
iPhone 17 และ iPhone 17 Air ใช้หน้าจอ Super Ratina XDR ซึ่งมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.3 นิ้ว และ 6.5 นิ้ว ตามลำดับ มาพร้อมกระจก Ceramic Shield 2
และปีนี้ iPhone 17 ทุกรุ่นมีอัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz เช่นเดียวกับรุ่น Pro มีความสว่างสูงสุด 3,000 nits ซึ่งถือว่าเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญ สำหรับ iPhone
โดยหน้าจอของ iPhone 17 มีขนาดใหญ่กว่า iPhone 16 ซึ่งมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.1 นิ้ว
-
ชิปประมวลผล
iPhone 17 ใช้ชิป A19 ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร ส่วน iPhone 17 Air ใช้ชิป A19 Pro ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร
แต่มีการอัปเกรดเรื่อง GPU ทำให้สามารถเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่บน iPhone 17 Pro และ Pro Max
นอกจากนี้ iPhone 17 Air ยังใช้งานชิปรับสัญญาณตัวใหม่จาก Apple คือ N1 ซึ่งรับสัญญาณได้ดีกว่า C1 เป็น 2 เท่า และประหยัดพลังงานมากกว่า iPhone 16 Pro ราว 30%
ซึ่ง Apple บอกว่า iPhone 17 Air เป็นรุ่นที่ประหยัดพลังงานที่สุด เท่าที่เคยมีมา
-
กล้อง
iPhone 17 มีความละเอียดของกล้องหลัก 48MP แต่มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความคมชัดมากกว่าเดิม และกล้อง Ultrawide 12MP
iPhone 17 Air มีกล้องเพียงตัวเดียว และมีความละเอียดของกล้องหลัก 48MP
และ iPhone ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการอัปเกรดกล้องหน้าเป็นจากเดิมความละเอียด 12 MP เป็นความละเอียด 18MP ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ เพราะ Apple ไม่ได้อัปเกรดความละเอียดกล้องหน้า มาเป็นระยะเวลานาน
ที่น่าสนใจคือ มาพร้อมฟีเชอร์ Center Stage ซึ่งจะช่วยทำให้เราอยู่ตรงกลางเฟรมภาพเสมอ และตอนนี้เรายังสามารถใช้กล้องหน้าโดยถือมือถือเป็นแนวตั้ง แต่สามารถถ่ายภาพแนวนอนได้แล้ว
-
ดิไซน์
โดยรวมไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนัก ไม่ว่าจะเป็น
ดิไซน์โค้งมนของตัวเครื่อง และ Dynamic Island ก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม รวมไปถึงการวางดิไซน์กล้องที่ยังเหมือนกับ iPhone 16
แต่ iPhone 17 Air มีดิไซน์ภายนอกที่โดดเด่นเรื่องความบาง มาพร้อมความทนทานเพราะเฟรมเครื่องทำจากไทเทเนียม นอกจากนี้ยังมีการวางกล้องแบบใหม่ที่มีเพียงแค่ตัวเดียว ซึ่งเป็นดิไซน์ที่ iPhone ไม่เคยทำมาก่อน
iPhone 17 มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีลาเวนเดอร์, สีเขียว (Teal), สีชมพู (Pink), สีดำ (Black) และ สีขาว (White)
ส่วน iPhone Air มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีทองอ่อน, สีสกายบลู, สีขาวปุยเมฆ, สีดำสเปซแบล็ค
- iPhone 17 ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
- iPhone 17 Air ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
________________
ต่อมาเป็นสเปกของ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max
- หน้าจอ
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.3 นิ้ว และ 6.9 นิ้ว ตามลำดับ มีอัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz
- ชิปประมวลผล
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มาพร้อมกับชิป A19 Pro ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร
โดย Apple บอกว่าชิปตัวนี้มีประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า iPhone 16 Pro ถึง 40%
- กล้อง
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีความละเอียด 48MP ทั้ง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก, กล้อง Ultra-Wide และกล้อง Telephoto โดยยังคงความสามารถซูมแบบไม่ลดความละเอียดสูงสุด 8X จากเดิมที่ทำได้ 5X
โดย Apple บอกว่าได้อัปเกรดกล้องให้มีเซนเซอร์ใหญ่กว่า iPhone 16 Pro ราว 56%
iPhone ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการอัปเกรดกล้องหน้า จากเดิมความละเอียด 12MP เป็นความละเอียด 18MP
มาพร้อมฟีเชอร์ Center Stage
- ดิไซน์
iPhone 17 Pro และ Pro Max ใส่ Vapor Chamber สำหรับระบายความร้อนมาให้แล้ว โดย Apple บอกว่าระบายความร้อนดีกว่าไทเทเนียม 20 เท่า
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มาด้วยกัน 3 สี ได้แก่ ขาว, น้ำเงิน, ส้ม
- iPhone 17 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
- iPhone 17 Pro Max เริ่มต้นที่ 48,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
โดย iPhone 17 Series จะเริ่มวางขายในประเทศไทย 19 กันยายนนี้
สรุปราคา iPhone 17 Series ที่เพิ่งเปิดตัว โดยจะเปิดให้จองพร้อมกันวันแรก วันที่ 12 กันยายน 2568
โดยจะเปิดให้จองพร้อมกันวันแรก วันที่ 12 กันยายน 2568 และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันที่ 19 กันยายน 2568
https://www.facebook.com/share/p/19auJy1fLS/?mibextid=wwXIfr
- iPhone 17
256GB ราคา 29,900 บาท
512GB ราคา 37,900 บาท
- iPhone 17 Air
256GB ราคา 39,900 บาท
512GB ราคา 47,900 บาท
1TB ราคา 55,900 บาท
- iPhone 17 Pro
256GB ราคา 43,900 บาท
512GB ราคา 51,900 บาท
1TB ราคา 59,900 บาท
- iPhone 17 Pro Max
256GB ราคา 48,900 บาท
512GB ราคา 56,900 บาท
1TB ราคา 64,900 บาท
2TB ราคา 80,900 บาท
__________________________
รายละเอียดของ iPhone 17 Series แต่ละรุ่น
เริ่มต้นกันที่ iPhone 17 และ iPhone 17 Air
- หน้าจอ
iPhone 17 และ iPhone 17 Air ใช้หน้าจอ Super Ratina XDR ซึ่งมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.3 นิ้ว และ 6.5 นิ้ว ตามลำดับ มาพร้อมกระจก Ceramic Shield 2
และปีนี้ iPhone 17 ทุกรุ่นมีอัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz เช่นเดียวกับรุ่น Pro มีความสว่างสูงสุด 3,000 nits ซึ่งถือว่าเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญ สำหรับ iPhone
โดยหน้าจอของ iPhone 17 มีขนาดใหญ่กว่า iPhone 16 ซึ่งมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.1 นิ้ว
- ชิปประมวลผล
iPhone 17 ใช้ชิป A19 ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร ส่วน iPhone 17 Air ใช้ชิป A19 Pro ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร
แต่มีการอัปเกรดเรื่อง GPU ทำให้สามารถเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่บน iPhone 17 Pro และ Pro Max
นอกจากนี้ iPhone 17 Air ยังใช้งานชิปรับสัญญาณตัวใหม่จาก Apple คือ N1 ซึ่งรับสัญญาณได้ดีกว่า C1 เป็น 2 เท่า และประหยัดพลังงานมากกว่า iPhone 16 Pro ราว 30%
ซึ่ง Apple บอกว่า iPhone 17 Air เป็นรุ่นที่ประหยัดพลังงานที่สุด เท่าที่เคยมีมา
- กล้อง
iPhone 17 มีความละเอียดของกล้องหลัก 48MP แต่มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความคมชัดมากกว่าเดิม และกล้อง Ultrawide 12MP
iPhone 17 Air มีกล้องเพียงตัวเดียว และมีความละเอียดของกล้องหลัก 48MP
และ iPhone ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการอัปเกรดกล้องหน้าเป็นจากเดิมความละเอียด 12 MP เป็นความละเอียด 18MP ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ เพราะ Apple ไม่ได้อัปเกรดความละเอียดกล้องหน้า มาเป็นระยะเวลานาน
ที่น่าสนใจคือ มาพร้อมฟีเชอร์ Center Stage ซึ่งจะช่วยทำให้เราอยู่ตรงกลางเฟรมภาพเสมอ และตอนนี้เรายังสามารถใช้กล้องหน้าโดยถือมือถือเป็นแนวตั้ง แต่สามารถถ่ายภาพแนวนอนได้แล้ว
- ดิไซน์
โดยรวมไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมากนัก ไม่ว่าจะเป็น
ดิไซน์โค้งมนของตัวเครื่อง และ Dynamic Island ก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม รวมไปถึงการวางดิไซน์กล้องที่ยังเหมือนกับ iPhone 16
แต่ iPhone 17 Air มีดิไซน์ภายนอกที่โดดเด่นเรื่องความบาง มาพร้อมความทนทานเพราะเฟรมเครื่องทำจากไทเทเนียม นอกจากนี้ยังมีการวางกล้องแบบใหม่ที่มีเพียงแค่ตัวเดียว ซึ่งเป็นดิไซน์ที่ iPhone ไม่เคยทำมาก่อน
iPhone 17 มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีลาเวนเดอร์, สีเขียว (Teal), สีชมพู (Pink), สีดำ (Black) และ สีขาว (White)
ส่วน iPhone Air มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีทองอ่อน, สีสกายบลู, สีขาวปุยเมฆ, สีดำสเปซแบล็ค
- iPhone 17 ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
- iPhone 17 Air ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
________________
ต่อมาเป็นสเปกของ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max
- หน้าจอ
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.3 นิ้ว และ 6.9 นิ้ว ตามลำดับ มีอัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz
- ชิปประมวลผล
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มาพร้อมกับชิป A19 Pro ใช้กระบวนการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร
โดย Apple บอกว่าชิปตัวนี้มีประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า iPhone 16 Pro ถึง 40%
- กล้อง
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มีความละเอียด 48MP ทั้ง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก, กล้อง Ultra-Wide และกล้อง Telephoto โดยยังคงความสามารถซูมแบบไม่ลดความละเอียดสูงสุด 8X จากเดิมที่ทำได้ 5X
โดย Apple บอกว่าได้อัปเกรดกล้องให้มีเซนเซอร์ใหญ่กว่า iPhone 16 Pro ราว 56%
iPhone ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการอัปเกรดกล้องหน้า จากเดิมความละเอียด 12MP เป็นความละเอียด 18MP
มาพร้อมฟีเชอร์ Center Stage
- ดิไซน์
iPhone 17 Pro และ Pro Max ใส่ Vapor Chamber สำหรับระบายความร้อนมาให้แล้ว โดย Apple บอกว่าระบายความร้อนดีกว่าไทเทเนียม 20 เท่า
iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max มาด้วยกัน 3 สี ได้แก่ ขาว, น้ำเงิน, ส้ม
- iPhone 17 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
- iPhone 17 Pro Max เริ่มต้นที่ 48,900 บาท มาพร้อมความจุเริ่มต้น 256GB
โดย iPhone 17 Series จะเริ่มวางขายในประเทศไทย 19 กันยายนนี้