ผมคิดว่าคุณ ชวนนท์ บิดเบือนเรื่อง "การขึ้นทะเบียนเพียงฝ่ายเดียว" และ "การขอขึ้นทะเบียนร่วม"

จากข่าวนี้ โดยชวนนท์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การขึ้นทะเบียนร่วมนั้น จากการที่ผมไปค้นมา พบว่ามันน่าจะหมายถึง การที่ไทยเคยขอเอา ทรัพย์ที่อยู่ฝั่งไทย (สระตราว,สถูปคู่ ฯ)ไปผนวกรวมกับตัวปราสาทวิหาร  แล้วขอให้ยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนให้พร้อมกัน       

ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้เกิดในสมัยรัฐบาลสุรยุทธิ์  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

โดยการเสนอให้เป็นไปตาม  Transboundary Property   ตามกฏข้ออ 134 ของยูเนสโก้  http://whc.unesco.org/archive/opguide12-en.pdf

Transboundary properties
134. A nominated property may occur:
a) on the territory of a single State Party, or
b) on the territory of all concerned States Parties having adjacent borders (transboundary property).

    ต่อมา  ในสิ่งที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลกัมพูชาไม่ตกลงด้วย   เพราะเขาถือว่าพระวิหารเป็นของเขา ในเขตเเดนประเทศเดียว (ตามข้อ a. )
ดังนั้นโดยในทางกฏหมายและโดยการยึดเส้น L7017 ของไทย     

จึงไม่มีทางที่ใครจะไปบังคับเขาได้เลย  เพราะมันเป็นของ ที่เป็นของใครของมัน


   ในจังหวะแบบนี้ ไม่พลาดเลยที่คุณชวนนท์และพรรคพวก จะหยิบมาโจมตีใส่ร้ายกันง่ายๆ
ว่านพดลไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเพียงฝ่ายเดียว !    

      ทั้งที่พรรคพวกตัวเองนั่นแหล่ะ ที่ทำให้เรื่องราววุ่นวาย
ตอนเป็นรัฐบาลก็ไปประท้วง-ไปค้านยูเนสโก้ ให้เขาถอดพระวิหารออกจากมรดกโลก
ชายแดนตึงเครียด จนทำเกิดการยิงปืนใหญ่ใส่กันอย่างหนัก  
เขมรก็เลยไปฟ้องเสียเลย ว่าที่ศาลโลกเคยสั่งให้ทหารไทยถอยออกไปเมื่อ 2505 นั้น มันกินบริเวณเท่าใดกันแน่

จากที่เขมรเคยยอมเซ็นตกลงกับไทยเพื่อบริหารร่วมกันตรงพื้นที่ 4.6 (ก็คล้ายๆว่าขึ้นทะเบียนร่วมกันแหล่ะ)    โดยรัฐบาลสมัคร
ตอนนี้กลายเป็นต้องมานั่งลุ้นว่าไทยจะเจ๊าหรือเจ๊งในดินแดน 4.6 กันแน่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่